หน้าแรก - ชุมชน คนคิดดีวรรณกรรม - วิชาการ - บทความ เรื่องสั้น ร้อยกรอง เพลงภาพยนตร์ - บทภาพยนตร์ ภาพยนตร์ตัวอย่าง วิดีโอ มิวสิควิดีโอ
นิเทศศาสตร์ - วิชาเรียน บรรยาย ตำรา เอกสารการเรียน สื่อการเรียน ถาม ตอบ

 

ภาคที่ 1
ตามหารัก อุปสรรคไม่ท้อ

บทที่ 10    ผจญภัยกลางมหาสมุทร

ตอนที่ 30

เขตย้อนเวลา

ตอนที่แล้ว ... ตอนที่ 29/105

 

โดว์ ดาบแห่งท้องทะเล แล่นมาได้ ๓ วัน, สินสมุทร ในฐานะต้นหนเรือ รู้สึกว่า ท้องทะเลปกติดี ตัดสินใจ พาเรือออกไปห่างฝั่งมากขึ้น แต่ก็คิดเอาตามประัสาเด็กว่า เรือของพวกเขา ยังไม่ห่างจากฝั่งสักเท่าไร. แน่นอนว่า พวกเขาจะไม่ลืมกฏเหล็ก ที่เฒ่าทะเลสั่งไว้ว่า อย่าแล่นเรือให้ห่างฝั่ง มากจนเกินไป เพื่อความปลอดภัย, และการอยู่ไม่ห่างจากฝั่ง อาจมีโอกาสได้พบบ้านคนมากกว่า ออกทะเลไปไกลๆ.

 

ทะเลสงบดี เรือยังแล่นฉิว แดดจัด พวกเขาตั้งวงสนทนากัน ที่บริเวณหัวเรือ เพื่อทำลายความเบื่อหน่าย ใครใคร่คุยก็คุย ใครใคร่นอนก็นอน. เพชร กับ บ่าวหลา ปลีกตัวไปที่ขอบเรือ สังเกตการณ์ รอบๆ ปล่อยให้พวกเด็กๆ แลกเปลี่ยนความใฝ่ฝัน แก่กันและกัน. สังข์ กับ สินสมุทร ยังคงประจำอยู่หัวเรือ.

 

“เราอยากตัวใหญ่กว่านี้” สินสมุทร เอ่ยขึ้น “จะได้มีแรงเยอะๆ ใครก็ไม่กล้ามารังแก อีกอย่าง อาจมีแรงช่วยคนอื่นได้อีก”

“แต่เราตัวเล็กแค่นี้ก็พอแล้ว ขอให้วิ่งเร็วๆ ว่ายน้ำไวๆ ป้าจะได้ไล่ตีไม่ทัน” สุดสาคร บอก และเป็นฝ่ายถามบ้าง “แล้วเธอล่ะ เอื้อย โตขึ้นอยากเป็นอะไร?”

“อยากเป็นหมอ”

“ก็เป็นอยู่แล้วนี่ไง” สุดสาคร กระเซ้าเล่น.

“ไม่เอา เป็นหมอจริงๆ สิ ไม่ใช่หมอแค่บนเรือ”

“โสนน้อยล่ะ อยากเป็นอะไร?” สินสมุทร ถามต่อ.

“อืม! …” โสนน้อย ใช้ความคิด “เป็นอะไรดีล่ะ ... คิดไม่ออก”

“ก็เป็นซักอย่างสิ อะไรก็ได้”

“เป็นคุณครู หรือเป็นตำรวจดี ... แล้วถ้าเป็นตำรวจล่ะ”

 

คำตอบของ โสนน้อย ทำเอา พวกเพื่อนๆ ต่างพากันหัวเราะ.

 

“หัวเราะอะไร?”

“ก็เธอ ตัวเล็กๆ ทั้งผอมทั้งบาง เป็นคุณครูน่ะดีแล้ว จะเป็นตำรวจได้ยังไ ? ประเดี๋ยว โจรมันก็อุ้มเธอไปละไม่ว่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า” สินสมุทร อธิบาย และหัวเราะไม่หยุด. แต่ดูเหมือนว่า การสนทนายังไม่จบ เพราะยังขาดคำตอบ อยู่อีกหนึ่งข้อ.

“เออ! สังข์ ยังไม่บอกเลย โตขึ้นอยากเป็นอะไร?”

