ภาคที่ 1 บทที่ 10 ผจญภัยกลางมหาสมุทร ตอนที่ 32 ผีเสื้อสมุทร และหมึกยักษ์
รุ่งเช้า หัวหน้าโจร เรียกประชุมลูกเรือโจรทั้งหมด ยืนที่แท่นบัญชาการ ประกาศการเปลี่ยนทิศทางเดินเรือ เพื่อไปส่งสหายตัวน้อยๆ ขึ้นฝั่ง. สมุนโจรหลาย ยอมรับว่า สหายตัวเล็กนี่ กล้าหาญกันทุกคน พวกเขายินดีจะไปส่ง ตามคำร้องขอ. แผนเดินทางตอนนี้ ต้องแวะเติมน้ำจืดและอาหารก่อน ...
เรือเล็กของพวกโจร แล่นห่างจากเรือลำแม่ ออกมาได้พักใหญ่ ท้องทะเลก็เริ่มปั่นป่วน อยู่ๆ ก็มีคลื่นใต้น้ำผุดขึ้นมา เหมือนมีสัตว์ประหลาด เคลื่อนที่อยู่ บริเวณใต้ท้องเรือ. พวกเขารีรอครู่หนึ่ง รู้สึกไม่ไว้วางใจ เมื่อสังเกตว่า น่าจะมีอะไรสักอย่าง ทำกับเรือของพวกเขา. แต่หัวหน้าทีมมีสงหรณ์ไวกว่า บอกให้เร่งเรือให้ถึงฝั่งโดยเร็ว. แต่ดูเหมือนว่า สิ่งที่อยู่ใต้ทะเลนั่น ก็ยิ่งเคลื่อนไหวเร็วขึ้น, ปรากฏร่องริ้วของคลื่นทะเล วนไปรอบๆ เรือของพวกเขา. ทันใดนั้น! สิ่งประหลาดใต้ทะเล ก็ปรากฏกายให้เห็น ตอนแรกมันก็ว่ายผุดขึ้นมาจากใต้ทะเล เหมือนปลา แต่พอถึงผิวน้ำ มันบินฉวัดเฉวียนขึ้นสู่ท้องฟ้า. ที่เห็นตอนนี้ มากัน 3 ตัว.
พวกสมุนโจรรู้สึกหวาดหวั่นไม่น้อย, ข้างล่างนั่น ไม่ใช่แค่ที่เห็น มันอาจจะมีสิ่งอื่น ที่น่ากลัวกว่านี้แน่นอน. คงไม่ต้องบอกซ้ำ, ทุกคนบนเรือ เร่งฝีพายหนักขึ้น ไปให้พ้นจากมัจุราช ที่กำลังมาเยือน. สัตว์ประหลาดบินวนเวียน โฉบเข้ามาหาเหยื่อ ใกล้เข้าไปทุกขณะ. ดูเหมือนว่า พวกมันก็ยังรีรอ ดูปฏิกิริยาของเหยื่อ, มันบินรวดเร็วมาก จนยากที่จะสังเกต รูปร่างพวกมันได้ถนัดนัก. หัวหน้่าทีม ยกธนูขึ้นประทับเล็ง หวังจะสอยสัตว์ประหลาดนั่น แต่พลาดไปทุกครั้ง มันบินหลบได้รวดเร็วมาก.
ความรู้สึกยินดี ของทุกคนบนเรือ ที่พบเกาะกลางทะเล, ในตอนนี้ มันไม่น่ายินดีเสียแล้ว. พวกเขาได้ยินเสียงร้อง ขอความช่วยเหลือ ของสมุนโจรบนเรือเล็ก. ยังไม่ทันจะไหวตัวไปทางไหน ก็ปรากฏสัตว์ประหลาด บินโฉบมาที่เรือสำเภาใหญ่ เป็นระยะๆ. บินมาแล้ว ก็บินโฉบขึ้นฟ้าไป แล้วก็โฉบมาใหม่. เท่าที่มองเห็น มีเกือบ 20 ตัว และกำลังทะยอยมา บางตัวก็ฉกเอาใบเรือจนขาดเป็นรู. เกิดความโกลาหลขึ้นมาทันที มีเสียงตะโกน สั่งให้รีบลดใบเรือลง.
