ภาคที่ 2 บทที่ 14 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 1) ตอนที่ 51 หนี
ที่ข้างกำแพงด้านนอก ยามเช้าตรู่ บรรยากาศดูอึมครึมไปด้วยหมอกบางๆ ไม่รู้ทิศเหนือทิศใต้ มองเห็นแต่กำแพงสูง. ข้างนอกนี่ แวดล้อมด้วยป่าละเมาะสลับกับป่าหิน, ทัศนวิสัยมองไปได้ไม่ไกลนัก. สังข์ เอื้อย โสนน้อย สุดสาคร ยังเกาะกลุ่มกันดีอยู่. มีเสียงรถยนต์ดังขึ้นไกลๆ เหมือนกำลังลากจูงอะไรอยู่ แล้วก็มีเสียงสั่งการเอะอะลั่น ชุลมุนฟังไม่ได้ศัพท์. สังข์ รู้ดีว่า นั่นเป็นเสียงเคียดแค้นของ ธนญชัย. เขาคงโมโหอย่างหนักแน่ๆ ที่ถูกหลอก ทำให้เขาเสียแผน. เอื้อย สังเกตพุ่มไม้ใกล้ๆ มีสิ่งหนึ่งเคลื่อนไหว ตรงมาหาพวกเขา.
เป็นอันว่า ภารกิจการหลบหนีของเด็กทั้ง 5 คน สำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว. แต่ภารกิจการออกตามล่านักโทษของ ธนญชัย เพิ่งจะเริ่มขึ้น. ทุกคนออกมาจากประตูใหญ่ ก็เหมือนออกจากคุกนรก. ขั้นต่อไป ต้องหนีออกไปให้ห่างจากการตามล่าให้มากที่สุด.
สังข์ กับ สินสมุทร ชูกำปั้นทำสัญลักษณ์นิ้วมือ แสดงรหัสพร้อมกัน เพื่อทวนความจำ. สินสมุทร วางปืนลงกับพื้น คว้าแต่ของสำคัญติดตัวไป.
สังข์ มองสองพี่น้อง ด้วยความเป็นห่วง, หากพ้นระยะอันตรายแล้ว คงมีโอกาสได้พบกันอีก. สินสมุทร กับ สุดสาคร พากันวิ่งหลบหายไปอีกทิิิิิิิิิิิิิิิิิิศทางหนึ่ง จนลับตา. สังข์ เอื้อย โสนน้อย ค่อยๆ พากันขยับเขยื้อน ผละห่างจากก้อนหินที่กำบัง ไปอีกด้านหนึ่งของกำแพง. แต่ทันใดนั้น! สุดสาคร วิ่งย้อนกลับมา. คงมีเรื่องไม่ดีแน่.
ประตูทิศตะวันตก เปิดกว้างออกจนสุด. ชายชุดทหาร ราว 20 คน ถือปืนวิ่งกรูกันมาที่ประตู ตามด้วยรถบรรทุกอีก 2 คัน วิ่งออกมาจนพ้นประตู แล้วจอดให้ชายชุดทหาร ขึ้นไปจนเต็ม, คันละ 5 - 6 คน ที่เหลือ คงจะเป็นพวกไล่ล่านักโทษด้วยเท้า. สังข์ หยิบถังสเปรย์ พ่นไปทั่วร่างของ เอื้อย โสนน้อย โดยเร็ว รวมทั้งกระเป๋า อาวุธ สิ่งของทุกอย่างที่เอาติดตัวมา. เพียงแค่ไม่กี่วินาทีผ่านไป สร้างความพิศวงงงวย ให้แก่เธอทั้งสองอย่างมาก. นับว่า เป็นปรากฏการณ์ใหม่ สำหรับพวกเธอ.
เอื้อย โสนน้อย ตื่นเต้นกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงพวกชายชุดทหาร เดินมาทางพวกเขา. สังข์ ไม่รอช้า รีบพ่นสเปรย์ใส่ตัวเอง เป็นลำดับสุดท้าย เพื่ออำพรางตัว.
ชายชุดทหารสองคน เดินถือปืนไปตามฐานกำแพง. สายตาและปลายกระบอกปืน ส่ายไปมา ค้นหาทาสเชลยที่หลบหนี. พวกเขาเดินมาหยุดที่ก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง ที่ฐานกำแพง. ตอนนี้ สังข์ เอื้อย โสนน้อย แทบจะกลั้นหายใจ, หมอบนิ่งไม่ไหวติง อยู่ข้างก้อนหิน. ชายชุดทหารทั้งสองคน มองไปรอบๆ ทั้งด้านซ้าย ด้านขวา ข้างบนกำแพง. ไม่พบสิ่งผิดสังเกต, ชายคนแรกที่ยืนอยู่ข้างหน้า ส่งสายตาบอกเพื่อน รีบเดินเลาะตามกำแพงไป.
