นโยบาย (Policy)
นโยบาย 4E (Environment for construction, Exercise
by facilitators, Expert with IT, Ethics in position
หรือ Image of Ethics) : จัดสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ ฝึกปฏิบัติจากครูปฏิบัติการ
พัฒนาให้เชี่ยวชาญด้วยสื่อสารสนเทศ องอาจในขอบเขตจริยธรรม ห้องปฏิบัติการนิเทศศาสตร์
เป็นแหล่งเรียนรู้และฝึกปฏิบัติของนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ที่ได้รับมอบหมายผลิตชิ้นงานจากอาจารย์ผู้สอน
เป็นแหล่งให้บริการในการผลิตสื่อต่างๆ ได้แก่ ภาพถ่าย สื่อวิทยุโทรทัศน์
(Video/Audio) สื่อผสม (Multimedia) และ แสง สี เสียง (Light and
Sound) ตลอดจนเป็นแหล่งเรียนรู้ด้วยตนเองทางด้านนิเทศศาสตร์ โดยผ่านครูปฏิบัติการ
(Facilitator) และสื่อสารสนเทศ จนเชื่อได้ว่าผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และการเปลี่ยนแปลงที่วัดค่าได้
ปัจจัยนำเข้า (Input)
โดยพื้นฐานแล้ว ประกอบด้วยองค์ประกอบ 7M คือ
1. บุคลากร
(Man) ได้แก่ นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ทั้งภาคปกติและภาคพิเศษ จะให้ความสำคัญมาเป็นอันดับหนึ่ง
ส่วนนักศึกษาคณะอื่นจะให้ความสนใจในลำดับรองลงไป โดยมีอาจารย์ผู้สอนประจำวิชาต่างๆ
คอยประสานงานกับครูปฏิบัติการ ในการจัดองค์ประกอบการเรียนรู้ต่างๆ
ให้แก่นักศึกษา
2. อุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ (Machine and Accessory)
ที่ใช้สำหรับฝึกปฏิบัติเรียนรู้ ได้แก่ อุปกรณ์ผลิตถ่ายภาพนิ่ง ภาพวิดีโอ
อุปกรณ์สำหรับห้องสตูดิโอ ห้องอัดขยายภาพ ห้องบันทึกเสียง ห้องนิทรรศการ
เวทีแสดงผลงาน อุปกรณ์แสง สี เสียง และคอมพิวเตอร์
3. วัสดุประกอบกิจกรรม
(Material) ได้แก่ วัสดุให้นักศึกษาฝึกปฏิบัติงานในวิชา (วัสดุสิ้นเปลือง)
รวมทั้งอาคารสถานที่ และสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เช่น
แผ่นป้ายป้ายนิทรรศการ แผ่นป้ายโฆษณา ประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
4. งบประมาณ
(Money) ที่สนับสนุนในการซ่อมแซม บำรุง พัฒนา และรักษาสภาพของวัสดุ
อุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ ซึ่งนำเสนอเป็นแผนงบประมาณประจำปีต่อคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย
เพื่ออนุมัติ
5. สื่อ (Media and Message) ซึ่งมีความจำเป็นเพราะเป็นพาหนะในการสร้างการเรียนรู้
ระหว่างอาจารย์ผู้สอน หรือผู้ช่วยอาจารย์ (Sender) และผู้เรียน (Receiver)
ซึ่งเป็นนักศึกษากลุ่มที่เข้ามาฝึกปฏิบัติ สื่อที่ใช้ในการปฏิบัติการทางนิเทศศาสตร์
ประกอบด้วย อาจารย์ผู้สอน หรือผู้ช่วยอาจารย์ (สื่อบุคคล) เอกสารสิ่งพิมพ์
ตำราเรียน (สื่อสิ่งพิมพ์) วิดีโอ วิทยุ โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต (สื่ออิเล็กทรอนิกส์)
นิทรรศการ และการศึกษานอกสถานที่ (สื่อเหตุการณ์)
6. ระเบียบวิธี
(Method) ที่นำมาใช้ในการบริหารจัดการ ให้นักศึกษาที่มาใช้บริการเกิดการเรียนรู้
ได้รับประสบการณ์ ประกอบด้วย หลักการเสริมสร้างศักยภาพบุคคล สื่อ
อุปกรณ์ หลักประกันด้านคุณภาพ และสุขภาพ ระเบียบวิธีการประเมินคุณภาพ
ความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับนักศึกษา และระหว่างนักศึกษาด้วยกันเอง