หัวหน้าโจรสลัด ออกไปควบคุมสถานการณ์ทันที, ประกาศให้ลูกเรือทุกคน เตรียมตัวป้องกันผู้บุกรุก. สมุนโจรทั้งหมดบนเรือ วิ่งหลบหลีก เอาตัวรอดกันโกลาหล เกรงจะตกเป็นอาหาร ของนกทะเลประหลาดพวกนี้. หลบไปด้วย และซัดอาวุธใส่มันไปด้วย.
มฤตยูจากท้องทะเลตัวหนึ่ง บินมาเกาะที่เสากระโดงเรือ ใกล้กับพวกเด็กๆ ที่ยืนเกาะกลุ่มกันอยู่. มันแยกเขี้ยวขู่ และนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่มันจะดีดตัวจากเสากระโดงเรือบินไป. เผยให้เห็นรูปลักษณ์ของพวกมันชัดเจน.
เมื่อสถานการณ์ กดดันกันแบบนี้, สัญชาตินักสู้ ของ สังข์ เอื้อย โสนน้อย กลับคืนมาอย่างรวดเร็ว. พวกเขารีบคว้าอาวุธคู่ตัว เตรียมพร้อมที่จะปะทะกับมันได้ทุกเมื่อ. คงมีแต่สองพี่น้อง สินสมุทร กับ สุดสาคร ที่ยังรู้สึกหวาดหวั่น หน้าเสีย เพราะไม่เคยพบเจอ เหตุการณ์ของจริงแบบนี้มาก่อน. นี่นับว่า เป็นการเผชิญหน้า ศรัตรูตัวจริง ที่ไร้ความรู้สึกเมตตาปราณี.
สัตว์ประหลาดนั่น บินรวดเร็วเกินกว่าสายตามนุษย์ จะจับทิศทางมันได้. หนวดของมันเป็นเรดาร์คุณภาพดีเยี่ยม สามารถบินหลบสิ่งกีดขวาง และหลีกอาวุธ ที่มีความเร็วมากกว่าลูกธนู ลูกดอกจากหน้าไม้ เป็นสิบเท่า. จึงไม่น่าแปลกอะไร ที่อาวุธของพวกโจรสลัด ไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย.
หัวหน้าโจรสลัด สั่งให้พวกสมุน ระดมยิงธนูและอาวุธอื่นๆ เท่าที่มี ใส่พวกมัน. แต่ก็ไม่สามารถฆ่าพวกมันได้เลย แม้แต่ตัวเดียว. พวกเด็กๆ ทำได้ดีที่สุด แค่หลบหลีกเอาตัวรอด พวกโจร ซึ่งมีรูปร่างใหญ่กว่า ตกเป็นเป้าสายตา ของสัตว์ร้ายแห่งท้องทะเล มากกว่าพวกเด็กตัวเล็กๆ. สถานการณ์ไม่ดีเลย. ผ่านไปไม่นาน พวกผีเสื้อสมุทร มันบินมาเพิ่มอีกเป็นฝูงราว 100 ตัว เต็มท้องฟ้า. พวกโจรสลัด ถูกนางผีเสื้อมฤตยูกลางมหาสมุทร ฉกเอาไปเป็นเหยื่อ คนแล้วคนเล่า จนเหลือเกือบไม่ถึงครึ่ง. ศึกหนนี้ หนักเกินกว่าจะต้านได้ พวกสมุนโจรเริ่มเสียขวัญ. การต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด เป็นไปอย่างชุลมุน ไม่มียุทธวิธี ไม่มีแบบแผน สู้แบบตัวใครตัวมัน. บางคนร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ขณะสู้กับศัตรู ที่ไม่รู้ว่าจะฆ่ามันได้อย่างไร, กลับตกไปเป็นเหยื่อของพวกมัน ทีละคน ๆ.
ข้อได้เปรียบของ สินสมุทร สุดสาคร สังข์ เอื้อย โสนน้อย รวมทั้ง เพชร บ่าวหลา ตัวเล็กกว่าพวกโจรมาก สามารถหลบซ่อน อยู่ในซอกเล็กแคบๆ พอที่จะรอดพ้น จากกรงเล็บของสัตว์มฤตยูเหล่านั้นได้. แต่ก็คงหลบต่อไปอีกได้ไม่นาน หากปล่อยให้สถานการณ์ เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ พวกเด็กๆ ก็คงไม่รอด ที่จะถูกจับไปเป็นเหยื่อเหมือนพวกโจร.