“ไม่รู้ ... แต่ตอนนี้เราอยากเจอแม่” สังข์ตอบ ขณะใช้กล้องส่องมองไปที่ ขอบทะเล “อยากจะบอกแม่ว่า รักแม่มากที่สุดเลย”

 

คำตอบของ สังข์ เปลี่ยนบรรยากาศการสนทนา ไปเล็กน้อย. พวกเพื่อนๆ มองหน้ากัน ด้วยความรู้สึกเหงาๆ เศร้าๆ เป็นการทำลายบรรยากาศรื่นเริงไป โดยไม่ตั้งใจ. แต่สิ่งที่หักเห ความสนใจของพวกเด็กๆ ในตอนนี้ คือ เมฆบนท้องฟ้า เริ่มก่อตัวรวมกันหนา จนเป็นสีเทาเข้ม ลมพัดแรงขึ้น. สินสมุทร รีบคว้าแผนที่ออกมาดู เกรงว่าเรือจะไปผิดทิศ. เขาบอกให้เพื่อนๆ เข้าประจำตำแหน่งเรือ, ฝนตั้งเค้ามาอีกแล้ว ลูกคลื่นเริ่มสูงขึ้นเล็กน้อย.

 

เพชร กับ บ่าวหลา ลดใบเรือลงครึ่งหนึ่ง, เรือยังคงเล่นเท่าเดิม เพราะลมแรงมาก เรือโยกโคลงเคลง ไปตามแรงลูกคลื่น. ไม่นาน ฝนก็เทลงมา, นี่เป็นครั้งแรก ที่พวกเด็กๆ เจออุปสรรค. แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา, พวกเขาเคยปะทะกับพายุฝน มาหนหนึ่งแล้ว ตอนออกเรือฝึกซ้อมกับเฒ่าทะเล. สินสมุทร พยายามบังคับเรือ สู้กับคลื่นทะเล, ลูกเรือที่เหลือ ช่วยกันสูบน้ำออกจากเรือ เพื่อลดน้ำหนักของน้ำบนเรือ.

 

เวลาผ่านไปราว 2 ชั่วโมง พายุฝนจึงเบาบางลง พร้อมกับความมืด โรยตัวลงมาแทนที่.

 

ฝนที่หยุดไปเมื่อสักครู่ ทำให้อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย, พวกเขาจำเป็นต้องผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้น ก็กินอาหารค่ำ. ระหว่างนี้ สินสมุทร ถือโอกาสประชุม การเปลี่ยนแผนเดินทางอีกครั้ง. เขากางแผนที่ออกให้เพื่อนๆ ดู และชี้ไปที่เกาะแห่งหนึ่งในแผนที่ ซึ่งอยู่ห่างจากแผ่นดินไกลออกไป.

 

“เห็นเกาะนี่ไหม๊ เราจะไปที่นั่น”

“นี่เท่ากับว่า เราออกทะเลใหญ่กันเลยนะ” สุดสาคร หวั่นวิตก “เราต้องปฏิบัติตามกฏที่เฒ่าทะเลบอก ไม่ใช่เหรอ?”

“ใช่ แต่เราก็ไม่ได้ทำผิดกติกานี่ เราไม่ได้ออกห่างจากฝั่ง แต่เราจะไปหาฝั่ง ที่เกาะนี่” สินสมุทร บอกเหตุผล “บางที กฏก็มีไว้ให้แหก ถ้ากฏข้อนั้น มันไม่ได้ช่วยอะไรเรา คิดดูนะ ถ้าเราไม่ออกจากฝั่ง ไปหาเกาะ ก็คงจะไม่ได้เจอพ่อกับแม่ เรือเขาสองคน อาจติดอยู่ที่เกาะไหนสักแห่ง”

 

เป็นเหตุผลของกัปตัน ที่พอยอมรับได้ สังข์ จึงไม่ได้ขัดแย้งอะไร “ถ้างั้น ไปอีกไกลแค่ไหนล่ะ?”

“ไม่รู้ ... อาจจะเจ็ดวัน” สินสมุทร ตอบ แล้วหันไปถาม โสนน้อย “แต่เราก็มีน้ำและอาหาร เพียงพอไม่ใช่เหรอ?” โสนน้อย พยักหน้า.

“มีใครเห็นเป็นอย่างอื่นอีกไหม๊?” สินสมุทร ถามอีกครั้ง, เมื่อไม่มีใครปฏิเสธ จึงได้ข้อสรุปการประชุมว่า “ถ้างั้น เมื่อไปถึงที่นั่น เราจะแวะเติมน้ำ เติมอาหาร”

 

หลังจากจัดเวรยาม โสนน้อย กับ เอื้อย เข้านอน ที่ห้องติดกับใต้ท้องเรือ. แต่สินสมุทร ไม่อาจทิ้งงานกัปตันเรือไปได้, จึงเลือกนอนข้างบน พร้อมกับพวกผู้ชายทั้งหมด.

 

“ไปที่เกาะนั่น แล้วเราจะเจออะไรบ้าง?” สุดสาคร ถามพี่ชาย.

“เราอาจจะเจอพ่อกับแม่ก็ได้” สินสมุทร ตอบแบบไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไร ก่อนจะงีบหลับไป.

 

...