7. การบริหารจัดการ (Management) บุคคล วัสดุ งบประมาณ และเวลา
โดยบูรณาการด้วยระเบียบวิธีต่างๆ เพื่อให้เกิดผลผลิตที่มีคุณค่าสูง
เกิดประโยชน์และประหยัด ตรงเวลา
การดำเนินการ (Process)
เป็นการตัดสินใจเชิงเทคนิค ในการนำปัจจัยนำเข้าดังกล่าว มากำหนดรูปแบบองค์กร
แผนงาน
กิจกรรม ให้เกิดความเหมาะสม และทันสมัย ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายที่กำหนดไว้ตั้งแต่ต้น
การดำเนินการของการปฏิบัติการนิเทศศาสตร์ ประกอบด้วย
1. การตัดสินใจ
(Technical Processing) มาจากองค์ประกอบหลัก 2 ประการ คือ
1.1 ปัจจัยภายนอก (ปรโตโฆสะ) ได้แก่ ความคิดเห็นของนักศึกษา
ผู้ร่วมงาน อาจารย์ พนักงาน คนงาน ที่เกี่ยวข้อง 1.2 ปัจจัยภายใน
(โยนิโสมนสิการ) ได้แก่ หลักของความเป็นกลาง ความเป็นกลางต้องเข้าข้างคนดี
(คนดี คือ คนที่ไม่เห็นแก่ตัว) หลักความจริง 7 ประการ
ดี, ถูกต้อง, เป็นประโยชน์, ทำให้พ้นทุกข์ได้ หรือแก้ปัญหาได้,
มีความเป็นไปได้, รู้ได้สัมผัสได้จากรูปธรรมและนามธรรม, และท้าทายให้มาพิสูจน์ได้
หลักความจำเป็น 5 ประการ ความถี่ของพฤติการณ์, ความรุนแรง,
ผลกระทบ, ความยากง่ายในการแก้ไข, และ ประโยชน์สูง ประหยัดสุด
2. แผนดำเนินการ (Planing) เริ่มจาก
(1) วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน
ได้แก่ กายภาพและ
จิตภาพของบุคคล กิจกรรม วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือ งบประมาณ
(2) กำหนดโครงสร้างของคณะทำงานผู้รับผิดชอบ
ตลอดจนบทบาทและภาระหน้าที่
(3) จัดทำแผนกิจกรรม
(4) ลงมือปฏิบัติหน้าที่ตามแผนกิจกรรม
(5) การประชุมประเมินผลและติดตามงาน
3. กระบวนการกิจกรรม (Procedure)
หรือ แผนกิจกรรม ซึ่งประกอบด้วย กิจกรรม ระยะเวลาเริ่มต้น ระยะเวลาสิ้นสุด
และผู้รับผิดชอบ
ผลที่ได้รับ (Output)
คาดหวังว่า หลังจากได้ดำเนินงานตามขั้นตอนดังกล่าวแล้ว ต้องการผลที่เกิดขึ้นดังนี้1. องค์ความรู้
ที่เป็นสาระสำคัญ (Message) ที่นักศึกษาพึงได้รับ และสามารถนำไปสื่อสาร
หรืออธิบาย (Presentation) หรือแสดง (Exhibition) ให้ผู้อื่นเข้าใจได้
ตลอดจนสามารถวัดผลประเมินคุณภาพของผลผลิต หรือชิ้นงานได้2. ทุนทางสังคม
(Social Outputs) หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นแก่สังคม ซึ่งจะสร้างความผาสุกให้แก่
ส่วนรวมในระยะยาว และสร้างความเป็นเอกภาพ หรือหนึ่งเดียวให้แก่องค์กร
ได้แก่
2.1 การรับรองมาตรฐาน 5 ส. (สะสาง สะดวก
สะอาด สุขลักษณะ สร้างนิสัย) 2.2 การรับรองมาตรฐานสุขภาวะ
5 อ. (อาหาร อากาศ ออกกำลังกาย
อารมณ์ อิทธิบาท)
3. เกิดผลกระทบ (Impact) ต่อวิถีแห่งพฤติการณ์ และการตัดสินใจของบุคลากรในองค์กร
ตามลำดับขั้นของ 3 ล. คือ
(1) ลด ความสูญเสียอันเกิดจากความไร้ระเบียบ
ซึ่งมีต้นตอมาจากการตอบสนองความต้องการส่วนเกิน (กิเลส ตัณหา อุปาทาน)
(2) ละ หน่าย คลาย ห่าง จากปัญหาหรือความขัดแย้งที่มีอยู่ก่อนซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้
เพื่อมิให้ปัญหานั้นรุนแรง ลุกลาม มากกว่าเดิม โดยไม่สร้างหรือเป็นต้นเหตุให้ปัญหาหรือความขัดแย้งเหล่านั้นสัมฤทธิ์ผล
(3) เลิก สนับสนุนปัจจัย หรือสาเหตุที่จะทำให้เกิดปัญหาหรือความขัดแย้งในองค์กร
และสังคม