สุดสาคร ไม่มีเวลาโต้เถียงอะไรอีกแล้ว รีบคว้าเอาเครื่องดนตรีที่เฒ่าทะเลให้มา ออกมาจากถุงผ้าที่อยู่ข้างเอว ทบทวนวิธีเป่า ที่เฒ่าทะเลเคยสอนให้ แล้วเป่าเป็นเสียงออกไป. ... เสียงนั้นก้อง แหลมทุ้มลดหลั่นกันไป ดังไปทั่วบริเวณ. ชั่งน่าอัศจรรย์เกินจะคาดคิด มันก็แค่เสียงดนตรี ใช้เรียกเนื้อเรียกปลา ไม่ใช่อาวุธสำหรับเข่นฆ่าสักหน่อย แต่กลับสามารถสยบความเกรี้ยวกราดดุดัน ของปีศาจผีเสื้อสมุทรได้. เวลาผ่านไป เพียงแค่นาทีเดียว เหล่านางปีศาจผีเสื้อสมุทร ก็ถูกมนต์สกด! มันเคลื่อนไหวช้าลงมาก จนสังเกตได้ชัด.
เอื้อย กับ โสนน้อย ได้โอกาส ระดมยิงปีศาจทะเลด้วยลูกดอก. มันพยายามหลบ แต่ช้ากว่าความเร็วของลูกดอก. ปีศาจผีเสื้อสมุทรส่วนใหญ่ ไม่ระวังตัว และไม่รู้ตัวว่า ความเร็วของพวกมันลดลงแล้ว ยังชะล่าใจบินไล่จับเหยื่อจนเพลิน. โสนน้อย กับ เอื้อย นับว่ามีฝีมือระดับพระกาฬ ปล่อยอาวุธแต่ละดอก ไม่มีพลาด. ตัวที่ถูกยิง ถ้าไม่บาดเจ็บมาก ก็ล่าถอยไป.
สังข์ กับ สินสมุทร พากันปีนขึ้นไป บนแท่นบัญชาการ. ต่างฝ่ายต่างระวังหลัง ซึ่งกันและกัน. สังข์ ตรวจดูกระสุน เหลือน้อยเต็มที เพราะความเสียสติ ของหัวหน้าโจรสลัด ที่ระดมยิงอย่างไร้ทิศทาง. แต่มันยังมีเพียงพอ ที่จะกู้สถานการณ์คับขันนี้ได้. เสียงดนตรี บรรเลงไปพร้อมๆ กับ เสียงลูกกระสุนปีน ระเบิดลั่นดังสนั่น ทีละนัด ๆ สอยเจ้าปีศาจร้าย ร่วงไปทีละตัว ๆ. ตัวไหนคิดฉวยโอกาส เข้าไปด้านหลังของสังข์ ก็ถูกคมดาบของ สินสมุทร และลูกดอกของ เอื้อย กับ โสนน้อย เข้าทุกตัว. ... ดูเหมือนว่า สถานการณ์ของพวกมัน จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบไปเสียแล้ว.
เสียงบรรเลงดนตรี ยังคงดังก้องไปทั่ว, ขณะที่ ร่างของเหล่านางผีเสื้อสมุทร ถูกสอยร่วงไปเรื่อยๆ. ในที่สุด พวกมันรู้สึกว่า เหยื่อที่เหลือ มีความว่องไวพอๆ กับพวกมัน และสามารถทำร้ายพวกมันได้. สัตว์ผีเสื้อสมุทร ไม่สามารถหาเหตุผลได้ว่า เพราะอะไร ทำให้เหยื่อเคลื่อนไหว ได้เร็วเท่าๆ กับนักล่าอย่างพวกมัน หรือว่ามีพลังอะไร ฉุดให้ความเร็วของพวกมันลดลง จนตกเป็นผู้ถูกล่าเสียเอง. นับเป็นความฉลาด ของปีศาจนางผีเสื้อสมุทร ที่หลงเหลืออยู่ จึงพากันล่าถอย บินมุดน้ำหายไปในทะเลอันมืดมิด.