 

ก่อนฟ้าสว่าง ลมทะเลพาเรือมาเกยตื้น ที่เกาะแห่งหนึ่ง หมอกยามเช้า โรยตัวลงมาทำให้ทัศนวิสัย มองออกไปได้ ไม่ไกลนัก. สองพี่น้อง สินสมุทร สุดสาคร รู้สึกตัวตื่นขึ้น. เข้าใจว่ามาถึงเกาะที่หมายแล้ว มองเห็นสังข์และคนอื่นๆ ยังหลับสบาย จึงกระซิบกระซาบ พากันลงจากเรือ โดยไม่ปลุกเพื่อนๆ.

 

เมื่อขึ้นฝั่งมาได้ เขามองฝ่าหมอก และความมืดสลัว ไปที่ใจกลางเกาะนั่น ปรากฏแสงไฟสองดวง โผล่พ้นจากแนวโขดหิน.

 

“ใช่ตาปีศาจ รึเปล่า?” สุดสาคร เกาะแขนพี่ชาย กระซิบถาม และพากันเดินเข้าไปให้ใกล้ อีกนิด อย่างระมัดระวัง. เมื่อเข้าไปใกล้ระยะสายตามองเห็น.

“ไม่น่าใช่ ... น่าจะเป็นแสงจากไฟฉายอันโตๆ” สินสมุทร บอกกับน้องชาย เพื่อไม่ให้เป็นกังวล.

 

ดวงไฟสองดวง ส่องไปกระทบศีรษะเด็กทั้งสองเข้าพอดี เด็กๆ จึงผลุบหัวหลบลง ข้างโขดหิน.

 

“นั่นใคร?”

 

เสียงตะโกนถาม มาจากแสงไฟ. สองพี่น้องรู้สึกดีใจ ความกลัวเมื่อสักครู่ หายไป, ไม่คิดว่าจะมีคนอยู่บนเกาะนี้. เขาจึงค่อยๆ โผล่หัวขึ้นมา แสงไฟนั่นก็ยิ่งสว่างขึ้นอีก

 

“นั่นใช่ สินสมุทร รึเปล่า?”

สำเนียงของคำถาม ฟังดูคุ้นๆ หู แสดงความเป็นมิตร ไม่ใช่คนร้่ายแน่ๆ และที่แปลกคือ เสียงเหมือนคนที่เคยรู้จักกัน, แต่ก็ยังไม่แน่ใจ. สินสมุทร โผล่หน้ายืนขึ้น มองไปที่แสงไฟนั่น. อะไรกันนี่!!

 

“จริงด้วยๆ คุณ นั่นลูกของเรา สุดสาคร ก็อยู่ที่นี่ด้วย … ลูกแม่”

 

สองพี่น้องทบทวนความจำ อย่างเร็ว, พ่อกับแม่ของพวกเขา นั่นเอง. ชั่งน่าอัศจรรย์เหลือเกิน ไม่ใช่สิ น่าจะเรียกว่า โชคดีต่างหาก. ชายหญิงชาวเลสองคน ถือไฟดวงใหญ่ เดินมาหาพวกเขา และโน้มตัวเข้ามาใกล้ๆ.

“พ่อ แม่” สินสมุทร ตะโกนเรียกสุดเสียง.

...

 

“วู๊ด! … วู๊ด!”

 

เสียงหวูดเรือ พร้อมด้วยดวงไฟสองดวงคู่ สว่างจ้าราวกับกลางวัน, ปลุกให้สินสมุทร ตื่นจากภวังค์ ตามด้วยสังข์ และ สุดสาคร.

“แสงอะไรน่ะ?”

สังข์ ถาม ขณะที่เสียงวูดดังแรงขึ้น และดูเหมือนว่า เข้ามาใกล้กว่าเดิม.

“เรือ เรือใหญ่ หันหัวเรือ เร็ว!” สุดสาคร ตะโกนบอกพี่ชาย สุดเสียง.

 

เสียงหวูดเรือ ดังใกล้เข้ามาอีก, ดวงไฟสองดวง ยังคงสว่างจ้า. ทุกอย่างโกลาหลไปหมด, บ่าวหลา ตะโกนบอก ให้เด็กๆ ตั้งสติไว้ และบอกสินสมุทร ให้หันหัวเรือ. สินสมุทร บังคับหางเสือเรือ ไปให้พ้น จากเส้นทางของเรือเดินสมุทรโดยเร็ว พร้อมกับตะโกนออกคำสั่ง เสียงดังลั่น.

 

“สุดสาคร ติดเครื่อง เร็ว! พี่บ่าวหลา ชักใบเรือเดี๋ยวนี้”

 

สุดสาคร รีบลงไปข้างล่าง ติดเครื่องยนต์. ใบเรือที่เหลืออีกครึ่ง ค่อยๆ ถูกชักขึ้น เพื่อรับแรงปะทะของลม. เอื้อย โสนน้อย ช่วยเพชรกับบ่าวหลา ชักใบเรือขึ้นสุดเสา.

 

“สาคร ติดเครื่องเร็ว”

สังข์ ตะโกนลงไปข้างล่าง ขณะที่เสียงหวูดมรณะนั่น ดั่งสนั่นหวั่นไหวเป็นระยะ.

