หน้าแรก - ชุมชน คนคิดดีวรรณกรรม - วิชาการ - บทความ เรื่องสั้น ร้อยกรอง เพลงภาพยนตร์ - บทภาพยนตร์ ภาพยนตร์ตัวอย่าง วิดีโอ มิวสิควิดีโอ
นิเทศศาสตร์ - วิชาเรียน บรรยาย ตำรา เอกสารการเรียน สื่อการเรียน ถาม ตอบ

 

ภาคที่ 1
ตามหารัก อุปสรรคไม่ท้อ

บทที่ 2   สังข์ เอื้อย โสนน้อย

ตอนที่ 4

อดีตที่เติบโต

ตอนที่แล้ว ... ตอนที่ 3/105

 

ชุมชนบ้านแสงสุข เป็นหมู่บ้านชนบท ที่มีภูมิทัศน์สวยงาม. น้ำตกที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน เป็นต้นน้ำของลำธารสายหลัก ซึ่งไหลผ่านกลางหมู่บ้าน. สวนผักสวนผลไม้ ของชาวบ้านที่นี่ อุดมสมบูรณ์. การซื้อขายแลกเปลี่ยน เป็นไปแบบมิตรภาพ. ผู้คนที่นี่รักสงบ รักสะอาด ถนนหนทาง บ้านเรือน ดูสะอาดตา.

อีกฟากหนึ่งของลำธารน้ำ, ห่างออกไปราว 2 กิโลเมตร ก็เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่ง. ชาวบ้านทั้งสองหมู่ ตกลงกัน สร้างโรงเรียน และสถานีอนามัย ไว้ที่ตรงกึ่งกลาง ระหว่างหมู่บ้านทั้งสอง ซึ่งอยู่ติดริมลำธาร.

 

จันทนีและลูก ช่วยตาเปลวกับยายปิ่น ดูแลสวนผักสวนผลไม้. ใช้ชีวิตมีความสุข แบบคนชนบท หลายปีต่อมา เพื่อให้ลืมอดีตที่เลวร้ายลงไป. จันทนี มองดูลูกน้อย เติบโตอย่างมีความสุข. แต่อดีตที่โหดร้าย ก็คอยกลับมารบกวนความสงบสุขของเธอ ไม่ขาดระยะ. บุคลิกของเธอ เต็มไปด้วยรอยยิ้มปนเศร้า ตลอดเวลา.

 

บ่อยครั้ง จันทนี แอบมานั่งร้องไห้ ที่ริมลำธารน้ำ ใต้ต้นหว้าใหญ่. รู้สึกเสียใจ ผิดหวัง กับชีวิตที่ผ่านมา.

 

หลังจากเรียนจบ ชั้นมัธยมในอำเภอ, จันทนี สอบชิงทุนได้ ไปเรียนที่มหาวิทยาลัย ในเมืองหลวง. แม้จะเป็น จุดเปลี่ยนผันชีวิตครั้งสำคัญ แต่จันทนี ก็ไม่ลืมอดีตที่แท้จริง ของตนเอง. ไม่ลืมความยากลำบาก ของตากับยาย ที่เลี้ยงมา. แต่ความรัก ทำให้เธอต้องตัดสินใจ เลือกทางเดินชีวิต. ซึ่งเมื่อนับมาถึงวันนี้, เธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า มันถูกหรือผิด. ถ้าเธอไม่แต่งงานกับ ยศกร, ชีวิตของเธอ อาจไม่เป็นอย่างทุกวันนี้ก็ได้.

ขณะนั้น ยศกร เป็นเพียงข้าราชการหนุ่ม, เลื่อนขึ้นมา เป็นปลัดจังหวัดใหม่ๆ เพราะความหล่อ รูปงาม พวกสาวๆ ต่างพากันหลงเสน่ห์ของเขา. เธอเอง ก็ไม่ต่างจากสาวๆ พวกนั้น, เพียงแต่เธอโชคดีกว่า. เธอเอง ก็ไม่แน่ใจว่า เป็นเพราะพรหมลิขิต หรือเรือนร่าง ที่ฉุดชีวิตของเธอ จากสาวบ้านป่า ขึ้นมาเป็นภรรยาของปลัดหนุ่ม, เพียงไม่กี่เดือน ก่อนที่เขา จะถูกเลือกเป็น ผู้ว่านครวิชัยยศ.

ต่อจากนั้น, เสียงวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับประวัติและที่มา ของภรรยา ผู้ว่านครวิชัยยศ ก็ตามมา. แต่เธอก็สยบข่าวลือต่างๆ ได้ ด้วยความฉลาด และบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือ.