เมื่อสถานการณ์สงบลง สินสมุทร ชำเรืองมองลงไปที่หีบกระสุนปืน, มันไม่เหลือแม้แต่นัดเดียว. ที่พื้น เต็มไปด้วยปลอกกระสุนปืน กระเด็นกระดอนไปทุกทิศทาง. นาทีวิกฤตผ่านไป ได้หายใจทั่วท้อง รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด. กัปตันหัวหน้าโจร สำรวจความเสียหายของเรือ และลูกเรือโจรสลัดที่เหลือ. ใบเรือขาดยุ่ยกระจุยกระจาย จากกรงเล็บของผีเสื้อสมุทร บนเรือดูโหรงเหรง เหลือคนบนเรือเพียง 20 ชีวิต รวมทั้งเด็กๆ เพชร และ บ่าวหลา.
หัวหน้าโจรสลัด ยืนส่องกล้องทางไกล อยู่บนหัวเรือ อย่างหมดอาลัย. ภารกิจของเขายังต้องทำต่อไป เขาจะต้องหาฝั่งแผ่นดินให้เจอ เพื่อซ่อมใบเรือ และส่งสหายตัวน้อยๆ ขึ้นฝั่ง. ความเสียหายครั้งนี้ ถือเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญที่สุด ของการเป็นโจรสลัด, กว่าจะรวบรวมพลพรรคให้ได้เป็นร้อยคน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องใช้เวลา กำลัง และบารมี. เขาหวังว่า การมุ่งหน้าไปหาแผ่นดินครั้งนี้ จะทำให้เขาเสาะแสวงหาพลพรรคนักแสวงโชค ที่อยู่ตามเมืองต่างๆ มาเพิ่มจำนวนให้มากขึ้น.
หัวหน้าโจรสลัด จึงรวบรวมลูกเรือที่เหลือ พาเรือสำเภาแล่นต่อไปอย่างช้าๆ. ความตั้งใจของหัวหน้าโจร จะบรรลุผลหรือไม่ คงต้องอาศัยโชคชะตา เป็นแผนที่นำทาง.
เรือสำเภาของโจรสลัด ยังคงแล่นต่อไป ยิ่งแล่นไปข้างหน้า ลมก็ยิ่งพัดแรง ลูกคลื่นก็สูงขึ้นตามลำดับ ราวกับว่ามันไม่ได้แล่นเข้าฝั่ง แต่มันกำลังแล่นออกสู่ใจกลางมหาสมุทร.
คลื่นเริ่มซัดเข้าหาเรือรุนแรงขึ้น จนยากที่จะควบคุมเรือไว้ได้. เรือสำเภาใหญ่โยกเอนไปตามกระแสคลื่น ที่น่าเป็นห่วงก็คือ เรือสำเภายนต์ของพวกเด็กๆ จวนเจียนจะล่มก็หลายครั้ง. ที่ยังลอยอยู่ได้ ก็เพราะมันมีระบบป้องกันน้ำเข้าเรือ และเชือกที่รั้งกับเรือลำแม่พยุงไว้อย่างแน่นหนา.
ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม มองเห็นสายฟ้าแลบและฟ้าร้อง มาเป็นระยะ. ท้องทะเลเริ่มปั่นป่วนรุนแรงขึ้น หัวหน้าโจร เริ่มควบคุมเรือไม่อยู่ เพราะกำลังคนมีน้อยเกินไป. เขารู้สึกไม่ไว้วางใจ ทะเลปั่นป่วนครั้งนี้ น่าจะมีอะไรสักอย่าง ทำกับเรือสำเภาใหญ่ของเขา. เม็ดฝนเทลงมาเหมือนฟ้ารั่ว, เพชร กับ บ่าวหลา ช่วยงานอยู่ข้างบน กับลูกเรือคนอื่นๆ. พวกเด็กๆ พากันมานั่งออรวมกัน ที่ชั้นล่าง เพื่อประเมินสถานการณ์. ทุกคนสบตากัน ต่างมีคำถามผุดขึ้นมาในสมอง ... เหตุร้ายๆ นี่ มันยังไม่จบอีกหรือ?! ทุกคนรวบรวมของที่จำเป็น และของสำคัญติดตัวไว้. พวกเขากำลังจะขึ้นไปชั้นบน เรือก็โคลงตัวไปข้างซ้าย เหมือนมีของหนักกดทับที่กาบเรือ. พวกเด็กๆ ล้มกระเด็นไถลกับพื้นไปด้านขวา แล้วเรือก็โยกไปทิศตรงกันข้าม คนก็กระดอนไปอีกด้าน. สังข์ คาดการณ์ว่า ถ้าสิ่งที่อยู่ใต้ท้องเรือเป็นสัตว์ทะเล ไม่อยากนึกเลยว่า มันจะมีขนาดใหญ่มหึมาแค่ไหน.
