หน้าแรก - ชุมชน คนคิดดีวรรณกรรม - วิชาการ - บทความ เรื่องสั้น ร้อยกรอง เพลงภาพยนตร์ - บทภาพยนตร์ ภาพยนตร์ตัวอย่าง วิดีโอ มิวสิควิดีโอ
นิเทศศาสตร์ - วิชาเรียน บรรยาย ตำรา เอกสารการเรียน สื่อการเรียน ถาม ตอบ

 

ภาคที่ 1
ตามหารัก อุปสรรคไม่ท้อ

บทที่ 2   สังข์ เอื้อย โสนน้อย

ตอนที่ 5

เพื่อนใหม่ ผู้น่าสงสาร

ตอนที่แล้ว ... ตอนที่ 4/105

 

เด็กๆ ทยอยกันกลับบ้าน บางคนมีผู้ปกครองมารับ แต่ส่วนใหญ่เดินกลับกันเอง. ระยะทางระหว่าง บ้านกับโรงเรียน ก็อยู่ไม่ห่างไกลกันมากนัก. หลังพ้นประตูรั้วโรงเรียนมาได้สักพัก, เอื้อย กับ โสนน้อย จะกลับบ้านพร้อมกันเสมอ. เช่นนี้ทุกวัน เมื่อมาถึงทางแยกเข้าบ้าน สังเกตได้ไม่ยาก, มันเป็นประตูรั้ว ทำด้วยไม้ไผ่ขัดแตะ ดูเก่าและโทรม โย้เย้ พร้อมที่จะล้มลงได้ทุกเมื่อ ถ้ามีใครสักคนเดินชนมันแรงๆ.

เอื้อย แยกทางกับเพื่อน. พอเปิดประตูบ้านเข้าไป ก็เหมือนกับวันก่อนๆ ต้องเจอกับคำดุด่า ถากถาง จากคนในบ้าน เหมือนไม่เคยเป็นมิตรกันมาก่อน. อ้าย ผู้มีศักดิ์ เป็นพี่สาว เริ่มสาดน้ำร้อน ออกจากปาก.

“โรงเรียนเลิกตั้งนานแล้ว มัวหายหัวไปไหน อีเอื้อย ไปตักน้ำ เดี๋ยวนี้”

 

เอื้อย เพิ่งผ่านอากาศอบอ้าว จากข้างนอก ต้องมาเจอของร้อน สาดโครมเข้าใส่อีก. แต่ไม่ได้ตอบโต้อะไร เพียงแค่เหลือบหางตามองพี่สาว แวบหนึ่ง ก็โดนคำถากถาง จากแม่เลี้ยงต่อ.

“ยัง ยัง ยังมองหน้าอีก จะทำอะไร ก็รีบไปทำเสียซิ พี่เขาสั่งไม่ได้ยินเรอะ?”

 

เรื่องเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ต้องคิด ชุดนักเรียนที่สวมอยู่ กับชุดทำงาน มันก็คือชุดเดียวกัน. เอื้อย รีบคว้าถังปีบสังกะสีเปล่า อย่างน้อย ก็หยุดคำถากถาง ได้ชั่วครู่. แม้ว่า เอื้อย จะเป็นเด็กค่อนข้างร่างใหญ่ แต่ก็เป็นเด็กวัยหกถึงเจ็บขวบ. ดูมันไม่เหมาะสมเอาเสียเลย ระหว่าง สัดส่วนร่างกาย กับปีบสังกะสีใบเบ่อเร้อ แต่เธอก็คงชินกับมันแล้ว.

มือคว้าหูหิ้วปีบ สาวเท้ารีบเดินไปที่ประตู ด้วยความรีบร้อน และกลัวแม่เลี้ยง. เท้าของเอื้อย สะดุดกับพื้นตรงประตู จนหกล้ม. หัวเข่าซึ่งเป็นรอยถลอกอยู่แล้ว ก็ช้ำแดงมากขึ้นกว่าเดิม มีเลือดไหลซิบๆ ออกมา.