 

เครื่องยนต์ไม่ได้ติดมาหลายวัน มันจึงดื้อติดยากสักหน่อย. สินสมุทร พยายามสตาร์ทเครื่องอีก 3 ครั้ง. คราวนี้ เครื่องยนต์ ถูกปลุกให้ตื่น ทันเวลา. ลมกรรโชกมาอย่างแรง. เครื่องยนต์ ถูกเร่งเต็มกำลัง รวมกับแรงลมที่ปะทะใบเรือ พาหัวเรือสำเภายนต์ เบนออกจาก เส้นทางของเรือยักษ์ไปได้ อย่างหวุดหวิด.

 

ไม่นาน แสงแรกแห่งอรุณ เริ่มจับท้องฟ้า, ดวงตะวันกลมโตสีแดง โผล่พ้นจากขอบทะเล พาทัศนวิสัยให้ดีขึ้น. คณะเดินทางท่องทะเล เดินทางต่อไป มุ่งสู่เกาะเกาะหนึ่ง ตามแผนที่.

 

เมื่อเข้าใกล้วันที่ 7 รู้สึกว่า อุณหภูมิเย็นลง ท้องฟ้าดูหม่นมัว ด้วยหมอก เหมือนถูกพ่นมาจากทุกทิศทาง. ช่วงที่เป็นเวลากลางวัน บรรยากาศและทัศนวิสัยแจ่มใสนิดหนึ่ง พอจะใช้กล้องส่องทางไกลได้บ้าง.

 

“ไม่มีวี่แววจะเห็นเกาะนั่นเลย ... รึว่า เราจะมาผิดทิศ?” สังข์ เริ่มไม่แน่ใจ.

“ไม่หรอก เราก็มาตามแผนที่แล้วนี่” สินสมุทร ตอบอย่างมั่นใจ.

 

ท้องทะเลอันกว้างใหญ่ มองไปรอบๆ มีแต่เวิ้งน้ำ ลูกคลื่น ลมและฝน. สังข์ เอื้อย และ โสนน้อย เริ่มชินแล้ว กับการอยู่ทะเลนานๆ. แต่คราวนี้ มันนานผิดปกติ, แม้แต่ สินสมุทร กับ สุดสาคร ที่ว่าเป็นเด็กชาวเลเอง ก็รู้สึกหวั่นไหวไม่น้อย. เวลาที่พวกเขาอยู่บนเรือ มันได้เลยมาเป็นวันที่ 15 แล้ว ก็ยังไร้วี่แวว ที่จะเห็นเกาะ หรือชายฝั่ง. และถ้านับวันที่เริ่มเดินทาง ก็ราวๆ 20 วัน, นานขนาดนี้ อาหารและน้ำจืด เหลือน้อยเต็มที. แม้ว่าท้องฟ้า คลื่นทะเล จะดูสงบดี แต่ความหวังที่จะเห็นฝั่ง ก็ยังไม่มี. ความหวั่นไหว เข้ามาเยือน กับคณะเดินทางท่องทะเล.

 

“เราไม่น่าพาเรือออกมาไกลอย่างนี้เลย” สุดสาคร เอ่ยขึ้น เพื่อปรับทุกข์กับเพื่อนๆ “เฒ่าทะเลก็เตือนเราแล้ว ว่าอย่าออกไปไกลจากฝั่ง ... เราขอโทษ”

“อย่าโทษตัวเองเลยน่า” เอื้อย กล่าวปลอบใจ “ก็พวกเราพร้อมใจกัน จะออกทะเล และอีกอย่าง พวกเราก็เชื่อว่า เธอตัดสินใจถูก เพราะเธอเป็นต้นหนเรือนี่”

“อย่าเพิ่งสิ้นหวังซี เพื่อน” สังข์ เอ่ยขึ้นบ้าง “ ไหนๆ เราก็แหกกฏกันมาแล้ว จะแหกต่อไป ก็ไม่เป็นไรนี่ ... กฏข้อที่หนึ่ง ห้ามแหกกฏ กฏข้อที่สอง กฏมีไว้ให้แหก ถ้ายังสงสัยว่า จะทำตามกฏดี หรือว่าจะแหกกฏดี ก็ให้ทำตาม กฏข้อที่หนึ่งไว้ก่อน นี่คือ กฏข้อที่สาม และถ้ากฏข้อที่สาม ยังไม่ได้ผล ก็แหกกฏมันซะเลย นี่คือ กฏข้อที่สี่”

“สังข์ ก็ ทำเป็นพูดตลกไปได้”

“ไม่ตลกหรอกน่า เราว่านะ เธอก็ทำไปจนครบ ทั้งสี่ข้อแล้วละ โลกมันกลม มันก็ต้องถึงฝั่งสักวันนั่นแหละ”

“จริงด้วย เรือของเราก็ไม่ได้เสียซักหน่อย” เอื้อย ให้กำลังใจต่อ.