 

ความรู้สึกสูญเสีย เศร้าใจ ของจันทนี ใครเลยจะเข้าใจได้ดี เท่ากับยายปิ่น. นางสังเกตเห็นหลานสาว เศร้าซึมเช่นนั้น จึงเดินเข้าไปปลอบ -

 

“จันทน์ เอ็งก็อย่าไปคิดไปนึกอะไร ให้มันมากนัก” เสียงยายปิ่น กึ่งปลอบใจ กึ่งถาม “ว่าแต่ว่า ผัวเอ็งเขาไม่ติดต่อมาเลยรึ ? นี่ก็ห้าปีแล้วนะ” จันทนี ส่ายหน้า มองหน้ายาย เหมือนจะร้องไห้.

“ยายจ๋า ทุกวันนี้ ฉันอยู่ไป ก็เพื่อสังข์ ถ้าไม่มีลูก ฉันก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่”

“เออๆ ยายรู้ แต่ก็อย่าเป็นห่วงไปเลย ครอบครัวเรา ก็ไม่มีใคร นอกจากเอ็งกับลูก ยายกับตา ก็เป็นไม้ใกล้ฝั่ง เข้าไปทุกวัน ก็มีเอ็งเท่านั้น ที่เป็นญาติรุ่นสุดท้าย พอจะฝากผีฝากไข้ ... นี่ถ้าเอ็งเป็นอะไรไปอีกคน ยายก็ไม่มีใครที่ไหนอีกแล้วละ”

 

คำพูดของยายปิ่น กระตุ้นความสำนึกกตัญญู ขึ้นมาอีกครั้ง. ความท้อแท้ในชีวิต มลายหายไป, ยิ่งท้อ มันก็เหมือนเห็นแก่ตัว. เมื่อนึกถึงตายกับยาย ก็ช่วยให้มีกำลังใจขึ้นมา, คุณค่าในชีวิตของคน ไม่ใช่ว่าจะได้ ในสิ่งที่ปรารถนาเสมอไป แต่อยู่ที่ ใครจะพอใจ ตอบสนอง ในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ ได้มากกว่า โดยเฉพาะ ต่อผู้มีพระคุณ. เมื่อคิดได้เช่นนี้ จันทนี ก็โผเข้ากอดยายปิ่น และยิ้มออกมาอย่างมีความสุข.

 

“ยายจ๋า ฉันขอโทษ ฉันจะดูแลยายกับตาจ้ะ ฉันจะเข้มแข็งให้มากกว่านี้”

“สังข์ ลูกของเอ็ง ก็โตขึ้นทุกวัน ดูจะติดเล่นไปหน่อย แต่ก็เป็นเด็กฉลาดนะ ตัวเล็กก็จริง แต่ก็ซุกซนเหมือนเด็กโต” ยายปิ่นพูดต่อ ตัดบท.

“อ้าว! ยายพูดยังไม่ทันไร ก็โผล่มาโน่นแล้ว”

“แม่ … หง่อม หนูอยู่นี่”

 

สังข์ ตะโกนเรียก ขณะว่ายน้ำเล่นในลำธาร กับเพื่อนๆ ใช้มือตีน้ำในลำธาร กระจายไป จนกระเด็นไป เกือบถึงยายปิ่น ยายปิ่นผงะเล็กน้อย ส่ายหัว หัวเราะอย่างมีความสุข. จันทนี ก็พลอยยิ้มไปด้วย เสียงหัวเราะ ขับไล่ความเศร้าของเธอออกไป.

 

…

 

สังข์ เป็นเด็กร่าเริง รักและหวงแหนของเล่น ตามประสาเด็ก, แต่มีลักษณะพิเศษ แตกต่างจากเด็กทั่วไป. คือ เป็นเด็กที่ตั้งใจเล่น ตั้งใจทำงาน และ มีสมาธิในการจดจำ สัมผัสได้ดี และมีความกตัญญู รับผิดชอบ มากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน.

ลูกชาวบ้านทั่วไป จะถูกส่งไปเรียน ที่โรงเรียน เมื่ออายุได้ 5 – 6 ขวบ. แต่สังข์ ไม่ยอมไป. แม่พยายามแล้ว บอกแล้ว หลายครั้ง ก็ไม่เป็นผล, วันๆ เอาแต่เล่นกับเด็กคนอื่นๆ ที่ยังไม่ถึงเกณฑ์ไปเรียน. นานวันเข้า สังข์ ก็กลายเป็นเด็กโตที่สุดในกลุ่ม เพื่อนเล่น.

 

วันหนึ่ง ระหว่าง จันทนี กำลังเตรียมข้าวของ เครื่องใช้อยู่ที่ชานหน้าบ้าน เพื่อออกไปทำงานที่สวน. สังข์ นั่งเล่นคนเดียว อยู่ที่กลางลานบ้าน เธอตะโกน สั่งกำชับลูกก่อนไป.