 

“นี่แกเป็นอะไรห๊า นังเอื้อย !” เสียง อ้าย ตวาด “ประตูนั่น ก็เดินเข้าออกทุกวัน แกก็ยังไปสะดุดมันอีก อย่ามาอ้างว่าเจ็บแล้ว ไม่ไปทำงานนะ แกมันเซ่อซ่าเองนี่”

 

เอื้อย เบะปากจะร้องไห้ แต่ก็กลัวพี่สาว และแม่เลี้ยง, ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา ระบายความเจ็บปวดออกไป. เอื้อย คว้าถังตักน้ำ แล้วรีบเดินออกไปให้พ้นๆ จากที่นั่น. เดินไป ร้องไห้ไป จนถึงริมลำธาร. เห็นบาดแผลที่หัวเข่า มีเลือดไหล, เธอจึงรูดเอาใบสาบเสือ (เบญจมาศป่า) มาขยี้ โปะลงไปที่แผล. รออยู่บนฝั่งจนเลือดหยุดไหล แล้วทรุดตัวลงนั่ง ร้องไห้สะอึกสะอื้นต่อ.

“แม่จ๋า แม่หายไปไหน? เอื้อยกลัว กลัวจริงๆ นะแม่”

ถ้าแม่ยังอยู่ เอื้อย คงไม่เจ็บตัว และเจ็บใจเหมือนอย่างทุกวันนี้. หลังจากแม่ มีปากเสียงกับพ่อ, แม่ก็จากไป ตอนที่เธอยังจำความได้. แม่ก็คงมีเหตุผลที่ต้องไป แต่เธอยังเป็นเด็กเกินไป ที่จะเข้าใจเรื่องของผู้ใหญ่.

 

เอื้อย จ้องมอง เงาของตัวเองในน้ำ อยู่นาน เหมือนจะรอดูว่า แม่อาจจะโผล่หน้าขึ้นมาจากน้ำก็ได้.

“ แม่ไปไม่นานหรอกจ้ะ อีกไม่กี่วันแม่จะกลับมารับ เป็นเด็กดีนะลูก”

 

เสียงตะโกนด่าไล่หลัง จากพี่สาว ขับไล่ความทรงจำของเอื้อย ให้กระเจิงไป. เธอรีบหย่อนถังเปล่าลงไปในน้ำ แต่เพราะมัวเสียใจร้องไห้ และเจ็บที่แผล เลยพลัดตกลงไปที่ริมตลิ่ง. คราวนี้ เอื้อย ร้องไห้อีกครั้ง เพราะความแจ็บแสบ ของบาดแผล. แต่เสียงอุบาทว์นั่น กระแทกซ้ำมาอีก, เอื้อย ต้องรวบรวมกำลัง ปืนขึ้นตลิ่ง พร้อมกับถังน้ำ อย่างทุลักทุเล, ถังใบใหญ่กับเด็กตัวเล็ก.

แต่ในที่สุด ความพยายามของเธอ ก็เป็นผล, เอื้อย เดินกระย่องกระแย่ง หิ้วถัง ที่มีน้ำเกือบครึ่งถัง ไปจนถึงบ้าน.

 

…

 

รุ่งอรุณของวันใหม่, น้ำตกบนผา เหนือของหมู่บ้าน ยังคงทำหน้าที่ของมัน ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำกว่า กลายเป็นลำธารผ่านหมู่บ้าน. สายน้ำในลำธาร ก็ยังไหลรินเอื่อยๆ อยู่เช่นนั้น เหมือนไม่รับรู้ ความเป็นไป ของสิ่งมีชีวิตรอบด้าน ซึ่งต่างก็มาอาศัย น้ำในลำธารแห่งนี้ ได้ใช้ ดื่มกิน.

ใครๆ ก็บอกว่า แม่คงคา ได้กลั่นน้ำใจ ผสมเจือลง ในสายน้ำลำธารด้วยทุกๆ วัน. แม่คงคง จึงไม่เบื่อที่จะให้ และให้ด้วยใจที่บริสุทธิ์ ไม่เลือกว่า จะเป็นพืช สัตว์ มนุษย์ คนดีหรือคนเลว คนกลัวหรือคนกล้า. สิ่งมีชีวิตเหล่านั้น ก็รับรู้ถึงรสชาติอันใส เย็น และบริสุทธิ์ ของน้ำในลำธารแห่งนี้. เว้นแต่มนุษย์ใจบาปบางคน หัวใจสกปรก แม้น้ำในลำธาร ไม่อาจเปลี่ยนนิสัยใจคอ ของเขาได้ แต่กลับยอมรับเอา น้ำอย่างอื่นไปดื่มแทน.

 

แม่นกกางเขน ซึ่งทำรังอยู่บนต้นหว้าใหญ่ ริมลำธารน้ำแห่งนี้ กำลังคาบหนอนมาป้อนลูก. แม่ไก่ พาลูกๆ ออกคุ้ยเขี่ยหากิน เมื่อมีคนเดินผ่าน มันจะทำตัวพองๆ ขู่ ไม่ให้ใครเข้าใกล้ลูกของมัน.

