ภาคที่ 2 บทที่ 18 วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน ตอนที่ 65 เรื่องวุ่นวาย ของวัยรุ่น
เสียงเฮ ดังไปถึงหูของเด็กหนุ่มกลุ่มหนึ่ง เพิ่งกำลังจะเข้าไปปาเป้า ในซุ้มร้านที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม. พวกเขามากัน 3 คน คนหนึ่งตัวโตกว่า และแต่งตัวดีกว่าเพื่อน. อีก 2 คน คนหนึ่งใส่ตุ้มหูแฟชั่น อีกคนหนึ่ง เจาะจมูก. ทั้ง 3 คน ตัดผมเกรียน. เสียงเฮและหัวเราะ ของคนที่มามุงดูการแข่งขันระหว่าง เอื้อย กับ โสนน้อย คงจะสร้างความรำคาญให้แก่ เด็กหนุ่มคนที่ใส่ตุ้มหู เขาจึงพูดกับเด็กหนุ่มที่ตัวโตกว่า.
เด็กหนุ่มที่เจาะจมูก เดินนำหน้าเพื่อนอีกสองคน แหวกฝูงคนเข้าไป, ดูให้แน่ใจว่า เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น. ชาวบ้านที่รู้จัก ก็แหวกทางให้ พร้อมกับซุบซิบนินทาตามหลัง. ส่วนคนที่ไม่รู้จัก ก็ลังเล ไม่คิดจะหลีกทางให้ เพราะเห็นว่ามาทีหลัง. เด็กหนุ่มต่างหมู่บ้านผู้หนึ่ง มีผ้าสีดำปิดที่ใบหน้า ยืนขวางอยู่. เขามองหน้า โอ เสริฐ และอีกคนที่ตามหลังมา.
เด็กหนุ่มต่างหมู่บ้านคิด แต่ไม่อยากมีเรื่อง ก็หลีกทางให้โดยดี.
โสนน้อย เอื้อย ได้รางวัลเป็นตุ๊กตาตัวใหญ่ และข้าวของอีกมากมาย. ชาวบ้านที่มุงดู ต่างก็พึงพอใจกับเกมแข่งนัดนี้. เมื่อพวกเขาเลิกเล่น ชาวบ้านต่างถิ่นที่มาเที่ยว ก็แทรกกันเข้าไปซื้อลูกดอกเล่นต่อ. สร้างสีสันความสนุก ให้แก่ร้านปาเป้าร้านนี้ไม่น้อย.
แต่พอจะขยับออกไป เสริฐ กับพวก ก็เข้าประชิดเผชิญหน้า, ขวางไม่ให้พวกเขาไป. ชาวบ้านที่เคยมุงดูอยู่ใกล้ๆ ก็เริ่มทยอย ถอยห่างออกไป ราวกับว่า ที่บริเวณนี้อาจจะกลายเป็นสนามมวย.
พริ้งทำท่าขยับจะเดินหลบไป เด็กหนุ่มอีกสองคน มาขวางไว้. พลายงาม เห็นว่า พริ้ง กำลังจะถูกรังแก จึงแทรกตัวเข้าไปขวาง และดึง พริ้ง ให้ถอยห่างออกมา. สร้างความไม่พอใจให้กับ เสริฐ.
พลายงาม ขยับออกไปอยู่ข้างหน้า พริ้ง. แต่ โสนน้อย ฉุดแขนไว้. ชาวบ้านที่มามุงดู เริ่มถอยห่างออกไป, ส่วนคนข้างหลังก็ขยับเข้ามา ล้อมเป็นวง เหมือนกำลังมาดูอีกเกมหนึ่ง ที่กำลังจะเริ่มขึ้น ไม่กี่นาทีนี้. แต่คราวนี้ เป็นเกมคนกับคน. ระหว่างหลานยายทอง กับ ไอ้เสริฐ ลูกกำนันทรงและพวก.
พลายงาม ทนคำสบประมาทไม่ได้ จึงพรวดพลาดออกไป แต่ พริ้ง ฉุดแขนไว้ไม่ให้เข้าไปยุ่ง แล้วขยับขึ้นไปอยู่หน้า พลายงาม, แล้วพูดกับ เสริฐ ดีๆ.
เสริฐ ผลักไหล่ของ พริ้ง ให้หลีกไป, แล้วหันไปเอามือกึ่งตบกึ่งลูบ บริเวณใบหน้าของ พลายงาม.