“แม่จะออกไปทำงานแล้ว ไม่มีใครอยู่บ้าน ขึ้นบ้านมากินข้าวได้แล้ว ลูก”

เด็กสังข์ ยังนั่งเล่น เหมือนไม่ฟังเสียงของแม่ จันทนี ลงบรรไดบ้าน เดินตรงเข้าไปหา แล้วขู่ต่อ.

“ประเดี๋ยวแม่กลับมา จะส่งไปโรงเรียนพรุ่งนี้แหละ”

 

เมื่อได้ยินคำว่า ไปโรงเรียน สังข์ถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย. หยุดเล่น มองหน้าแม่ วางของเล่น ลุกขึ้นวิ่งไปที่บรรไดบ้าน และรีบขึ้นไปข้างบน หายลับเข้าไปในครัว. จันทนี ตามลูกไป และนั่งกินข้าวพร้อมกัน.

 

“ลูกอยู่บ้าน ดูแลนก ดูแลไก่ให้ดี อย่าให้ขึ้นมาบนบ้าน มาจิกกินข้าวของที่หง่อมเขาตากไว้” สังข์ กินข้าวไป และมองหน้าแม่ เป็นระยะ.

“แม่พูด ฟังแม่บ้างซิ” แม่ยังบ่นไม่หยุด “อย่าแอบไปเล่นน้ำคนเดียว ได้ยินไหม๊ ?” สังข์ พยักหน้า ไม่พูดอะไร.

 

อิ่มแล้ว จันทนี ก็คว้าหาบ คอนสิ่งของเครื่องใช้ ออกไปทำงานที่สวน.

เวลาผ่านไปไม่นาน ก็มีพวกเด็กๆ มาตะโกนเรียก ให้ออกไปเล่นด้วย. เขามองไปรอบๆ บ้าน นึกถึงคำเตือนของแม่ ก็สะดุดนิดหนึ่ง และใคร่ครวญพิจารณา. มันอาจถึงเวลา ที่เขาควรจะโตได้แล้ว.

สังข์ รู้สึกสงสารแม่ขึ้นมาทันที. ลุกขึ้นไปจับไม้กวาด และผ้าถูบ้าน เก็บกวาดบ้าน จนสะอาด และคอยไล่ไก่ ที่แอบขึ้นมาบนบ้าน. เมื่อรู้สึกเบื่อ ก็หาฝาชีมาครอบกระด้ง ที่ตากไว้ ไม่ให้ไก่และนก มาจิกกิน. แต่เด็กก็คือเด็ก งานเสร็จแล้ว ก็ลืมคำสั่งของแม่เสียสนิท. เมื่อเพื่อนๆ เรียก ก็ลงจากบ้าน ตามไปเล่นด้วย.

 

พวกเด็กๆ พากันว่ายน้ำเล่น ที่ลำธารตื้นๆ หลายชั่งโมงผ่านไป. ใกล้เวลาที่แม่จะกลับบ้าน สังข์รีบขึ้นจากน้ำ. วิ่งกลับบ้าน ปล่อยให้เพื่อนๆ เล่นตามลำพัง.

 

ตกเย็น จันทนี ตาเปลว ยายปิ่นกลับมา เห็นลูกสังข์นั่งเล่นของเล่น เหมือนปกติ ก็ไม่รู้สึกอะไร. แต่เมื่อขึ้นไปบนบ้าน เธอรู้สึกผิดสังเกต กับสิ่งของที่อยู่บนบ้าน. ปกติ มันจะวางระเกะระกะ ตอนออกจากบ้านเมื่อเช้า แต่มาเวลานี้ ข้าวของต่างๆ ในบ้านเรือน ถูกจัดเก็บเรียบร้อย, พื้นก็สะอาดขึ้น. ยายปิ่น พูดแกมตลกขึ้นว่า

“บ้านเรา ท่าจะมีเทวดา มาช่วยกวาดถูให้นะเนี่ย”

“แก อย่าเพ้อน่า ยายปิ่น เทวดงเทวดา มีที่ไหนกันล่ะ จะมีก็แต่ เจ้าสังข์ อยู่เฝ้าบ้าน”

ตาเปลว พูดสวนขึ้น ขณะที่ จันทนี มองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นมีคนอื่น จึงเอ่ยถามลูกชาย.

“สังข์ มีใครมาบ้านรึเปล่า ?” สังข์ ไม่ตอบ มองหน้าแม่ แล้วส่ายหน้า เล่นของเล่นต่อ.

 

วันต่อมา ก่อนที่จันทนี จะออกไปทำงาน, เธอรู้สึกเป็นห่วงลูก จึงเอ่ยปากชวนลูกชาย ให้ออกไปสวนด้วยกัน เพราะเกรงว่า จะมีคนอื่นแอบขึ้นมาบนบ้าน. แต่สังข์ ก็ยังนั่งเล่นอยู่คนเดียว ตามลำพัง ไม่ยอมไปด้วย. เธอจะขู่บังคับอย่างไร ก็ไร้ผล จนรู้สึกอ่อนใจ ยอมให้ลูก อยู่เฝ้าบ้านเหมือเช่นทุกวัน.