 

“เฮ้ย ! ชู้ว ! …”

“ต่อก ๆ ๆ ๆ กระต๊าก”

“ประเดี๋ยว พ่อจับไปต้มกินแก้มเหล้า ทั้งแม่ทั้งลูกหรอก” เสียงคนพูด เหมือนไม่ใช่เสียงคนปกติ.

 

นางบุญเรือน กำลังทำกับข้าว อยู่บนบ้าน มองไปที่ชายคนนั้น พลางคิดว่า ลำพังตัวเอง ก็เดินจะไม่ตรงทางอยู่แล้ว คิดจะวิ่งไล่จับแม่ไก่ ช่างไม่ดูเงาของตัวเองบ้างเลย เจ้าคนโง่เอ๊ย. เผลอแผลบเดียว เขาก็เดินโซซัดโซเซ ขึ้นมาบนบ้าน.

 

โสนน้อย กำลังถูบ้านอยู่ตรงหน้าบันได. ผู้ชายคนนั้น เดินขึ้นมา ด้วยความเมา จึงเหยียบบันไดขั้นสุดท้ายพลาด หกล้มโครมลง. เคราะห์ดี ที่ล้มไปบนบ้าน ไม่ตกบันได ไปนอนหยอดข้าวต้ม ที่ใต้บันได.

“มึงอีกแล้ว นังโสน นี่มึงจะฆ่าพ่อมึงรึไง ห๊า!”

 

ด่าไม่ด่าเปล่า เอามืออันสกปรกอีกข้างผลักหัวของ โสนน้อย จนล้มกลิ้งไปนอนกับพื้น. โสนน้อย ทั้งตกใจ และกลัว ผู้เป็นพ่อ. วันนี้พ่อเมาหนักกว่าทุกวัน ร้องไห้ ก็ไม่กล้าร้องดัง ได้แต่คว้าผ้าถูบ้านผงะหลบไป.

 

“เฮ่ย! … กูซวยจริงๆ ที่มีลูกอย่างมึง จะไปไหนก็ไปเลย ไป๊!” ผู้เป็นพ่อ สบถต่อด้วยความเมา.

 

เสียงเอะอะโวยวายไม่หยุด มันดังเข้าไปถึงข้างในห้องครัว บุญเรือน วิ่งออกมาดู แล้วรีบไปประคอง โสนน้อย แทนที่จะเข้าไปช่วย ชายขี้เมา.

 

“เป็นอะไรมากไหม๊ ลูก” แล้วหันไปตวาดผัว “ไอ้ลม มึงแดกเหล้าจนเมา แล้วหกล้มเอง ไปโทษลูกได้ไง หลายหนแล้วนะมึง”

“นังโสน มันลูกกู ไม่ใช่ลูกมึง กูจะดุจะด่ายังไงก็ได้”

“เออ ลูกมึง มันก็เหมือนลูกกู มึงมันนิสัยพาลหาเรื่อง” แล้วหันไป พูดกับ โสนน้อย “ไปกินข้าวก่อนลูก สายแล้ว ประเดี๋ยวจะไปโรงเรียนไม่ทัน อย่าถือสาพ่อเค้าเลยลูก เมาประเดี๋ยวก็หาย”

 

โลกนี้ เหมือนเวทีละครชีวิต มีคนดี คนร้าย มีตัวริษยา และตัวตลก. แต่ละชีวิต ต่างมุ่งแสวงหา ความอยู่รอด ผลประโยชน์. ผู้อ่อนแอ มักถูกรังแก, ดูแล้วน่าหดหู่. แต่โลกนี้ ก็ยังเหลือความยุติธรรมอยู่บ้าง, แม้ว่า โสนน้อย จะมีพ่อขี้เหล้า มิจฉาทิฏฐิ แต่ก็มีแม่เลี้ยง ที่ใจดี. ชีวิตของคนเรา มันช่างไม่มีอะไรที่พอดีเลย, แต่อย่างไรก็ตาม บ้านนี้ก็ไม่อบอุ่นอยู่ดี.

 

หลังกินข้าวเสร็จ โสนน้อย รีบคว้า ย่ามใส่หนังสือ ซึ่งทั้งเก่าและขาด จนเห็นรอยเย็บแบบไม่ค่อยเรียบร้อยสักเท่าไร. ก็แน่ละ เด็กอายุยังไม่ถึงเจ็ดขวบ ทำได้แค่นี้ก็นับว่าเก่งแล้ว.

