ภาคที่ 2 บทที่ 20 ตามหาเพื่อน ตอนที่ 71 รหัสสื่อสาร 213 ที่ยังจำกันได้
วันหนึ่ง สังข์ มีโอกาสติดตาม เจน ไปในเขตพื้นที่แรงงานทาส ซึ่งเป็นเขตรับผิดชอบของ ธนญชัย เพื่อคัดเลือกคน มาช่วยงานเพิ่มเติม.
เขตพื้นที่แรงงานทาส เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เมื่อ 5 ปีก่อน. สภาพแวดล้อม ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น การตรวจสอบเข้มงวดขึ้น, ใช้ระบบการสื่อสารผ่านดาวเทียม ยืนยันอัตลักษณ์บุคคล. สภาพอากาศดีขึ้น ท่อส่งอากาศได้รับการติดตั้ง ตลอดแนวพื้นที่. การรักษาเวรยาม ยังคงเข้มงวดเหมือนเดิม.
เจน ยื่นเอกสารบางอย่างให้ ธนญชัย.
ธนญชัย พา เจน และ สังข์ เดินผ่านเขตงานของแรงงานทาส. แม้ว่าพวกแรงงานเหล่านั้น จะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ก็ไร้อิสรภาพอยู่ดี. พวกเขายังคงทำงานร่วมกับหุ่นยนต์ ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ ที่คอยถือปืนเป็นเวรยาม เฝ้าอยู่อย่างเข้มงวด. จากห้องผสมของเหลว เลี้ยวขวา ผ่านโรงงานเครื่องกล.
มุมหนึ่งของโรงงานเครื่องกล ลึกเข้าไปข้างใน. เขาพบแรงงานทาสคู่หนึ่ง เขามีสภาพร่างกายผิดมนุษย์. คนแรก มีร่างกายใหญ่โตบึกบึน ช่วงแขนหนาและยาว มีเกล็ดคล้ายเกล็ดปลา ขึ้นที่บริเวณหน้าอก ใบหน้า และต้นแขน ใบหูยาวเล็กน้อย. ส่วนอีกคนหนึ่ง ร่างเล็กกว่ามาก ผิวหนังเรียบมัน แต่ที่มือและเท้าทั้งสี่ มีครีบคล้ายครีบปลา ดวงตากลมโต. ทั้งคู่ ผมยาว สีผิวคล้ำจนเขียว.
พวกเขากำลังถูกบังคับใช้แรงงาน ในโรงงานแห่งนี้. ทาสร่างยักษ์ ถูกใช้ให้ควบคุม ลูกตุ้มน้ำหนักของเครื่องกล ซึ่งต้องใช้พละกำลังมากกว่าคนปกติ. ส่วนทาสร่างเล็ก ถูกใช้ให้สับเปลี่ยนวัสดุดิบบางอย่าง ของเครื่องกล ซึ่งต้องใช้ความรวดเร็ว มากกว่าคนปกติ.
สังข์ มีโอกาสได้สบสายตากับทาสร่างยักษ์นั่น เพียงไม่กี่วินาที, เขาก็ถูกเรียกตัวไป. สายตาคู่นั้น บ่งบอกนัยยะขอความช่วยเหลือ. เท่าที่ผ่านมา สังข์ได้พบเห็นทาสแรงงาน ที่ถูกดัดแปลงร่างมาก็มาก, แต่กับทาสยักษ์ที่เพิ่งสบตากันเมื่อชั่วครู่ เขารู้สึกว่าสายตาคู่นั้น ได้ซ่อนปริศนาบางอย่างไว้.
หลังเสร็จสิ้นภารกิจประจำวัน และกลับเข้าที่พัก, ซึ่งเป็นห้องแคบๆ รูปร่างเหมือนแคปซูล. สังข์ มองไปที่แผ่นป้าย แสดงรหัสประจำตัวของเขา ซึ่งระบุชื่อ เจน เป็นผู้ดูแล. นับว่า เขาโชคดีกว่าแรงงานทาสคนอื่นๆ ที่ เจ นคัดเลือกให้มาช่วยงาน และไว้ใจว่าเขาไม่คิดหนี. เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น ภาระรับผิดชอบจะต้องตกแก่ เจน. สังข์เอนตัวลงนอน นำรูปวาดของเพื่อนรัก สินสมุทร สุดสาคร ที่เขาวาดขึ้น ออกมาจากที่ซ่อน. เขารู้สึกเศร้าและรันทดใจ คิดถึงเพื่อนที่ร่วมชะตากรรมกันมา.