 

นักผจญภัยทั้ง 7 ชีวิต ต่างก็ฝากความหวังไว้ที่โชคชะตา ฝากชีวิตไว้กับท้องทะเล โดยมีน้ำและอาหาร ที่ร่อยหรอลงไปเรื่อยๆ เป็นสิ่งค้ำประกัน ....

 

จนกระทั่งบ่ายของอีกวันหนึ่ง, เด็ก 5 คน กับ ผู้ใหญ่อีก 2 คน พากันมานั่งชุมนุมกัน ที่กลางลำเรือ แบ่งอาหารและน้ำที่เหลืออยู่. น้ำจืดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และนี่มันคือมื้อสุดท้าย, ต่อจากนี้ไป พวกเขาจะต้องรอน้ำจืด จากฝนเท่านั้น ...

 

ท่ามกลางบรรยากาศ ท้องฟ้าขมุกขมัว มีทัศนวิสัยไม่เกิน 200 เมตร. แต่ละคน เริ่มท้อแท้ ความรู้สึกสิ้นหวัง เริ่มมาเยือน ต่างพากันนอนรอโชคชะตา. ต้นหนเรือ ปล่อยให้เรือแล่นไปข้างหน้า ตามยถากรรม, เรือแล่นช้าๆ เข้าไป ใกล้บริเวณที่อาจเป็นปรากฏการณ์ประหลาด โดยไม่มีใครรู้ตัว. สินสมุทร รู้สึกมีอะำไรแปลกๆ อยู่ข้างหน้า, ปลุกให้เพื่อนๆ ตื่น.

ทุกคน ต่างมองไปข้างหน้า ปรากฏม่านลำแสง ส่องลงมาจากท้องฟ้า พุ่งผ่านหมอกขมุกขมัว ลงไปที่ผิวน้ำ เป็นแนวเส้นตรง จากฟากหนึ่งของท้องฟ้า ไปยังอีกฟากหนึ่ง. ไม่ใครให้คำตอบได้ว่า แนวเส้นตรงของลำแสงพิศวงนั่น มันเริ่มต้นที่ตรงไหน และไปสิ้นสุดที่ไหน ของท้องทะเล.

 

สินสมุทร เอาเข็มทิศออกมาเทียบดู. นี่มันเกิดอะไรกันขึ้นอีกล่ะ เข็มทิศไม่ทำงาน ราวกับว่าทิศเหนือหายไปจากโลก. สังข์ หยิบกล้องส่องไปข้างหน้า.

 

“แสงอะไรน่ะ?” สินสมุทร ถาม สังข์ ส่งกล้องให้.

“แสงเป็นสีรุ้ง เหมือนรุ้งกินน้ำเลย” สินสมุทร พูด แล้วเอากล้องให้เพื่อนๆ ส่องดูทุกคน.

“จริงด้วย สวยจังเลย ม่านสีรุ้งกั้นทะเล เป็นสองฝั่ง” โสนน้อย อุทาน.

“เอาไงดี? เราจะหยุด ถอยหลัง หรือไปต่อ” สุดสาคร ถามพี่ชาย “แล้วพวกเรา อยู่ทิศไหนกันล่ะเนี่ยะ”

“เข็มทิศเสียมั๊ง มันไม่ทำงาน”

“อะไรนะ! เข็มทิศไม่ทำงาน”

 

สังข์ อุทาน คิดในใจว่า พวกเขาคงจะแล่นเรือเข้ามาในเขต ที่เป็นกับดักของเวลา ก็เป็นได้ เหมือนเมื่อครั้ง เขาสามคน เอื้อย และโสนน้อย หลงเข้าไปในหมู่บ้านดูดเวลา. แต่ก็ยังไม่แน่ใจเสียทีเดียวนัก เพราะมันยังพิสูจน์อะไรไม่ได้ ในตอนนี้ จึงเก็บไว้ในใจ ยังไม่บอกให้สองพี่น้องรู้.

 

คราวนี้ สินสมุทร ไม่กล้าตัดสินใจคนเดียว, การประชุมแบบง่ายๆ ได้ข้อสรุปว่า พวกเขาตัดสินใจ ปล่อยให้เรือเดินหน้า ทะลุผ่านมันไป.

 

พวกเด็กๆ ไม่รู้หรอกว่า สถานที่ที่พวกเขาเข้าไปนั้น คืออะไร มันเป็นกับดักของกาลเวลา หรือเป็นแค่ปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ หรือว่ามนุษย์ต่างดาว สร้างมันขึ้นมา. ถ้าพวกเขาคนใดคนหนึ่ง มีโอกาสพาตัวเอง นั่งยานกระสวยอวกาศ ขึ้นมาข้างบนเหนือพื้นโลก สักสิบกิโลเมตร และมองลงไปข้างล่าง, ม่านแสงนั่น มันส่องลงไปที่พื้นทะเล เป็นวงกลมใหญ่ ขนาดมหึมา สามารถเป็นที่จอดเรือสำเภา ขนาดเท่าเรือของพวกเขา ได้เป็นพันลำ.