 

ประมาณโมงเช้า, พวกเด็กนักเรียน ค่อยๆ ทยอยเดินมาโรงเรียน. เด็กบางคน มีผู้ปกครองมาส่ง แต่เด็กโต จะเดินทางมาเอง ด้วยจักรยานบ้าง เดินบ้าง. นานๆ จะเห็นรถปิกอัพสักคัน ขับผ่านโรงเรียน. เว้นแต่รถเก๋งสีแดงสด เพียงคันเดียวของหมู่บ้าน ที่วิ่งเข้าออกโรงเรียน ทุกเช้าเย็น. ก็เดาได้ไม่ยาก เพราะมีเพียงครูใหญ่ เพียงคนเดียว ที่จะเป็นเจ้าของมันได้.

 

ก่อนถึงประตูโรงเรียน, สังข์ กับ โสนน้อย มาถึงในเวลาไม่ห่างกันมากนัก. จึงเดินเข้าโรงเรียนไปพร้อมกัน.

 

“โสนน้อย ร้องไห้ทำไม?” สังข์ ร้องทัก “กินข้าวรึยัง เรามี ข้าวต้มมัด … เอ๊า เราให้เธอมัดนึง”

โสนน้อย มองหน้า สังข์ แล้วรับข้าวต้มมัดมา เอาไว้กินตอนกลางวัน.

“แม่เธอ ใจดีจัง”

“ก็เหมือนแม่เธอแหละ”

“แม่เลี้ยง” โสนน้อย ส่ายหน้าปฏิเสธ “พ่อเธอไปไหน? เห็นแต่แม่”

“ไม่รู้” สังข์ ก็ส่ายหน้าเช่นกัน “แต่เธอมีพ่อ”

 

โสนน้อย มองหน้า สังข์ เหมือนจะบอกว่า พ่อใจร้าย แต่ไม่กล้าพูด. ภาพในอดีต เมื่อตอนจำความได้ ก็ผุดขึ้นมา.

เธอเห็นพ่อคุยกับหมอดู ที่ใต้ถุนบ้าน. ตอนหนึ่งเธอแอบได้ยิน เสียงหมอดู พูดกับพ่อ “มึงนี่โชคร้าย ได้ลูก แต่เสียเมีย อีกหน่อย โตไป ลูกมึงคนนี้ จะพาคนตายเข้าบ้าน”  โสนน้อย ได้แต่เก็บความรู้สึกนั้นไว้ในใจ. แต่ตอนนี้ ก็ชักจะลืมๆ ไปบ้างแล้ว.

 

หลังกินข้าวเย็นเสร็จแล้ว, ตาเปลว พา สังข์ เข้านอนแต่หัวค่ำ และเล่านิทานก่อนนอนให้ฟัง เป็นปกติประจำ. สังข์ ชอบนิทานเกี่ยวกับ อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ การผจญภัย ผจญผี นางฟ้า. แต่ฟังบ่อยๆ เข้าก็เริ่มเบื่อ, เขาจึงขอร้องให้ตาทวด เล่าเรื่องอื่นๆ บ้าง.

 

“หง่อม วันนี้ มีเรื่องอะไรเล่าอีก? แต่ไม่เอาเรื่องแบบเมื่อวาน”

“ถ้างั้น หง่อม จะเล่าเรื่องเต่า”

“ให้มีกระต่ายด้วย ได้ไหม๊?”

 

...

 

เสียงระฆัง บอกหมดเวลาเรียนภาคเช้า. หลังกินข้าวกลางวัน พวกเด็กๆ ต่างพากันมาล้อมวง รอบๆ สังข์ ที่ใต้ต้นมะเดื่อ. เป็นความคิดของเด็กผมแกะ ฟันหลอ ชื่อ โก๊ะ ที่เลือกเอาต้นที่ห่างไกล จากเด็กกลุ่มอื่นๆ เพื่อเสียงจะได้ไม่รบกวนกัน.

 

“วันนี้ มีเรื่องใหม่ ใช่ป่ะ?”

เด็กชายโก๊ะ ถามเป็นคนแรก เอื้อย โสนน้อย และ เด็กคนอื่นๆ อีกสอง 3 คน ตีวงล้อมเข้ามาใกล้ๆ.

“จะเล่าเรื่อง กระเต่า กับ ต่าย ให้ฟัง”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า … แฮ่ะ แฮ่ะ แฮ่ะ”

พวกเด็กๆ พากันหัวเราะ. สังข์ มองหน้าโก๊ะ.

“อะไร?”