นาทีระทึกยังไม่จบ, เสียงตื๊ดๆ ของวิทยุสื่อสารดังขึ้น. ... ซวยแล้ว! สังข์ รีบกดปุ่มปิดเสียงทันที. ชายคนที่อยู่หลังสุด หยุด! เบนหน้าหันมามองด้านหลัง. สายตาสอดส่าย หาที่มาของเสียง. แต่ไม่มีอะไร พวกเขาจึงไปต่อ.
รอจนกระทั่ง ชายชุดทหารนักล่าพวกนั้น ไปจนลับตา. คิดว่า สินสมุทร คงจะส่งข่าวบางอย่างมา, สังข์ เปิดเสียงฟังจากลำโพง ให้ เอื้อย และ โสนน้อย ได้ยินพร้อมๆ กัน.
สินสมุทร กับ สุดสาคร หนีไม่พ้น ถูกจับได้เสียก่อน และถูกพามาสอบสวนบนถนน ข้างๆ รถยนต์ ที่พวกเขาใช้เป็นพาหนะออกไล่ล่าติดตาม. ร่างของสองพี่น้อง ถูกจับมัดมือไขว้หลัง. ชายชุดทหาร 3 คน ยืนถือปืนคุมอยู่. ธนญชัย ยืนถามเค้นเอาความจริงจากทาสเชลย โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่า สินสมุทร แอบเปิดสัญญาณวิทยุสื่อสารทิ้งไว้ ตั้งแต่เมื่อไร.
สังข์ ทนฟังเสียงจากวิทยุ ด้วยอาการสั่นสะท้าน รู้สึกสงสารเพื่อนจับใจ ยืนรีรอขอเวลาตัดสินใจ ว่าจะเอาอย่างไรดี กับสถานการณ์ที่เขาจะต้องเลือก. แต่ไม่มีเวลามากพอ ที่จะให้เขาคร่ำครวญนานนัก เพราะเสียงรถของพวกชายชุดทหาร กำลังวิ่งออกไล่ล่าพวกเขาอยู่. เอื้อย เตือนให้เขารีบตัดสินใจ.
เสียง โสนน้อย เตือนซ้ำ. สังข์ ใคร่ครวญอย่างหนัก, ไม่คิดว่า การหลบหนีครั้งนี้ จะเจออุปสรรค ที่ทำให้พวกเขา ต้องแยกทางกันจริงๆ. สังข์ ประเมินสถานการณ์อีกครั้ง.
สองเสียงย่อมดีกว่าเสียงเดียว. สังข์ ตัดสินใจ พาเพื่อนสาวสองคน วิ่งหลบเข้าป่าไป. โชคดี พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ทัศนวิสัยมองได้ไกลขึ้น พอที่จะจับทิศทางเหนือใต้ได้ไม่ยาก. การเดินทางในป่าไม่ยากลำบาก เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะ พวกเขาเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว และที่นี่ไม่ใช่ป่ารกชัฏ ไม่ต้องเผชิญกับสัตว์ป่าดุร้าย.
...
ร่างของ สินสมุทร กับ สุดสาคร ยังถูกมัดมือไขว้หลัง. ชายชุดทหารที่ถือปืนคุมอยู่ข้างๆ ถามว่า
ธนญชัย พร้อมด้วยชายชุดทหารที่เหลืออยู่ 2 คน กับคนขับรถอีกคนหนึ่ง. ธนญชัย สั่งให้คนหนึ่งขึ้นรถไปกับเขา แล้วขับเลี้ยวหายเข้าไป ในป่าข้างถนนใหญ่. ส่วนอีกคน นั่งคุมเชลยไว้ รอรถมารับตัวไป.
สังข์ เอื้อย และ โสนน้อย เร่งฝีเท้าเดินออกไปให้ไกลจากขุมนรก ให้มากที่สุด โดยไม่สนใจเป้าหมายข้างหน้า ว่าจะไปสิ้นสุดที่ใด. เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ สารเคมีจากถังสเปรย์ คงหมดฤทธิ์แล้ว. พวกเขาสามคน มองเห็นร่างกายผิวพรรณ ของกันและกัน ได้ถนัดตา. แต่ สังข์ ยังเก็บถังนั้นไว้กับตัว.
สังข์ ประเมินว่า พวกเขายังไม่ปลอดภัย ผ่านตัวเมืองออกไปได้ไม่ไกลพอ ยังอยู่ในรัศมีการไล่ล่าของคนพวกนั้นอยู่. การประเมินของเขา ถูกต้อง, เสียงรถยนต์ค่อยๆ ดังขึ้น ๆ มันยังวิ่งวนเวียนใกล้พวกเขา. ทั้งสาม เร่งฝีเท้าไปให้เร็วขึ้น จนพ้นระยะของเสียงรถยนต์ มองเห็นลำธารน้ำอยู่ข้างหน้า.