 

เมื่อถึงเวลาเลิกงานในสวน ทุกคนกลับมาบ้าน. ก็รู้สึกประหลาดใจอีกครั้ง เมื่อพบว่า บ้านเรือนดูสะอาดกว่าเก่ามาก ข้าวของถูกจัดระเบียบ เหมือนมีคนมาช่วยทำ. จันทนี เก็บความสงสัยไว้ในใจ.

 

สองวันถัดมา, จันทนี ทำทีบอกให้ ตากับยาย ออกไปทำงานก่อน แล้วเธอจะตามไปทีหลัง. แต่ก่อนไป ก็บอกกับลูกชายว่า -

“แม่จะไปแล้ว อยู่เฝ้าบ้านนะลูก”

 

จันทนี ทำทีเดินจากรั้วบ้านออกไป. เมื่อพ้นสายตาลูก เธอก็หลีกไปข้างทาง แอบซุ่มดูว่า มีคนร้ายแอบขึ้นบ้านหรือไม่.

เวลาผ่านไปไม่นาน เธอก็รู้ความจริงว่า บ้านเรือนสะอาด ข้าวของถูกจัดวาง เป็นระเบียบนั้น เป็นเพราะลูกชายของเธอนั่นเอง. เธอครุ่นคิด รำพึงในใจว่า เพราะของเล่นนี่เอง เป็นต้นเหตุ ให้ลูกสังข์ไม่อยากไปโรงเรียน และไม่ยอมเป็นผู้ใหญ่เสียที ... เธอต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว!

 

จันทนี ไม่รีรอ เดินตรงขึ้นไปบนบ้าน คว้าดุ้นฟืนขนาดเหมาะมือ ฟาด ทุบ ... โครม! ลงไปที่ของเล่น ราวกับว่าเธอโกรธใครมา ท่ามกลาง เสียงร้องห้ามของลูกชาย. จันทนี ทุบของเล่นพังไปหลายชิ้น โดยไม่ทันคิดว่า ของเล่นเหล่านั้น ตายกับยาย อุตส่าห์ตั้งใจ ทำให้เหลนเล่น ล้วนแต่เป็นของดีๆ ทั้งนั้น.

เมื่อได้สติ เธอก็ร้องไห้เสียใจ ทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆ ลูกชาย ที่กำลังคลานไปหยิบฉวย คว้าเอาชิ้นส่วนของของเล่น ที่แหลกละเอียด มากอดไว้ในอก. จันทนี โอบกอดลูกไว้แน่น แต่สังข์ฮึดฮัด ด้วยความโกรธ อยู่ครู่หนึ่ง ร้องไห้คร่ำครวญ เสียดายของเล่น.

 

“ฮือ ฮือ ของของหนู แม่ทุบทำไม?”

 

จันทนี เกรงว่าลูกจะเสียใจไปมากกว่านี้, จึงโอบกอดลูกไว้แน่น และปลอบโยนลูก

“ลูกโตแล้ว ของเล่นพวกนี้ มันเป็นของเด็กเล็กๆ และมันทำให้ลูกไม่อยากไปโรงเรียน แม่สัญญา แม่สัญญาว่า จะหาของเล่นใหม่ให้ลูก ดีกว่าเก่า สนุกกว่าเก่านะลูก … อย่าเอาแต่ร้อง ฟังแม่ซิลูก”

แต่สังข์ ก็ยังไม่หยุดร้อง จันทนี จึงพูดปลอบ ด้วยเหตุผลอื่น.

“ถ้าลูกกลัวโรงเรียน พรุ่งนี้ แม่จะไปด้วย แม่จะพาสังข์ ไปเล่นของเล่นใหม่. ที่โรงเรียน มีของเล่นเยอะกว่านี้ … ฟังนะลูก ที่โรงเรียน มีม้าตัวเล็กๆ เยอะแยะเลย มันมีขา ขามันขยับไม่ได้ แต่มันวิ่งได้ เคยเห็นไหม๊ลูก?”

“ม้าอะไร แม่?” สังข์ หยุดร้องไห้ “ขาขยับไม่ได้ แต่วิ่งได้”

 

วันรุ่งขึ้น, จันทนี แต่งตัวให้สังข์ ด้วยเสื้อผ้าใหม่ และพาลูกชาย ไปโรงเรียนแต่เช้า.

วันแรกที่ไปโรงเรียน, สังข์ รู้สึกตื่นกลัวเล็กน้อย. แต่เมื่อมองไปที่ สนามเด็กเล่น ซึ่งโรงเรียน จัดหาซื้อของเล่นใหม่ๆ หลายชิ้น เพื่อล่อตาล่อใจ ให้เด็กอยากมาโรงเรียน ในวันรับเด็กเข้าใหม่.