สังข์ รำพึงกับตัวเอง ด้วยสายตาที่มุ่งมั่น ที่มีต่อเพื่อนรักทั้งสองคน
ระหว่างพักงานตอนเที่ยงวัน ที่ห้องอาหารระดับผู้บริหาร, โดยปกติ ผู้บริหารระดับหัวหน้า มักจะรู้จักกันในที่ประชุม มากกว่าเป็นการส่วนตัว. เรื่องการสื่อสารข้ามหน่วยงาน จะถูกกลั่นกรองเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันความลับรั่วไหล. แต่ เมธา กับ ดร.วีระพล ค่อนข้างจะสนิทใกล้ชิดกัน มากกว่าผู้บริหารหน่วยงานอื่น. อาจเป็นเพราะ ได้รับความไว้วางใจ จากนายหญิง มากกว่าทุกคน. เขาทั้งสอง มีโอกาสนั่งกินอาหารกลางวัน โต๊ะเดียวกัน. ดูเหมือนว่า ดร.วีระพล จะรีบๆ รนๆ มากกว่าทุกครั้ง.
เมธา ทักทาย เมื่อเห็น ดร.วีรพล วางช้อน ยกแก้วน้ำดื่มและเตรียมจะลุกไป
ระหว่างสนทนา สังข์ เดินผ่านเข้ามา, ได้ยินการสนทนา. เขาจึงหลบอยู่อีกมุมหนึ่ง ของห้องอาหาร. การสนทนา อาจจะเป็นประโยชน์กับเขาบ้าง.
ดร.วีระพล ลุกขึ้นยืน เตรียมจะออกไป.
เมื่อได้ยินว่าเป็นนักโทษสองคน สังข์ นึกถึง สินสมุทร กับ สุดสาคร สองพี่น้องเพื่อนรัก ที่เขากำลังสืบหาอยู่. อาจจะใช่พวกเขาก็ได้. แต่น่าเสียดาย ที่ ดร.วีระพล ไม่บอกว่า นักโทษสองคนนั่นเป็นพี่น้องกัน. แต่รู้เรื่องราวแค่นี้ ก็พอจะคาดเดาได้. สังข์ จะต้องหาทางไปพบเขาให้ได้ เพื่อพิสูจน์ความจริงขั้นแรกนี่เสียก่อน.
สังข์รู้ว่า พวกเขาจะนำนักโทษสองคนนั่น ไปไว้ที่ไหน เพราะเป็นภารกิจที่ไม่มีชั้นความลับ. นักโทษสองคน ถูกจับขังไว้ที่ข้างห้องแล็บเคมีของ ดร.วีระพล. ดร.วีระพล ให้พวกเขาหยุดทำงาน อดน้ำและอาหาร เป็นเวลา 8 ชั่วโมง. สังข์ อาศัยช่วงปลอดคน ตอนสับเปลี่ยนเวรยาม, ลักลอบเข้าไป, มองเห็นนักโทษสองคน ในกรงเหล็ก อยู่ภายในห้องนั้น ซึ่งมีกระจกกั้นอยู่. นี่คงเป็นนักโทษสองคน ที่ดร.วีระพล พูดถึงแน่ๆ. ถ้าใช่ พวกเขาก็คือ แรงงานทาส ที่เคยพบมาเมื่อหลายวันก่อนนั่นเอง.
สังข์ เอามือเคาะกระจก ให้สัญญาณเรียก. นักโทษร่างใหญ่ยักษ์ ดูไม่ต่างอะไรกับลิงอุรังอุตัง หันหน้ามามอง, แสดงท่าทีฉงน จ้องมอง สังข์ แล้วเดินเข้ามาหาเขาที่ประตู เอาใบหน้าที่ขี้ริ้วขี้เหร่ แนบกับรอยแยกของกระจกแผ่นหนา.