พลายงาม โกรธ ยกมือขึ้นจับข้อมือของ เสริฐ ไว้แน่น. เสริฐ เอามือผลักอก พลายงาม เป็นการตอบโต้ จน พลายงาม ผงะถอยหลังไปก้าวหนึ่ง. พลายงาม ใช้กำปั้นชกไปที่ใบหน้าของ เสริฐ, แต่ เสริฐ เร็วกว่า แกร่งกว่า ตามสัญชาตินักเลง, ใช้มือปัดกำปั้นของ พลายงาม ออกไป. แล้วส่งกำปั้น สวนเข้าที่โหนกแก้มข้างซ้าย, พลายงาม เซถลาไป. โสนน้อย รีบโผเข้าไปประคอง.
มันหยามน้ำหน้าไม่เลิกอย่างนี้ ต้องได้เห็นดีกัน. พลายงาม ลุกขึ้น โสนน้อย กับ เอื้อย พยายามห้าม ไม่ให้ พลายงาม ไปปะทะกับคนพวกนี้. แต่ไร้ผล เขาพรวดพลาดออกไปอีก โถมร่างเข้าใส่ เสริฐ, จนทั้งสองเซถลาไปด้วยกัน. โอกับเชิด ยืนเอามือกอดอก ดูชั้นเชิงของลูกพี่กับหนุ่มหน้าหวาน. พวกเขาปลุกปล้ำกันอยู่พักหนึ่ง, เสริฐ ถูกชกเข้าที่ลำตัว 3 หมัด. พลายงาม ถูกชกที่บริเวณใบหน้า เลือดออกที่ริมฝีปาก และถูกถีบกระเด็น ไปกองกับพื้นฝุ่นตลบ ตรงที่ โสนน้อย กับ เอื้อย ยืนอยู่.
เอื้อยกับโสนน้อย เห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดีแล้ว จึงขยับขึ้นมาข้างหน้า, กันพลายงามไว้ข้างหลัง. พริ้ง รีบเข้าไปประคอง พลายงาม ที่กำลังเจ็บ. เสริฐ สืบเท้าเข้าหา พลายงาม. โอกับเชิด ขยับจะตามไป แต่ เสริฐ ใช้มือผลักห้ามไว้ แสดงความอหังการ.
เสริฐ เดินตรงเข้าหา คิดจะกระทืบศัตรูซ้ำ. แต่พอเข้าไปไกล้ ไม่รู้ว่ามีมือดี ตีนดี โผล่มาจากไหน อัดเข้าที่ยอดอกที่หนึ่ง และเหวี่ยงตัดที่ปลายเท้าอีกที่หนึ่ง พร้อมๆ กัน. เสริฐ ล้มกลิ้งหน้าฟาดพื้น นอนจุกจมฝุ่นอยู่พักหนึ่ง. คนดูถึงกับฮือ ขยัยถอยพร้อมกัน. เด็กหนุ่มที่มีผ้าดำปิดบังใบหน้า เคยปะทะสายตากับ เสริฐ มาหนหนึ่งแล้ว แสดงอาการยิ้มเยาะคนที่เก่งแต่ปาก และคิดในใจว่า
โอกับเชิด ไม่รอช้า เห็นลูกพี่ถูกรังแก ก็ผลีผลามเข้าจู่โจม. แต่โดนลูกสวนของ เอื้อย กับ โสนน้อย เข้าที่ยอดอก เหมือนลูกพี่ จนล้มกลิ้งไม่เป็นท่า.
โอและเชิด เข้ารุมตะลุมบอนกับสาวน้อยทั้ง 2 คน พร้อมกันอีกครั้ง โดยไม่เกรงข้อกล่าวหาว่า รังแกผู้หญิง. แต่สิ่งที่เห็นคือ โสนน้อย กับ เอื้อย ว่องไวกว่า และรู้จุดอ่อนของผู้ชาย. โอกับเชิด จึงโดนกระแทกเข้าที่หว่างขา น่อง และคอหอย. แต่เพศหญิงย่อมเสียเปรียบเพศชาย เรื่องพละกำลังเมื่อต่อสู้กันซึ่งหน้า เป็นระยะเวลานานๆ. เธอสองคนก็เจ็บไม่น้อย แม้ว่า พลายงาม จะช่วยอีกแรง แต่ไม่เกิดผลอะไร. เอื้อย มีเลือดกำเดาออกที่จมูก, โสนน้อย มีรอยช้ำที่บริเวณหางคิ้ว, ส่วนโอกับเชิด ยังนอนหมอบอยู่ คงอีกนาน กว่าเขาสองคนจะฟื้นตัว. เปิดโอกาสให้ คนอันธพาลอย่าง เสริฐ แสดงธาตุแท้ออกมา.
เสริฐ ชักมีดพกออกมา เอื้อย กับ โสนน้อย สบตากัน, เชิงปรึกษากันว่า งานนี้เห็นทีจะต้องเอาจริง และต้องรีบ ทำ้เรื่องให้มันจบเร็วๆ. คนดูก็มามุงดูกันมากขึ้น แต่ก็ยังไม่มีใครคิดจะห้ามปราม.