ทุกคน พยายามปืนบันได ขึ้นไปข้างบน. สถานการณ์ข้างบนนี่ ยิ่งตอกย้ำให้พวกเขา ต้องรีบทำอะไรบางอย่าง เพื่อไปให้พ้นๆ จากเรือนรกนี่ให้ได้ ... หนวดของปลาหมึกยักษ์ โผล่จากพื้นน้ำทะเล เกี่ยวรัดเอาลูกเรือหล่น ตู๊ม! ลงทะเลไป. หนวดที่เหลือ ก็รัดตัวเรือไว้ จนโยกโอนไปมา. ลูกเรือคนหนึ่งได้โอกาส คว้าขวานเหล็กขนาดใหญ่ เหวี่ยงสับ ฉึก! ไปที่หนวดของมัน จนขาดสะบั้น.
การหลบหลีกหนวดหมึกยักษ์ ต้องอาศัยโชคและจังหวะ. สิ่งที่ควรทำที่สุดตอนนี้ คือหาทางเอาตัวรอดให้ได้. เรือสำเภาที่ว่าใหญ่โต หมึกยักษ์ โตกว่ามาก. เด็กๆ คว้าตะขอเหล็กคนละอัน วิ่งหลบหนวดปลาหมึกไป เกาะขอบเรือสำเภาที่กำลังโอนเอนไปมา, พยายามพาัตัวเองไปที่ท้ายเรือ อย่างทุลักทุเล. เมื่อได้จังหวะ ก็เหวี่ยงตะขอเหล็กที่ถือมาข้างหนึ่ง เกี่ยวกับเชือก ที่ผูกโยงกับเรือสำเภายนต์ของพวกเขา แล้วกระโดดปล่อยตัว รูดไปที่เรือ ทีละคน ทีละคน. เพชรกับบ่าวหลา เป็นคนปิดท้าย. โชคดี ที่หมวดหมึกยักษ์ มันกำลังยุ่งอยู่กับ ส่วนหัวของสำเภา. ขณะที่ฝนยังตกไม่ขาดระยะ.
ไม่ต้องรอคำสั่ง ทุกคนเข้าประจำตำแหน่ง, สุดสาคร รีบลงไปที่ห้องเครื่อง สตาร์ทเครื่องยนต์ทันที. สังข์ เอื้อย โสนน้อย ช่วยกันสูบน้ำออกจากเรือ. สินสมุทร ในฐานะกัปตัน ตะโกนบอก เพชร กับ บ่าวหลา รีบตามลงมา. แต่ช้าไป บ่าวหลา ถูกหนวดหมึกยักษ์ ตีกระเด็น ตกลงไปในทะเล. ในเวลาฉุกละหุกแบบนี้ ไม่มีเวลาอาลัยอาวรณ์, สุดสาคร กดปุ่มสตาร์ท โยกคันเร่งอัดน้ำมันให้เครื่องติด. เขาพยายามอยู่สองสามครั้ง เครื่องยนต์ก็ยังไม่ติด. สังข์ รีบเอามีดตัดเชือกสองเส้น ที่ผูกโยงเรือ เหลือไว้อีกหนึ่งเส้น รอเพชรเป็นคนสุดท้าย. แต่เพชรเห็นว่า โอกาสที่เด็กจะหนีรอดไปได้ มีน้อยเต็มที, เขาจึงตัดสินใจ เอามีดตัดเชือกเส้นสุดท้ายจากฝั่งของเขา ให้ขาดออกจากเรือสำเภาใหญ่ เพื่อที่เด็กๆ จะได้ออกเรือทัน.