“กระเต่า มีที่ไหนเล่า มีแต่กระต่าย”

“เอ้า ! … เมื่อกี้พูดผิดเหรอ? เออๆ เอาใหม่ จะเอาเรื่อง กระต่าย หรือ เต่า ดีล่ะ”

“กระต่าย กับ เต่า” โสนน้อย ว่า.

“ไม่เอา ครูเพ็ญเล่าหลายหนแล้ว” โก๊ะ ปฏิเสธ.

“แต่เต่าตัวนี้ หง่อม เค้าเล่าให้ฟัง มันคนละตัวกับที่ครูเพ็ญเล่า”

“สังข์ ก็ย่าโยกโย้ซิ เล่าไป เล่าไป” เอื้อย ตัดบทให้ สังข์ รีบเล่า.

“บรรพบุรุษเต่า เป็นพระราชา มีกระดองเรียบสวยงาม แต่ปกครองไม่ยุติธรรม บังคับให้พวกนก ทำกระเช้า แล้วตัวเองก็เข้าไปอยู่ในนั้น เต่าพระราชา อยากเห็นโลกใหม่ที่สวยงาม จึงให้พวกฝูงนก คาบเถาวัลย์ แล้วพาบินไปบนฟ้า”

“เห็นอะไรมั่ง”

“ก็ เห็นโลกที่สวยงาม พอกลับลงมา ก็ให้รางวัลกับพวกนกไม่เท่ากัน พวกนกที่อยู่ใกล้ชิดจะได้มากกว่า ทั้งๆ ที่ออกแรงเท่ากัน วันต่อมา ก็บังคับให้พวกฝูงนกพาไปบนท้องฟ้าอีก คราวนี้ พวกนกทะเลาะกัน ตัวที่ไม่พอใจ ก็บินหนีไป แล้วก็หนีไป หนีไปทีละตัว เต่าพระราชาก็บังคับ ให้พวกนกที่เหลือ ไม่กี่ตัวพาบินต่อไป และจะให้รางวัลเพิ่มขึ้น แต่นกมีน้อยเกินไป บินต่อไปไม่ไหว”

“แล้วไงต่อ”

“เต่าพระราชา ก็ร่วงลงมา จากฟ้า ฟู่ ฟู่ ใกล้จะถึงพื้นดิน” สังข์ กางฝ่ามือทั้งสองข้าง ประกบกัน สมมุติให้เป็นหลังเต่า กำลังลอยละลิ่วตกจากท้องฟ้า “เต่าตกใจ เห็นลานหินข้างล่าง” ฝ่ามือทั้งสอง ตกลงบนพื้นดิน.

“พลั่ก !” พวกเด็กๆ อุทานพร้อมกัน.

“แต่เต่าไม่ตาย พระฤาษีผ่านมาเห็นเข้า จึงเอาไปรักษา จนกระทั่งหาย เต่าก็เลยหลังแตก ตั้งแต่ นั้นมา … จบแล้ว”

“อ้าว ! ในเรื่อง กระต่ายหายไปไหนล่ะ?” โสนน้อย สงสัย.

“กระต่ายเหรอ ก็อยู่ที่ ครูเพ็ญไง๊”

สังข์ ตอบแบบพาซื่อ กลายเป็นเรื่องตลกขบขัน ของพวกเด็กๆ ไป.

 

...

 

วันต่อมา พวกเด็กๆ ก็กระเซ้าให้ สังข์ เล่านิทานให้ฟังอีก. เขาบอกว่าเรื่องเดิมยังไม่จบ จึงเล่าเรื่องเต่าต่อ.

 

“เรื่องเต่าอีกละ”

“แต่เป็นเต่าคนละตัว ตัวนี้ มันก็อยากจะบินได้ เหมือนบรรพบุรุษของมัน”

“แต่มันไม่มีปีก” โก๊ะ พูดแซง.

“มันก็เลย ไปคบกับ นกหงส์ผัวเมีย ซึ่งเป็นหงส์ใจดี มันขอร้องให้นกหงส์ พาบินขึ้นฟ้า เพื่อจะดูโลกที่สวยงาม”

“แต่มันไม่มีปีก” โก๊ะ พูดแซงอีก.

“มันก็เลย ไปหากิ่งไม้มา คาบไว้ แล้วให้นกหงส์สองผัวเมีย ใช้อุ้งตีนขยุ้มกิ่งไม้คนละข้าง บินขึ้นไป”

“เพราะเต่าไม่มีปีก” โก๊ะ อดพูดแซงไม่ได้ จนเพื่อนๆ ต้องดุ เพราะรำคาญ.