สองรุมหนึ่ง สองคือเด็กสาว 2 คน กับชายหนุ่ม 1 คน พร้อมมีดในมือ ก็ดูสูสีกันในสายตาคนดู. แต่สำหรับ เอื้อย แล้ว เธอไม่ชอบแบบนี้เลย. ไม่ต้องการจะให้เกิดเรื่องขึ้น และไม่อยากใช้ความรุนแรง. โชคดีที่พวกเธอ ได้รับการฝึกยุทธวิธีการต่อสู้ มาจากนาเคนทร์ ตั้งแต่เด็ก. และผ่านเรื่องร้ายๆ อันตรายกว่านี้มาเยอะ. อันธพาลพวกนี้ ดูถูกกันเกินไป, ซ้ำยังเป็นฝ่ายระราน และใช้ความรุนแรงก่อน. เธอสองคน จำเป็นต้องป้องกันตัว และป้องกันเกียรติ ให้แก่ตนเองและเพื่อนๆ.
เอื้อย รู้ว่าจังหวะใดควรเข้าประชิด จังหวะใดควรถอย จังหวะใดควรหลบ และจังหวะใดควรตัดกำลังศัตรูให้เด็ดขาด. เมื่อได้โอกาส คู่ต่อสู้เป็นผู้ชายร่างกำยำถึง 3 คน และมีอาวุธ ปล่อยนานไป ย่อมเสียเปรียบ. เวลาผ่านไปไม่ถึง 3 นาที, เสริฐ ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย. ข้อมือข้างซ้าย มีอาการร่องแร่งไร้เรี่ยวแรง, บริเวณต้นแขน มีมีดของตัวเอง เสียบคาอยู่, แขนเสื้อโชกชุ่มไปด้วยเลือด. คราวนี้ คนดูต่างพากันฮือฮา แตกตื่นแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว เหมือนไม่รู้ไม่เห็นเหตุการณ์อันชุลมุนนี้. ยกเว้น เด็กหนุ่มต่างหมู่บ้าน ที่มีผ้าดำปิดใบหน้า ยังยืนคุมเชิงดูเหตุการณ์อยู่ใกล้ๆ.
เสริฐ ไม่เพียงแต่เจ็บแปลบ ที่บริเวณข้อมือซ้าย และปวดหนึบๆ ที่แขนขวาเท่านั้น. ยังต้องมาเสียหน้าอย่างหมดรูป ให้กับเด็กผู้หญิง ที่ไม่รู้หัวนอนปลายตีน. ความแค้นเคืองประทุขึ้นสุดขีด หูอื้อ หน้ามืดตามัว ขาดสติยั้งคิด, เพ่งสายตาอาฆาตมาดร้าย ไปที่กลุ่มของศัตรู ที่กำลังจะเดินจากไป. เขากัดฟันทนเจ็บ เอามือขวาดึงมีดออกจากแขนซ้าย แล้วพยุงตัวลุกขึ้นยืน, เดินตรงไปหา โอ ที่กำลังนอนขดยังไม่หายเจ็บ. แล้วล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของ โอ ชักปืนพกสั้น ขนาด .22 ม.ม. ขึ้นมา. โอ ตะโกนห้าม.
เสริฐ ไม่ได้ยินเสียงใดๆ ทั้งสิ้น. เขาเล็งปลายกระบอกปืนไปที่ พลายงามและเพื่อนๆ ... แต่ ทันใดนั้น!
ปืนกระเด็นหลุดจากมือของ เสริฐ. เขาโกรธมาก.
ไม่มีคำตอบจากแขกลึกลับ นอกจากเสียง ...
เสริฐ โดนเตะซ้ำอีก 2-3 ครั้ง จนนอนแผ่หน้าหงาย หมดท่าจะขัดขืน. เขาจึงรู้ว่า แขกลึกลับผู้นี้เป็นใคร. เด็กหนุ่มต่างหมู่บ้าน ที่เจอกันเมื่อสักครู่นี่เอง. เขาใช้เท้าเหยียบ ที่ยอดอกของ เสริฐ ไว้.
นั่นแหละ ที่ทำให้ เสริฐ หมดฤทธิ์สิ้นแรงลงไปได้. เหตุการณ์ฺสงบ ชาวบ้านต่างแยกย้ายกันไป พร้อมกับอันธพาลทั้ง 3 คน โดยมีลูกน้องหิ้วปีกลูกพี่กลับบ้าน.
เอื้อย แสดงความขอบคุณ เด็กหนุ่มต่างหมู่บ้านผู้นั้น ก่อนที่จะพากันเดินทางกลับ.