พวกเขา พักพอหายเหนื่อยได้ไม่นาน ก็มีเสียงคนเดินไล่หลังมา. สังข์ หยุดซ่อนตัวที่หลังต้นไม้ใหญ่ แล้วกระซิบบอก เอื้อย โสนน้อย,
เอื้อย เกาะแขน สังข์ จ้องมองเขาอยู่นาน อย่างไม่ละสายตา. เธอไม่อยากให้เขาทำแบบนี้เลย. สังข์ เข้าใจในความรู้สึกข้างในของเธอได้ดี. พวกเขาเคยพรากจากกันมาหนหนึ่งแล้ว กว่าจะหากันเจอ ก็ใช้เวลานานเป็นแรมเดือน. แต่ถ้าหนนี้ ต้องพรากจากกันอีก เขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า จะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่.
ตลอดเวลาที่ร่วมฝ่าอุปสรรคมาด้วยกัน พวกเขาไม่เคยรู้สึกกลัว เท่ากับตอนนี้เลย. ไม่รู้ว่าอนาคตจะได้เจอกันอีกหรือไม่. ต่อจากนี้ไป ทุกคนต้องพึ่งตัวเองและพึ่งโชคชะตา ไม่มีเครื่องนำทาง ไม่มีเครื่องนำโชค ไม่มีเคนหรือเฒ่าทะเล คอยอยู่อุ้มชูช่วยเหลือ. ถ้าต้องเผชิญหน้ากับพวกชายชุดทหาร ที่ออกตามล่า. พวกเธอจะสู้กับคนพวกนั้นได้อย่างไร. แต่เมื่อนึกถึงพ่อกับแม่ ที่ยังรออยู่ที่บ้าน โสนน้อย เอื้อย ก็มีกำลังใจขึ้นมา.
โชคดีที่ เอื้อย ยังมีอาวุธหน้าไม้ที่ทันสมัยอยู่ในมือ และ โสนน้อย ก็มีมีดพกประจำตัว พอจะป้องกันศัตรูได้บ้างในระยะประชิด กับมีเสื้อผ้าและของติดตัวที่จำเป็นเล็กๆ น้อยๆ. ตอนนี้ กำลังใจและโชคชะตาเท่านั้น ที่เธอสองคนจะพึ่งได้.
หลังสำรวจอาวุธ และข้าวของจำเป็น,
สังข์ มองสองเพื่อนรัก เอื้อย โสนน้อย เดินหายเข้าไปในป่า จนลับสายตา. จากนั้น เขาเดินทวนกระแสน้ำ เข้าไปในป่าลึก. อารมณ์และรอยเคียดแค้นของผู้ล่า ยังคงสุมรุมอยู่ในใจของ ธนญชัย. ห่างจากด้านหลังของ สังข์ ออกไปไม่ไกลมากนัก ชายชุดทหารสองคนกับ ธนญชัย ก็ตามมาอย่างไม่ลดละ.
สารบัญ / ตอนที่ ปฐมบท -
บทที่ 2 สังข์ เอื้อย โสนน้อย
บทที่ 3 วันสังหาร
บทที่ 4 ชีวิตใหม่กลางภูผา
บทที่ 5 ภูติร้ายในป่ามรณะ
บทที่ 6 ประตูเวลาที่เรือนปีศาจ
บทที่ 7 หนอนทะเลทราย
บทที่ 8 หลุมดำดูดเวลา และการตามล่าของมนุษย์นอกจักรวาล
บทที่ 9 พบเพื่อนใหม่
บทที่ 10 ผจญภัยกลางมหาสมุทร
บทที่ 11 ปาฏิหาริย์ของเทพแห่งลิง
ภาคที่ 2: ฝ่าอุปสรรค เพื่อรักและอิสรภาพ
บทที่ 13 เทคโนโลยีล่องหน
บทที่ 14 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 1)
บทที่ 15 เส้นทางที่พลัดพราก
บทที่ 16 เมืองกาญจนา
บทที่ 17 บ้านของย่าทอง
บทที่ 18 วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน
บทที่ 19 ความรัก ความหวัง ยังไม่สิ้น
บทที่ 20 ตามหาเพื่อน
บทที่ 21 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 2)
ภาคที่ 3: รักนิรันดร์ ฝันเป็นจริง
บทที่ 23 นครรัฐเทพนารา
บทที่ 24 ชีวิตใหม่ ใจกลางมหานคร
บทที่ 25 ชีวิตจัดสรร ณ สันติอรุณ
บทที่ 26 สัมผัสแรก สัมผัสรัก
บทที่ 27 สังข์ทอง รจนา
บทที่ 28 วิกฤตของนครรัฐ
บทที่ 29 กู้วิกฤต
บทที่ 30 ฝันที่เป็นจริง
ปัจฉิมบท -
เพลง ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
|
|
|