“พอขึ้นไปบนฟ้า ตัวมันก็ห้อยต่องแต่ง มันก็เลยมองไม่เห็นโลก อันสวยงาม มันก็อ้าปากถามนก พอมันอ้าปาก ตัวมันก็หลุดจากกิ่งไม้ หล่นลงมา ฟู่ ฟู่” สังข์ ทำมือ เหมือนเมื่อวาน “ใกล้จะถึงพื้นดิน เต่าตกใจ เห็นหนองน้ำข้างล่าง”

“ตู๊ม ! …” พวกเด็กๆ อุทานพร้อมกัน.

“มันตกลงไปในน้ำ แต่ไม่เป็นไร มันก็ปีนจากหนองน้ำ ไปเล่าให้เต่าอีกตัวฟัง และ เพื่อนของมัน ก็อยากจะเห็น โลกอันสวยงามเหมือนกัน มันก็ …”

“ว้า เต่าอีกแล้ว ไม่เห็นมีเรื่องอื่นเลย” เอื้อย บ่นด้วยความเบื่อ.

 

เสียงระฆัง เข้าเรียนภาคบ่ายดังขึ้น, พวกเด็กๆ จึงแยกย้ายกันไปเข้าชั้นเรียน เหมือนปกติทุกวัน.

 

อ่านต่อ ... ตอนที่ 6/105

 

สารบัญ / ตอนที่

ปฐมบท -

แสงแรกของเรื่องราว


ภาคที่ 1: ตามหารัก อุปสรรคไม่ท้อ


บทที่ 1   ต้นเหตุของเรื่องราว

(1) ละครชีวิตแห่งนครวิชัยยศ (ตอนที่ 1/105)
(2) รัก ริษยา อาฆาต อำนาจมัวเมา (ตอนที่ 2/105)
(3) อำลาที่ขมขื่น (ตอนที่ 3/105)

บทที่ 2   สังข์ เอื้อย โสนน้อย

(1) อดีตที่เติบโต (ตอนที่ 4/105)
(2) เพื่อนใหม่ผู้น่าสงสาร (ตอนที่ 5/105)
(3) จินตนาการ นิทาน ความฝัน (ตอนที่ 6/105)

บทที่ 3   วันสังหาร

(1) ชีวิตที่โหยหา (ตอนที่ 7/105)
(2) พินัยกรรมริษยา (ตอนที่ 8/105)
(3) คำสั่งลับ (ตอนที่ 9/105)

บทที่ 4   ชีวิตใหม่กลางภูผา

(1) ภาระใหม่ของนาเคนทร์ (ตอนที่ 10/105)
(2) ความลี้ลับของป่า (ตอนที่ 11/105)
(3) บทเรียนชีวิต (ตอนที่ 12/105)
(4) เวทกล มนตร์สู้ปีศาจ (ตอนที่ 13/105)
(5) ส่งเด็กกลับบ้าน (ตอนที่ 14/105)

บทที่ 5   ภูติร้ายในป่ามรณะ

(1) ประตูมายาแห่งป่า (ตอนที่ 15/105)
(2) ภาพลวงตา (ตอนที่ 16/105)
(3) กลลวงปีศาจ (ตอนที่ 17/105)
(4) หุบผาหมอก (ตอนที่ 18/105)

บทที่ 6   ประตูเวลาที่เรือนปีศาจ

(1) การมาเยือน ของมนุษย์นอกจักรวาล (ตอนที่ 19/105)
(2) ประตูเวลา ของพวกเอเลี่ยน (ตอนที่ 20/105)

บทที่ 7   หนอนทะเลทราย

(1) สู่ทะเลทราย (ตอนที่ 21/105)
(2) หนอนยักษ์ มฤตยูใต้ดิน (ตอนที่ 22/105)

บทที่ 8   หลุมดำดูดเวลา และการตามล่าของมนุษย์นอกจักรวาล

(1) หมู่บ้านไร้เวลา (ตอนที่ 23/105)
(2) จุดจบของพวกเอเลี่ยน (ตอนที่ 24/105)

บทที่ 9   พบเพื่อนใหม่

(1) สองพี่น้องชาวเล (ตอนที่ 25/105)
(2) ปริศนาเฒ่าทะเล (ตอนที่ 26/105)
(3) ความลับ (ตอนที่ 27/105)
(4) แผนเดินทาง (ตอนที่ 28/105)
(5) บทเรียนบนเรือรบ (ตอนที่ 29/105)