 

พวกเขาอาจจะตัดสินใจผิดก็ได้ ที่เข้าไปในนั้น ... หรือว่าเป็นเพราะโชคชะตา กำหนดไว้เช่นนั้น.

 

เรือสำเภาสัญชาตินักรบ นามว่า โดว์ ดาบแห่งท้องทะเล พร้อมด้วยธงสัญลักษณ์ รูปดาบไขว้ห้าเล่ม แล่นผ่านเข้าไปในบริเวณม่านแสง ที่ส่องลงมา. ทันใดนั้น! ม่านแสงก็สลาย กลายเป็นเกร็ดแสงสีรุ้ง ปลิวไสวร่วงหล่นลงมา ราวกับละอองเกสรดอกไม้, ปลิวไปกับสายลมอันแผ่วเบา. เกร็ดแสงนั่น ค่อยๆ ปลิวพัดวนเวียนส่ายไปมา บางครั้งก็บิดเป็นวงก้นหอย บางครั้งก็หมุนบิดเป็นเกลียว บางครั้งก็หมุนวนเหมือนขดลวด ปลิวไปทั่วบริเวณนั้น ... แรงขึ้น เร็วขึ้น ... จนคนบนเรือ ไม่อาจต้านทานแรงประหลาดนั่นได้, ซัดเซไปตามแรงหมุน เหมือนถูกพลังบางอย่างกระทำ ทั้งๆ ที่กระแสลมขณะนั้นก็พัดเอื่อยๆ.

แต่กลับสร้างความมหัศจรรย์ และความเพลิดเพลิน ให้แก่พวกเด็กๆ เป็นอย่างมาก. ทุกคนดูสนุกสนาน กับปรากฏการณ์ พิศวง แต่สำหรับ สังข์, เขากลับไม่ไว้วางใจ. แต่ไม่อาจสรุปได้ว่ามันเป็นอะไรกันแน่. ปรากฏการแบบนี้ แตกต่างจากหมู่บ้านดูดเวลา อย่างสิ้นเชิง, มันอาจไม่ใช่เขตแดนดูดเวลา เหมือนที่คิดไว้ในตอนแรก. สักครู่ เกร็ดแสงเหล่านั้น ก็ค่อยๆ เลือนหายไปในอากาศ ปล่อยให้ความมืดสลัวอึมครึม เข้ามาแทนที่ดังเดิม ราวกับไม่มีเกิดอะไรขึ้น.

 

 

อ่านต่อ ... ตอนที่ 31/105

 

สารบัญ / ตอนที่

ปฐมบท -

แสงแรกของเรื่องราว


ภาคที่ 1: ตามหารัก อุปสรรคไม่ท้อ


บทที่ 1   ต้นเหตุของเรื่องราว

(1) ละครชีวิตแห่งนครวิชัยยศ (ตอนที่ 1/105)
(2) รัก ริษยา อาฆาต อำนาจมัวเมา (ตอนที่ 2/105)
(3) อำลาที่ขมขื่น (ตอนที่ 3/105)

บทที่ 2   สังข์ เอื้อย โสนน้อย

(1) อดีตที่เติบโต (ตอนที่ 4/105)
(2) เพื่อนใหม่ผู้น่าสงสาร (ตอนที่ 5/105)
(3) จินตนาการ นิทาน ความฝัน (ตอนที่ 6/105)

บทที่ 3   วันสังหาร

(1) ชีวิตที่โหยหา (ตอนที่ 7/105)
(2) พินัยกรรมริษยา (ตอนที่ 8/105)
(3) คำสั่งลับ (ตอนที่ 9/105)

บทที่ 4   ชีวิตใหม่กลางภูผา

(1) ภาระใหม่ของนาเคนทร์ (ตอนที่ 10/105)
(2) ความลี้ลับของป่า (ตอนที่ 11/105)
(3) บทเรียนชีวิต (ตอนที่ 12/105)
(4) เวทกล มนตร์สู้ปีศาจ (ตอนที่ 13/105)
(5) ส่งเด็กกลับบ้าน (ตอนที่ 14/105)

บทที่ 5   ภูติร้ายในป่ามรณะ

(1) ประตูมายาแห่งป่า (ตอนที่ 15/105)
(2) ภาพลวงตา (ตอนที่ 16/105)
(3) กลลวงปีศาจ (ตอนที่ 17/105)
(4) หุบผาหมอก (ตอนที่ 18/105)

บทที่ 6   ประตูเวลาที่เรือนปีศาจ

(1) การมาเยือน ของมนุษย์นอกจักรวาล (ตอนที่ 19/105)
(2) ประตูเวลา ของพวกเอเลี่ยน (ตอนที่ 20/105)

บทที่ 7   หนอนทะเลทราย

(1) สู่ทะเลทราย (ตอนที่ 21/105)
(2) หนอนยักษ์ มฤตยูใต้ดิน (ตอนที่ 22/105)