จันทนีบอกลูก และชี้ไปที่ เครื่องเล่นม้าหมุน. สังข์ ลืมความวิตกเมื่อสักครู่ ไปสนิท เมื่อเห็นของเล่นใหม่. เขาวิ่งขึ้นไปนั่งคร่อม บนม้าหมุน พร้อมกับเด็กคนอื่นๆ. มีเด็กตัวโตกว่า ใช้มือผลัก ให้ม้าเคลื่อนหมุนไปโดยแรง. คราวนี้ เด็กสังข์ ไม่รู้สึกกลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว.

 

รุ่งขึ้นอีกวัน, สังข์ เดินทางไปโรงเรียนเอง พร้อมกับเด็กคนอื่นๆ และก็กลับเองได้. เพราะบ้านอยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนมากนัก. สังข์ เป็นเด็กดี มีสัมมาคารวะ รู้จักทักทายคน สองข้างทางที่เดินผ่าน มักจะมีผู้คนทักทายด้วยเสมอ.

 

เย็นวันหนึ่ง, จันทนี เลิกงานก่อนเวลา ยังไม่แวะบ้าน แต่ไปรับลูกที่โรงเรียนก่อน. เมื่อไปถึง เป็นเวลาโรงเรียนเลิกพอดี เธอจึงนั่งรอรับลูก. ที่เก้าอี้ม้าหิน ใต้ร่มจามจุรีใหญ่ ครูเพ็ญ สังเกตเห็น จึงเดินมาทักทาย และร่วมสนทนาด้วย.

“ผู้ปกครอง สังขวุฒิ ใช่ไหมคะ?”

“ค่ะ ดิฉัน จันทนีค่ะ”

“เรียกฉันว่า ครูเพ็ญก็ได้ค่ะ”

“สังข์ เอ่อ สังขวุฒิ เขาดื้อไหมคะ?”

“ไม่ ไม่เลย เขาดูเรียบร้อยดีนี่ค่ะ แต่ติดเล่นไปหน่อย คือ ลูกชายคุณ เข้าเรียนช้ากว่าเด็กทั่วไป เกือบสองปี ทำให้ดูตัวโตกว่าเพื่อน”

“ดิฉัน พยายามจะให้เขามาเรียน แต่เห็นว่ายังไม่พร้อม และไม่อยากขัดใจลูก ก็เลยมาเรียนเอาตอนโต ไม่สายเกินไปนะคะครู”

“ไม่หรอก เด็กที่มีวุฒิภาวะ พร้อมที่จะเรียน เมื่อไหร่ก็เรียนได้ คุณนี่ช่างโชคดี ที่มีลูกไม่ดื้อ ว่าง่ายสอนง่าย ดูซิ! มาโรงเรียนไม่กี่วัน เพื่อนๆ ก็มารุมเล่นด้วยจนเต็ม”

“เหรอคะ”

 

ครูเพ็ญ หันไปมอง เด็กหญิงสองคน ที่กำลังนั่งเล่นกับ เด็กสังข์, คนหนึ่ง ตัวดำมอมแมม อีกคน ตัวเล็กๆ บอบบาง ผิวขาว ครูเพ็ญเล่าให้ จันทนี ฟังว่า -

 

“เด็กคนนั้น ชื่อ เอื้อย” ครูเพ็ญ ชี้ไปที่เด็กหญิง ตัวดำมอมแมม “เป็นเด็กที่น่าสงสาร แม่แท้ๆ หายตัวไป เห็นชาวบ้านลือว่า หนีไปมีสามีใหม่ เพราะทนลำบาก กับสามีคนเก่าไม่ได้ หลังแม่หนีไป ก็ทิ้งไว้ให้แม่เลี้ยงคนใหม่ดูแล ที่ว่าโชคร้าย ก็คือ แม่เลี้ยง มีลูกติดมาด้วยคนหนึ่ง อายุแก่กว่า เด็กเค้าคงไม่ถูกกัน พอมาโรงเรียน เอื้อยจะมีรอยฟกช้ำ ให้เห็นบ่อยๆ ไม่ถูกพี่สาวรังแก ก็คงจะถูกแม่เลี้ยงตีเอา มันเป็นเรื่องในครอบครัวของเค้า ดิฉันไม่รู้จะทำยังไง”

 

“ส่วนเด็กอีกคน ตัวเล็กๆ หน้าตาดีๆ ขาวๆ นั่นแหละค่ะ” จันทนี หันไปมองเด็กคนนั้น ครูเพ็ญ เล่าต่อว่า “นั่นชื่อ โสนน้อย รายนี้น่าสงสารที่สุดเลยละค่ะ ครอบครัวก็ยากจน แม่ตายวันที่เธอคลอด ไม่นาน พ่อก็แต่งงานใหม่ พ่อเค้าชอบดื่ม เมาเกือบทุกวัน แล้วก็ดุด่าลูก หาว่าลูกเป็นกาลกิณีบ้าง เป็นอัปมงคลบ้าง อะไรของเขาก็ไม่รู้”

“น่าสงสารเด็กนะคะ” จันทนี พูดกับ ครูเพ็ญ.