บทที่ 10    ผจญภัยกลางมหาสมุทร

(1) เขตย้อนเวลา (ตอนที่ 30/105)
(2) บนเรือโจรสลัด (ตอนที่ 31/105)
(3) ผีเสื้อสมุทร และหมึกยักษ์ (ตอนที่ 32/105)
(4) เกาะร้าง (ตอนที่ 33/105)
(5) นิมิตแห่งตำนานสายฟ้าอสูร (ตอนที่ 34/105)

บทที่ 11   ปาฏิหาริย์ของเทพแห่งลิง

(1) อาวุธมีเจ้าของ (ตอนที่ 35/105)
(2) ปาฏิหาริย์ลิงเผือก (ตอนที่ 36/105)
(3) ปริศนาคำทำนาย (ตอนที่ 37/105)
(4) อากาศยานช่วยชีพ (ตอนที่ 38/105)
(5) อวสานเกาะร้าง (ตอนที่ 39/105)

 

ภาคที่ 2: ฝ่าอุปสรรค เพื่อรักและอิสรภาพ


บทที่ 12   นครพันธุรัฐ เมืองคนทาส

(1) เชลย (ตอนที่ 40/105)
(2) ทาสใหม่ (ตอนที่ 41/105)
(3) นายหญิง เจ้าแห่งนครพันธุรัฐ (ตอนที่ 42/105)
(4) สถานภาพใหม่ของสังข์ (ตอนที่ 43/105)
(5) ความลับของนาเคนทร์ (ตอนที่ 44/105)

บทที่ 13   เทคโนโลยีล่องหน

(1) ห้องลับของนายหญิง (ตอนที่ 45/105)
(2) นวัตกรรมการอำพราง (ตอนที่ 46/105)
(3) เสน่ห์แห่งอำนาจ (ตอนที่ 47/105)
(4) ความลับที่ต่อรองกันได้ (ตอนที่ 48/105)

บทที่ 14   แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 1)

(1) แผนหลบหนี (ตอนที่ 49/105)
(2) ประตูแห่งอิสรภาพ (ตอนที่ 50/105)
(3) หนี (ตอนที่ 51/105)

บทที่ 15   เส้นทางที่พลัดพราก

(1) หมู่บ้านมนุษย์กินคน (ตอนที่ 52/105)
(2) พลายงาม เพื่อนร่วมทางคนใหม่ (ตอนที่ 53/105)
(3) นางพิม (ตอนที่ 54/105)
(4) เปลี่ยนร่างอำพรางหนี (ตอนที่ 55/105)

บทที่ 16   เมืองกาญจนา

(1) วัดส้ม เมืองกาญจนา (ตอนที่ 56/105)
(2) ธัมมะกับชีวิต (ตอนที่ 57/105)
(3) ไปพบย่าทอง (ตอนที่ 58/105)

บทที่ 17   บ้านของย่าทอง

(1) สายสัมพันธ์ย่าหลาน (ตอนที่ 59/105)
(2) ความสุขในเรือนทอง (ตอนที่ 60/105)
(3) ความสุข ความพอเพียง (ตอนที่ 61/105)

บทที่ 18   วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน

(1) วัยรัก วัยเรียน (ตอนที่ 62/105)
(2) ความรักที่ก่อตัว (ตอนที่ 63/105)
(3) แสงสีแห่งชนบทยามค่ำคืน (ตอนที่ 64/105)
(4) เรื่องวุ่นวาย ของวัยรุ่น (ตอนที่ 65/105)

บทที่ 19   ความรัก ความหวัง ยังไม่สิ้น

(1) เส้นทางรัก โสนน้อย สร้อยมณี (ตอนที่ 66/105)
(2) บวชพลายงาม (ตอนที่ 67/105)
(3) ลางบอกเหตุ (ตอนที่ 68/105)
(4) ทางรัก ทางธรรม (ตอนที่ 69/105)

บทที่ 20   ตามหาเพื่อน

(1) ก้าวใหม่ของ นครพันธุรัฐ (ตอนที่ 70/105)
(2) รหัสสื่อสาร 213 ที่ยังจำกันได้ (ตอนที่ 71/105)
(3) นักบินฝึกหัด (ตอนที่ 72/105)

บทที่ 21   แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 2)

(1) เปิดฉากหนี (ตอนที่ 73/105)
(2) ปิดฉากทาสนรก (ตอนที่ 74/105)

 

ภาคที่ 3:   รักนิรันดร์ ฝันเป็นจริง


บทที่ 22   เดินทางไกล ไปตามฝัน

(1) สิงห์ดำ (ตอนที่ 75/105)
(2) เมืองแห่งความฝัน (ตอนที่ 76/105)