สินสมุทร เร่งเครื่องถอยหลังเต็มกำลัง แต่เรือก็ยังไม่แล่นออกไป. เสียงเครื่องยนต์ กระตุ้นให้หมึกยักษ์ หันเหความสนใจ มาที่เรือของเด็กๆ. แต่เชือกที่เพชรตัด หล่นลงไป เกี่ยวกับเชือกอีกเส้นหนึ่ง ที่อยู่ข้างล่าง. หนวดหมึกเริ่มคืบคลานเข้ามา สังข์ พยายามโน้มตัว ลงไปตัดเชือกเส้นที่ติดอยู่ แต่ทำไม่ได้ มันอยู่ต่ำเกินไป. เพชร ตัดสินใจเสียสละตัวเอง เพื่อให้เด็กๆ รอด เขากระโดดลงไปข้างล่างพร้อมมีด ตัดเชือกที่ติดอยู่อีกด้านหนึ่ง จนขาด. กำลังของเครื่องยนต์ พาเรือถอยออกมาจากที่นั่น อย่างฉุกละหุก. สินสมุทร บังคับเรือให้แล่นหนีห่างจากหมึกยักษ์ไปได้ อย่างหวุดหวิด. เมื่อพ้นระยะความบ้าคลั่งของหมึกยักษ์, ภาพที่เห็นคือ มันกำลังดึงเรือสำเภาของโจรสลัด ค่อยๆ จมทะเลไป พร้อมๆ กับฝนเริ่มซาเม็ด และลูกคลื่นก็เริ่มสงบลง.
ลาก่อนหัวหน้าโจรสลัด ลาก่อนกลาสีเรือผู้เสียสละ แม้พวกเขาไม่มีโอกาสได้ร่ำลากัน แต่ทุกคนก็ยังอยู่ในความทรงจำ ของกันและกัน. ไม่ใช่ความผิดของหัวหน้าโจร ที่ไม่สามารถพาเด็กๆ ไปขึ้นฝั่ง ตามที่สัญญาไว้ เขาได้ทำดีที่สุดแล้ว.
สารบัญ / ตอนที่ ปฐมบท -
บทที่ 2 สังข์ เอื้อย โสนน้อย
บทที่ 3 วันสังหาร
บทที่ 4 ชีวิตใหม่กลางภูผา
บทที่ 5 ภูติร้ายในป่ามรณะ
บทที่ 6 ประตูเวลาที่เรือนปีศาจ
บทที่ 7 หนอนทะเลทราย
บทที่ 8 หลุมดำดูดเวลา และการตามล่าของมนุษย์นอกจักรวาล
บทที่ 9 พบเพื่อนใหม่
บทที่ 10 ผจญภัยกลางมหาสมุทร
บทที่ 11 ปาฏิหาริย์ของเทพแห่งลิง
ภาคที่ 2: ฝ่าอุปสรรค เพื่อรักและอิสรภาพ
บทที่ 13 เทคโนโลยีล่องหน
บทที่ 14 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 1)
บทที่ 15 เส้นทางที่พลัดพราก
บทที่ 16 เมืองกาญจนา
บทที่ 17 บ้านของย่าทอง
บทที่ 18 วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน
บทที่ 19 ความรัก ความหวัง ยังไม่สิ้น
บทที่ 20 ตามหาเพื่อน
บทที่ 21 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 2)
ภาคที่ 3: รักนิรันดร์ ฝันเป็นจริง
บทที่ 23 นครรัฐเทพนารา
บทที่ 24 ชีวิตใหม่ ใจกลางมหานคร
บทที่ 25 ชีวิตจัดสรร ณ สันติอรุณ
บทที่ 26 สัมผัสแรก สัมผัสรัก
บทที่ 27 สังข์ทอง รจนา
บทที่ 28 วิกฤตของนครรัฐ
บทที่ 29 กู้วิกฤต
บทที่ 30 ฝันที่เป็นจริง
ปัจฉิมบท -
เพลง ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
|
|
|