 

ในระหว่างเล่นกับเพื่อน สังข์ มองเห็นแม่มารับ จึงบอกเลิกเล่นกับเพื่อนๆ เดินเข้าห้องเรียน ไปหยิบกระเป๋าหนังสือ แล้วเดินมาหาแม่.

“ดิฉัน ลาละค่ะ”

 

จันทนี จูงลูกไปด้วย ขณะเดียวกัน ก็อดไม่ได้ ที่จะหันกลับไป ชำเรืองดู เด็กเอื้อย กับเด็กโสนน้อย อีกครั้ง. โลกนี้ ยังมีคนที่ลำบากอีกมาก ที่ควรได้รับความช่วยเหลือ. ส่วนเธอเอง นับว่าโชคดีกว่า แม้ว่า ยศกร จะไม่เชื่อและไม่ยอมรับว่า สังข์ คือลูกแท้ๆ ไม่ใช่ลูกชู้ อย่างที่ เมธาวรรณ ใส่ความ. เมื่อคิดได้ดังนี้ จันทนี รู้สึกมั่นใจ และมีกำลังใจ ที่จะอยู่สู้ชีวิต เพื่อเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด.

 

จันทนี พาลูกกลับบ้าน ผู้ปกครองคนอื่นๆ ก็ทยอยกลับกันไปเกือบหมด เพื่อนครูอีกคน ก็เดินมาพูดกับ ครูเพ็ญ.

“ฉันว่า แม่ของ สังขวุฒิ ไม่น่าจะใช่ชาวบ้านธรรมดา ดูเธอ มีกิริยามารยาท เป็นผู้ดี”

“รึว่า เป็นผู้ดีตกยาก มาจากถิ่นอื่น อาจเป็นได้นะเธอ” ครูเพ็ญ ออกความเห็นบ้าง.

 

อ่านต่อ ... ตอนที่ 5/105

 

สารบัญ / ตอนที่

ปฐมบท -

แสงแรกของเรื่องราว


ภาคที่ 1: ตามหารัก อุปสรรคไม่ท้อ


บทที่ 1   ต้นเหตุของเรื่องราว

(1) ละครชีวิตแห่งนครวิชัยยศ (ตอนที่ 1/105)
(2) รัก ริษยา อาฆาต อำนาจมัวเมา (ตอนที่ 2/105)
(3) อำลาที่ขมขื่น (ตอนที่ 3/105)

บทที่ 2   สังข์ เอื้อย โสนน้อย

(1) อดีตที่เติบโต (ตอนที่ 4/105)
(2) เพื่อนใหม่ผู้น่าสงสาร (ตอนที่ 5/105)
(3) จินตนาการ นิทาน ความฝัน (ตอนที่ 6/105)

บทที่ 3   วันสังหาร

(1) ชีวิตที่โหยหา (ตอนที่ 7/105)
(2) พินัยกรรมริษยา (ตอนที่ 8/105)
(3) คำสั่งลับ (ตอนที่ 9/105)

บทที่ 4   ชีวิตใหม่กลางภูผา

(1) ภาระใหม่ของนาเคนทร์ (ตอนที่ 10/105)
(2) ความลี้ลับของป่า (ตอนที่ 11/105)
(3) บทเรียนชีวิต (ตอนที่ 12/105)
(4) เวทกล มนตร์สู้ปีศาจ (ตอนที่ 13/105)
(5) ส่งเด็กกลับบ้าน (ตอนที่ 14/105)

บทที่ 5   ภูติร้ายในป่ามรณะ

(1) ประตูมายาแห่งป่า (ตอนที่ 15/105)
(2) ภาพลวงตา (ตอนที่ 16/105)
(3) กลลวงปีศาจ (ตอนที่ 17/105)
(4) หุบผาหมอก (ตอนที่ 18/105)

บทที่ 6   ประตูเวลาที่เรือนปีศาจ

(1) การมาเยือน ของมนุษย์นอกจักรวาล (ตอนที่ 19/105)
(2) ประตูเวลา ของพวกเอเลี่ยน (ตอนที่ 20/105)

บทที่ 7   หนอนทะเลทราย

(1) สู่ทะเลทราย (ตอนที่ 21/105)
(2) หนอนยักษ์ มฤตยูใต้ดิน (ตอนที่ 22/105)

บทที่ 8   หลุมดำดูดเวลา และการตามล่าของมนุษย์นอกจักรวาล

(1) หมู่บ้านไร้เวลา (ตอนที่ 23/105)
(2) จุดจบของพวกเอเลี่ยน (ตอนที่ 24/105)