บทที่ 8   หลุมดำดูดเวลา และการตามล่าของมนุษย์นอกจักรวาล

(1) หมู่บ้านไร้เวลา (ตอนที่ 23/105)
(2) จุดจบของพวกเอเลี่ยน (ตอนที่ 24/105)

บทที่ 9   พบเพื่อนใหม่

(1) สองพี่น้องชาวเล (ตอนที่ 25/105)
(2) ปริศนาเฒ่าทะเล (ตอนที่ 26/105)
(3) ความลับ (ตอนที่ 27/105)
(4) แผนเดินทาง (ตอนที่ 28/105)
(5) บทเรียนบนเรือรบ (ตอนที่ 29/105)

บทที่ 10    ผจญภัยกลางมหาสมุทร

(1) เขตย้อนเวลา (ตอนที่ 30/105)
(2) บนเรือโจรสลัด (ตอนที่ 31/105)
(3) ผีเสื้อสมุทร และหมึกยักษ์ (ตอนที่ 32/105)
(4) เกาะร้าง (ตอนที่ 33/105)
(5) นิมิตแห่งตำนานสายฟ้าอสูร (ตอนที่ 34/105)

บทที่ 11   ปาฏิหาริย์ของเทพแห่งลิง

(1) อาวุธมีเจ้าของ (ตอนที่ 35/105)
(2) ปาฏิหาริย์ลิงเผือก (ตอนที่ 36/105)
(3) ปริศนาคำทำนาย (ตอนที่ 37/105)
(4) อากาศยานช่วยชีพ (ตอนที่ 38/105)
(5) อวสานเกาะร้าง (ตอนที่ 39/105)

 

ภาคที่ 2: ฝ่าอุปสรรค เพื่อรักและอิสรภาพ


บทที่ 12   นครพันธุรัฐ เมืองคนทาส

(1) เชลย (ตอนที่ 40/105)
(2) ทาสใหม่ (ตอนที่ 41/105)
(3) นายหญิง เจ้าแห่งนครพันธุรัฐ (ตอนที่ 42/105)
(4) สถานภาพใหม่ของสังข์ (ตอนที่ 43/105)
(5) ความลับของนาเคนทร์ (ตอนที่ 44/105)

บทที่ 13   เทคโนโลยีล่องหน

(1) ห้องลับของนายหญิง (ตอนที่ 45/105)
(2) นวัตกรรมการอำพราง (ตอนที่ 46/105)
(3) เสน่ห์แห่งอำนาจ (ตอนที่ 47/105)
(4) ความลับที่ต่อรองกันได้ (ตอนที่ 48/105)

บทที่ 14   แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 1)

(1) แผนหลบหนี (ตอนที่ 49/105)
(2) ประตูแห่งอิสรภาพ (ตอนที่ 50/105)
(3) หนี (ตอนที่ 51/105)

บทที่ 15   เส้นทางที่พลัดพราก

(1) หมู่บ้านมนุษย์กินคน (ตอนที่ 52/105)
(2) พลายงาม เพื่อนร่วมทางคนใหม่ (ตอนที่ 53/105)
(3) นางพิม (ตอนที่ 54/105)
(4) เปลี่ยนร่างอำพรางหนี (ตอนที่ 55/105)

บทที่ 16   เมืองกาญจนา

(1) วัดส้ม เมืองกาญจนา (ตอนที่ 56/105)
(2) ธัมมะกับชีวิต (ตอนที่ 57/105)
(3) ไปพบย่าทอง (ตอนที่ 58/105)

บทที่ 17   บ้านของย่าทอง

(1) สายสัมพันธ์ย่าหลาน (ตอนที่ 59/105)
(2) ความสุขในเรือนทอง (ตอนที่ 60/105)
(3) ความสุข ความพอเพียง (ตอนที่ 61/105)

บทที่ 18   วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน

(1) วัยรัก วัยเรียน (ตอนที่ 62/105)
(2) ความรักที่ก่อตัว (ตอนที่ 63/105)
(3) แสงสีแห่งชนบทยามค่ำคืน (ตอนที่ 64/105)
(4) เรื่องวุ่นวาย ของวัยรุ่น (ตอนที่ 65/105)

บทที่ 19   ความรัก ความหวัง ยังไม่สิ้น

(1) เส้นทางรัก โสนน้อย สร้อยมณี (ตอนที่ 66/105)
(2) บวชพลายงาม (ตอนที่ 67/105)
(3) ลางบอกเหตุ (ตอนที่ 68/105)
(4) ทางรัก ทางธรรม (ตอนที่ 69/105)

บทที่ 20   ตามหาเพื่อน

(1) ก้าวใหม่ของ นครพันธุรัฐ (ตอนที่ 70/105)
(2) รหัสสื่อสาร 213 ที่ยังจำกันได้ (ตอนที่ 71/105)
(3) นักบินฝึกหัด (ตอนที่ 72/105)

บทที่ 21   แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 2)