บทที่ 23   นครรัฐเทพนารา

(1) นรกบนเมืองสวรรค์ (ตอนที่ 77/105)
(2) สวรรค์ในเมืองนรก (ตอนที่ 78/105)
(3) บทเรียนของแพรวา (ตอนที่ 79/105)
(4) งานเลี้ยงที่มีวันเลิกลา (ตอนที่ 80/105)

บทที่ 24   ชีวิตใหม่ ใจกลางมหานคร

(1) แดนคนเถื่อน (ตอนที่ 81/105)
(2) เพื่อนรัก (ตอนที่ 82/105)
(3) แดนคนดี (ตอนที่ 83/105)

บทที่ 25   ชีวิตจัดสรร ณ สันติอรุณ

(1) สวรรค์ลิขิต (ตอนที่ 84/105)
(2) ชีวิตจัดสรร (ตอนที่ 85/105)
(3) วิถีชีวิต วิถีชุมชน (ตอนที่ 86/105)
(4) คุณครูมือใหม่ (ตอนที่ 87/105)

บทที่ 26   สัมผัสแรก สัมผัสรัก

(1) เบื้องหลังของหญิงสาว (ตอนที่ 88/105)
(2) ประสบการณ์ที่มีค่า ของรจนารินี (ตอนที่ 89/105)
(3) ของสำคัญ ที่ต้องหาให้เจอ (ตอนที่ 90/105)

บทที่ 27   สังข์ทอง รจนา

(1) คืนร่างเดิม (ตอนที่ 91/105)
(2) ชีวิตใหม่ (ตอนที่ 92/105)
(3) ความหลัง ความรัก (ตอนที่ 93/105)

บทที่ 28   วิกฤตของนครรัฐ

(1) ปัญหาที่ยังตีบตัน (ตอนที่ 94/105)
(2) ตามหาคำตอบ (ตอนที่ 95/105)
(3) นักเล่านิทาน (ตอนที่ 96/105)

บทที่ 29   กู้วิกฤต

(1) สันติอรุณโมเดล (ตอนที่ 97/105)
(2) แผนกู้วิกฤต (ตอนที่ 98/105)
(3) วิกฤตรัก (ตอนที่ 99/105)

บทที่ 30   ฝันที่เป็นจริง

(1) แต่งกับงาน (ตอนที่ 100/105)
(2) การสังหารท่านผู้นำ (ตอนที่ 101/105)
(3) อำนาจใหม่ (ตอนที่ 102/105)
(4) พ่อแม่บุญธรรม (ตอนที่ 103/105)
(5) ฝันเป็นจริง (ตอนที่ 104/105)

 

ปัจฉิมบท -
งานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกลา (ตอนที่ 105/105 ปัจฉิมบท)

 

เพลง ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์

ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
เฝ้าใฝ่ฝัน ขอให้เป็นจริง
ความรัก ความกตัญญู เหนือกว่าทุกสิ่ง
แนบอกแม่อิง อุ่น ไอ รัก

ฝ่าอันตราย สิ่งเลวร้ายนานา
สู้อาสา แม้ยากยิ่งนัก
ความโหดร้าย ริษยา อ่อนล้าเหนื่อยหนัก
ต้องกล้าหาญหัก อุปสรรค สู้ทน

ภูติป่า อสูรร้าย เหตุการณ์ท้าทายให้สู้
ต้องยืนหยัดอยู่ กอบกู้ หมู่ประชาชน
เพื่อแม่ เพื่อรัก เพื่อความภักดี ต้องทน
ข้าขอผจญ มารร้าย พ่ายแพ้ไป

ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
คืนฝันวันหวัง ยังอยู่ในใจ
ความรัก ความหวัง คือพลังยิ่งใหญ่
โอ้แม่จ๋า แม่อยู่ไหน ลูกเหนื่อยเหลือเกิน.


 

focused thinking

หน้าแรก - ชุมชน คนคิดดีวรรณกรรม - วิชาการ - บทความ เรื่องสั้น ร้อยกรอง เพลงภาพยนตร์ - บทภาพยนตร์ ภาพยนตร์ตัวอย่าง วิดีโอ มิวสิควิดีโอ
นิเทศศาสตร์ - วิชาเรียน บรรยาย ตำรา เอกสารการเรียน สื่อการเรียน ถาม ตอบ

 


igood media copyright
 SUDIN CHAOHINFA, igoodmedia.net : Administration and Producer
Copyright © 2010-2021 intelligence good media homeschool.
All rights reserved. me@igoodmedia.net