บทที่ 9   พบเพื่อนใหม่

(1) สองพี่น้องชาวเล (ตอนที่ 25/105)
(2) ปริศนาเฒ่าทะเล (ตอนที่ 26/105)
(3) ความลับ (ตอนที่ 27/105)
(4) แผนเดินทาง (ตอนที่ 28/105)
(5) บทเรียนบนเรือรบ (ตอนที่ 29/105)

บทที่ 10    ผจญภัยกลางมหาสมุทร

(1) เขตย้อนเวลา (ตอนที่ 30/105)
(2) บนเรือโจรสลัด (ตอนที่ 31/105)
(3) ผีเสื้อสมุทร และหมึกยักษ์ (ตอนที่ 32/105)
(4) เกาะร้าง (ตอนที่ 33/105)
(5) นิมิตแห่งตำนานสายฟ้าอสูร (ตอนที่ 34/105)

บทที่ 11   ปาฏิหาริย์ของเทพแห่งลิง

(1) อาวุธมีเจ้าของ (ตอนที่ 35/105)
(2) ปาฏิหาริย์ลิงเผือก (ตอนที่ 36/105)
(3) ปริศนาคำทำนาย (ตอนที่ 37/105)
(4) อากาศยานช่วยชีพ (ตอนที่ 38/105)
(5) อวสานเกาะร้าง (ตอนที่ 39/105)

 

ภาคที่ 2: ฝ่าอุปสรรค เพื่อรักและอิสรภาพ


บทที่ 12   นครพันธุรัฐ เมืองคนทาส

(1) เชลย (ตอนที่ 40/105)
(2) ทาสใหม่ (ตอนที่ 41/105)
(3) นายหญิง เจ้าแห่งนครพันธุรัฐ (ตอนที่ 42/105)
(4) สถานภาพใหม่ของสังข์ (ตอนที่ 43/105)
(5) ความลับของนาเคนทร์ (ตอนที่ 44/105)

บทที่ 13   เทคโนโลยีล่องหน

(1) ห้องลับของนายหญิง (ตอนที่ 45/105)
(2) นวัตกรรมการอำพราง (ตอนที่ 46/105)
(3) เสน่ห์แห่งอำนาจ (ตอนที่ 47/105)
(4) ความลับที่ต่อรองกันได้ (ตอนที่ 48/105)

บทที่ 14   แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 1)

(1) แผนหลบหนี (ตอนที่ 49/105)
(2) ประตูแห่งอิสรภาพ (ตอนที่ 50/105)
(3) หนี (ตอนที่ 51/105)

บทที่ 15   เส้นทางที่พลัดพราก

(1) หมู่บ้านมนุษย์กินคน (ตอนที่ 52/105)
(2) พลายงาม เพื่อนร่วมทางคนใหม่ (ตอนที่ 53/105)
(3) นางพิม (ตอนที่ 54/105)
(4) เปลี่ยนร่างอำพรางหนี (ตอนที่ 55/105)

บทที่ 16   เมืองกาญจนา

(1) วัดส้ม เมืองกาญจนา (ตอนที่ 56/105)
(2) ธัมมะกับชีวิต (ตอนที่ 57/105)
(3) ไปพบย่าทอง (ตอนที่ 58/105)

บทที่ 17   บ้านของย่าทอง

(1) สายสัมพันธ์ย่าหลาน (ตอนที่ 59/105)
(2) ความสุขในเรือนทอง (ตอนที่ 60/105)
(3) ความสุข ความพอเพียง (ตอนที่ 61/105)

บทที่ 18   วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน

(1) วัยรัก วัยเรียน (ตอนที่ 62/105)
(2) ความรักที่ก่อตัว (ตอนที่ 63/105)
(3) แสงสีแห่งชนบทยามค่ำคืน (ตอนที่ 64/105)
(4) เรื่องวุ่นวาย ของวัยรุ่น (ตอนที่ 65/105)

บทที่ 19   ความรัก ความหวัง ยังไม่สิ้น

(1) เส้นทางรัก โสนน้อย สร้อยมณี (ตอนที่ 66/105)
(2) บวชพลายงาม (ตอนที่ 67/105)
(3) ลางบอกเหตุ (ตอนที่ 68/105)
(4) ทางรัก ทางธรรม (ตอนที่ 69/105)

บทที่ 20   ตามหาเพื่อน

(1) ก้าวใหม่ของ นครพันธุรัฐ (ตอนที่ 70/105)
(2) รหัสสื่อสาร 213 ที่ยังจำกันได้ (ตอนที่ 71/105)
(3) นักบินฝึกหัด (ตอนที่ 72/105)

บทที่ 21   แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 2)

(1) เปิดฉากหนี (ตอนที่ 73/105)
(2) ปิดฉากทาสนรก (ตอนที่ 74/105)