รุ่งเช้า กำนันทรงพาลูกชาย มาหา นางทอง ถึงที่บ้าน. นางทอง รู้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่า เกิดเหตุอะไร และก็รู้นิสัยกำนันทรงดี. นางจำเป็นต้องตั้งหลักให้ดี เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนนิสัยพาล. เมื่อได้จังหวะ พบปะหน้ากัน จึงออกปากเชิญกำนันขึ้นเรือน เป็นการผ่อนคลายความตึงเครียด แต่ ...
ย่าทอง พา กำนันทรง กับ เสริฐ ลูกชาย ซึ่งมีสภาพเหมือนคนเพิ่งออกจากโรงพยาบาล. ที่ต้นแขนข้างขวา ยังมีผ้าพันแผลพันอยู่รอบ, เดินกระเสาะกระแสะ ไปนั่งที่ม้านั่งใต้ต้นชำฉาใหญ่. มองเห็น อบเชย กับ บุญทิ้ง ทำงานอยู่ใกล้ๆ.
คนที่ถือขันน้ำมา ไม่ใช่อบเชย แต่เป็น พริ้ง. เสริฐ จึงถือโอกาส พูดสอดขึ้น ด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจ.
พริ้ง ยังไม่ทันตอบ มัวแต่อ้ำๆ อึ้งๆ, เอื้อย กับ โสนน้อย ทำงานอยู่ใกล้ๆ จึงพากันเดินมาหาย่า. เสริฐ เห็นเข้า ยังรู้สึกหวาดๆ อยู่ เอาหน้าซุกหลบอยู่หลังกำนัน. กำนันเห็น เอื้อย กับ โสนน้อย มายืนอยู่ตรงหน้านี่แล้ว.
กำนัน ครุ่นคิดหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง. เพราะสิ่งที่ ยายทอง พูด กับลูกของตัวเองพูด ไม่ตรงกัน. ย่าทอง จึงอธิบายต่อ.
กำนัน รู้ตัวว่าเป็นฝ่ายเสียเปรียบ จะมาเอาเรื่องเขา ทั้งๆ ที่ฝ่ายตัวเองก็มีจุดอ่อน. นางทองคนนี้ ไม่โง่ ที่จะข่มขู่ได้ง่ายๆ แต่จะยอมแพ้ แบกหน้ากลับไป ก็เกรงจะเสียเชิงกำนัน. จึงทำที มองลูกชาย ก่อนจะถามขอคำยืนยันว่า ที่นางทองพูดน่ะมันจริงหรือไม่. แต่นางทอง ปากไวกว่า.
ที่จริงกำนัน ไม่สนใจคำแก้ตัวของลูกชาย, ทำทีดุด่า รีบบอกลานางทอง เพื่อไม่ให้เสียมารยาท และเสียหน้ามากไปกว่านี้.
สารบัญ / ตอนที่ ปฐมบท -
บทที่ 2 สังข์ เอื้อย โสนน้อย
บทที่ 3 วันสังหาร
บทที่ 4 ชีวิตใหม่กลางภูผา
บทที่ 5 ภูติร้ายในป่ามรณะ
บทที่ 6 ประตูเวลาที่เรือนปีศาจ
บทที่ 7 หนอนทะเลทราย
บทที่ 8 หลุมดำดูดเวลา และการตามล่าของมนุษย์นอกจักรวาล
บทที่ 9 พบเพื่อนใหม่
บทที่ 10 ผจญภัยกลางมหาสมุทร
บทที่ 11 ปาฏิหาริย์ของเทพแห่งลิง
ภาคที่ 2: ฝ่าอุปสรรค เพื่อรักและอิสรภาพ
บทที่ 13 เทคโนโลยีล่องหน
บทที่ 14 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 1)
บทที่ 15 เส้นทางที่พลัดพราก
บทที่ 16 เมืองกาญจนา
บทที่ 17 บ้านของย่าทอง
บทที่ 18 วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน
บทที่ 19 ความรัก ความหวัง ยังไม่สิ้น
บทที่ 20 ตามหาเพื่อน
บทที่ 21 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 2)
ภาคที่ 3: รักนิรันดร์ ฝันเป็นจริง
บทที่ 23 นครรัฐเทพนารา
บทที่ 24 ชีวิตใหม่ ใจกลางมหานคร
บทที่ 25 ชีวิตจัดสรร ณ สันติอรุณ
บทที่ 26 สัมผัสแรก สัมผัสรัก
บทที่ 27 สังข์ทอง รจนา
บทที่ 28 วิกฤตของนครรัฐ
บทที่ 29 กู้วิกฤต
บทที่ 30 ฝันที่เป็นจริง
ปัจฉิมบท -
เพลง ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
|
|
|