(1) เปิดฉากหนี (ตอนที่ 73/105)
(2) ปิดฉากทาสนรก (ตอนที่ 74/105)

 

ภาคที่ 3:   รักนิรันดร์ ฝันเป็นจริง


บทที่ 22   เดินทางไกล ไปตามฝัน

(1) สิงห์ดำ (ตอนที่ 75/105)
(2) เมืองแห่งความฝัน (ตอนที่ 76/105)

บทที่ 23   นครรัฐเทพนารา

(1) นรกบนเมืองสวรรค์ (ตอนที่ 77/105)
(2) สวรรค์ในเมืองนรก (ตอนที่ 78/105)
(3) บทเรียนของแพรวา (ตอนที่ 79/105)
(4) งานเลี้ยงที่มีวันเลิกลา (ตอนที่ 80/105)

บทที่ 24   ชีวิตใหม่ ใจกลางมหานคร

(1) แดนคนเถื่อน (ตอนที่ 81/105)
(2) เพื่อนรัก (ตอนที่ 82/105)
(3) แดนคนดี (ตอนที่ 83/105)

บทที่ 25   ชีวิตจัดสรร ณ สันติอรุณ

(1) สวรรค์ลิขิต (ตอนที่ 84/105)
(2) ชีวิตจัดสรร (ตอนที่ 85/105)
(3) วิถีชีวิต วิถีชุมชน (ตอนที่ 86/105)
(4) คุณครูมือใหม่ (ตอนที่ 87/105)

บทที่ 26   สัมผัสแรก สัมผัสรัก

(1) เบื้องหลังของหญิงสาว (ตอนที่ 88/105)
(2) ประสบการณ์ที่มีค่า ของรจนารินี (ตอนที่ 89/105)
(3) ของสำคัญ ที่ต้องหาให้เจอ (ตอนที่ 90/105)

บทที่ 27   สังข์ทอง รจนา

(1) คืนร่างเดิม (ตอนที่ 91/105)
(2) ชีวิตใหม่ (ตอนที่ 92/105)
(3) ความหลัง ความรัก (ตอนที่ 93/105)

บทที่ 28   วิกฤตของนครรัฐ

(1) ปัญหาที่ยังตีบตัน (ตอนที่ 94/105)
(2) ตามหาคำตอบ (ตอนที่ 95/105)
(3) นักเล่านิทาน (ตอนที่ 96/105)

บทที่ 29   กู้วิกฤต

(1) สันติอรุณโมเดล (ตอนที่ 97/105)
(2) แผนกู้วิกฤต (ตอนที่ 98/105)
(3) วิกฤตรัก (ตอนที่ 99/105)

บทที่ 30   ฝันที่เป็นจริง

(1) แต่งกับงาน (ตอนที่ 100/105)
(2) การสังหารท่านผู้นำ (ตอนที่ 101/105)
(3) อำนาจใหม่ (ตอนที่ 102/105)
(4) พ่อแม่บุญธรรม (ตอนที่ 103/105)
(5) ฝันเป็นจริง (ตอนที่ 104/105)

 

ปัจฉิมบท -
งานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกลา (ตอนที่ 105/105 ปัจฉิมบท)

 

เพลง ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์

ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
เฝ้าใฝ่ฝัน ขอให้เป็นจริง
ความรัก ความกตัญญู เหนือกว่าทุกสิ่ง
แนบอกแม่อิง อุ่น ไอ รัก

ฝ่าอันตราย สิ่งเลวร้ายนานา
สู้อาสา แม้ยากยิ่งนัก
ความโหดร้าย ริษยา อ่อนล้าเหนื่อยหนัก
ต้องกล้าหาญหัก อุปสรรค สู้ทน

ภูติป่า อสูรร้าย เหตุการณ์ท้าทายให้สู้
ต้องยืนหยัดอยู่ กอบกู้ หมู่ประชาชน
เพื่อแม่ เพื่อรัก เพื่อความภักดี ต้องทน
ข้าขอผจญ มารร้าย พ่ายแพ้ไป

ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
คืนฝันวันหวัง ยังอยู่ในใจ
ความรัก ความหวัง คือพลังยิ่งใหญ่
โอ้แม่จ๋า แม่อยู่ไหน ลูกเหนื่อยเหลือเกิน.


 

focused thinking

หน้าแรก - ชุมชน คนคิดดีวรรณกรรม - วิชาการ - บทความ เรื่องสั้น ร้อยกรอง เพลงภาพยนตร์ - บทภาพยนตร์ ภาพยนตร์ตัวอย่าง วิดีโอ มิวสิควิดีโอ
นิเทศศาสตร์ - วิชาเรียน บรรยาย ตำรา เอกสารการเรียน สื่อการเรียน ถาม ตอบ

 


igood media copyright
 SUDIN CHAOHINFA, igoodmedia.net : Administration and Producer
Copyright © 2010-2021 intelligence good media homeschool.
All rights reserved. me@igoodmedia.net