 

ภาคที่ 3:   รักนิรันดร์ ฝันเป็นจริง


บทที่ 22   เดินทางไกล ไปตามฝัน

(1) สิงห์ดำ (ตอนที่ 75/105)
(2) เมืองแห่งความฝัน (ตอนที่ 76/105)

บทที่ 23   นครรัฐเทพนารา

(1) นรกบนเมืองสวรรค์ (ตอนที่ 77/105)
(2) สวรรค์ในเมืองนรก (ตอนที่ 78/105)
(3) บทเรียนของแพรวา (ตอนที่ 79/105)
(4) งานเลี้ยงที่มีวันเลิกลา (ตอนที่ 80/105)

บทที่ 24   ชีวิตใหม่ ใจกลางมหานคร

(1) แดนคนเถื่อน (ตอนที่ 81/105)
(2) เพื่อนรัก (ตอนที่ 82/105)
(3) แดนคนดี (ตอนที่ 83/105)

บทที่ 25   ชีวิตจัดสรร ณ สันติอรุณ

(1) สวรรค์ลิขิต (ตอนที่ 84/105)
(2) ชีวิตจัดสรร (ตอนที่ 85/105)
(3) วิถีชีวิต วิถีชุมชน (ตอนที่ 86/105)
(4) คุณครูมือใหม่ (ตอนที่ 87/105)

บทที่ 26   สัมผัสแรก สัมผัสรัก

(1) เบื้องหลังของหญิงสาว (ตอนที่ 88/105)
(2) ประสบการณ์ที่มีค่า ของรจนารินี (ตอนที่ 89/105)
(3) ของสำคัญ ที่ต้องหาให้เจอ (ตอนที่ 90/105)

บทที่ 27   สังข์ทอง รจนา

(1) คืนร่างเดิม (ตอนที่ 91/105)
(2) ชีวิตใหม่ (ตอนที่ 92/105)
(3) ความหลัง ความรัก (ตอนที่ 93/105)

บทที่ 28   วิกฤตของนครรัฐ

(1) ปัญหาที่ยังตีบตัน (ตอนที่ 94/105)
(2) ตามหาคำตอบ (ตอนที่ 95/105)
(3) นักเล่านิทาน (ตอนที่ 96/105)

บทที่ 29   กู้วิกฤต

(1) สันติอรุณโมเดล (ตอนที่ 97/105)
(2) แผนกู้วิกฤต (ตอนที่ 98/105)
(3) วิกฤตรัก (ตอนที่ 99/105)

บทที่ 30   ฝันที่เป็นจริง

(1) แต่งกับงาน (ตอนที่ 100/105)
(2) การสังหารท่านผู้นำ (ตอนที่ 101/105)
(3) อำนาจใหม่ (ตอนที่ 102/105)
(4) พ่อแม่บุญธรรม (ตอนที่ 103/105)
(5) ฝันเป็นจริง (ตอนที่ 104/105)

 

ปัจฉิมบท -
งานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกลา (ตอนที่ 105/105 ปัจฉิมบท)

 

เพลง ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์

ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
เฝ้าใฝ่ฝัน ขอให้เป็นจริง
ความรัก ความกตัญญู เหนือกว่าทุกสิ่ง
แนบอกแม่อิง อุ่น ไอ รัก

ฝ่าอันตราย สิ่งเลวร้ายนานา
สู้อาสา แม้ยากยิ่งนัก
ความโหดร้าย ริษยา อ่อนล้าเหนื่อยหนัก
ต้องกล้าหาญหัก อุปสรรค สู้ทน

ภูติป่า อสูรร้าย เหตุการณ์ท้าทายให้สู้
ต้องยืนหยัดอยู่ กอบกู้ หมู่ประชาชน
เพื่อแม่ เพื่อรัก เพื่อความภักดี ต้องทน
ข้าขอผจญ มารร้าย พ่ายแพ้ไป

ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
คืนฝันวันหวัง ยังอยู่ในใจ
ความรัก ความหวัง คือพลังยิ่งใหญ่
โอ้แม่จ๋า แม่อยู่ไหน ลูกเหนื่อยเหลือเกิน.


 

focused thinking

หน้าแรก - ชุมชน คนคิดดีวรรณกรรม - วิชาการ - บทความ เรื่องสั้น ร้อยกรอง เพลงภาพยนตร์ - บทภาพยนตร์ ภาพยนตร์ตัวอย่าง วิดีโอ มิวสิควิดีโอ
นิเทศศาสตร์ - วิชาเรียน บรรยาย ตำรา เอกสารการเรียน สื่อการเรียน ถาม ตอบ

 


igood media copyright
 SUDIN CHAOHINFA, igoodmedia.net : Administration and Producer
Copyright © 2010-2021 intelligence good media homeschool.
All rights reserved. me@igoodmedia.net