แม้ว่าเสียงพูดของเพื่อนรัก จะมีโทนเสียงต่ำและหนัก. แต่น้ำเสียงนั้น สังข์ จำได้ว่าผู้พูดเป็น สินสมุทร แน่นอน และ นั่นคือ สุดสาคร. โดยไม่ต้องคาดเดาอะไรอีกแล้ว พวกเขาเปลี่ยนไป เพราะถูกจับไปเป็นสัตว์ทดลอง. เรื่องนี้เขารู้ดี และรอวันนี้มานานมาก กว่าจะพบเพื่อนรัก ที่จากกันถึง 5 ปี เต็มๆ. สังข์ ส่งเสียงพูดตอบกลับออกไปอีกครั้ง ... แต่ไร้ผล เสียงพูดของเขาไม่เป็นภาษามนุษย์. จริงซินะ เขาเก็บเสียงพูด และไม่ได้พูดกับใครบ่อยนัก. เขารู้สึกยินดีได้แค่ชั่วครู่, โชคดีที่ได้พบเพื่อน แต่ก็โชคร้าย เมื่อเขาสื่อสารกับเพื่อนไม่ได้.
สินสมุทร ในร่างยักษ์ เริ่มเข้าใจสถานการณ์. สังเกตจากสีหน้า่ืท่าทางของเขาแล้ว เขาแสดงอาการดีใจ. แต่ความหมายนอกเหนือจากนี้ ไม่อาจเข้าใจอะไรได้. สินสมุทร จึงเป็นฝ่ายพูดและตั้งคำถาม เพื่อให้การสื่อสารครั้งนี้บรรลุผล.
สังข์ พยักหน้า.
แม้ว่า สังข์ จะพูดไม่ได้ แต่ก็เขียนหนังสือได้. เขาชี้ไปที่ตัวเขา แล้วใช้นิ้วชี้ลากเป็นตัวหนังสือไปบนกระจก สินสมุทร เอียงคออ่านความหมายของข้อความ ไปตามนิ้วมือของสังข์ที่ลากไปบนกระจก. แต่ สินสมุทร อ่านความหมายไม่ได้เลย จึงส่ายศีรษะบอก. สังข์ เริ่มเขียนข้อความใหม่อีกครั้ง ด้วยอักษรกลับข้าง. ได้ผล! สินสมุทร เข้าใจแล้ว แต่คนป่าบ้าใบ้ จะรู้สิ่งนี้ได้อย่างไร นั่นไม่มีเหตุผล ไม่มีทางเป็นไปได้.
พูดเสร็จ สินสมุทร ก็ถอยหลังกลับไปนั่งที่เดิม โดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายหนึ่งอธิบาย. สังข์ รู้สึกผิดหวัง พยายามจะพูดอธิบาย และทำทุกอย่างเพื่อให้เพื่อนรักเชื่อว่า เขาคือ สังข์. วันนี้โชคเข้าข้างเขาแล้ว ที่ได้พบเพื่อน แต่โชคที่เขาได้รับ มันให้ผลเพียงครึ่งเดียว. สังข์ ต้องคิดใคร่ครวญอย่างหนัก จะทำอย่างไร เพื่อจะสื่อสารกับเพื่อนให้รู้เรื่อง. ความเสียใจ ท้อแท้สิ้นหวัง เข้าครอบงำเขาอีกครั้ง. เขามีอาการสั่นสะท้านไปทั้งตัว ร้องไห้ก็ร้องไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก นอกจากเอาศีรษะโขกที่ผนังกระจก. ฝ่ามือทั้งสองข้างแตะที่ผนังกระจก ด้วยความโกรธฟ้าดินและโชคชะตา ที่ทำกับเขาในเวลานี้.
เสียงกระแทกกระจกนั่นดูจริงจัง. สินสมุทร หยุดเดินและหันกลับไปมอง ที่ฝ่ามือของเขา.
สินสมุทร เดินย้อนกลับไปที่ผนังกระจกอีกครั้ง หวังจะคลายปมปริศนาที่อยู่เบื้องหน้า. คราวนี้ เขาเอาฝ่ามือทั้งสองข้าง ลอดกรงเหล็กออกไป แตะกระจก ประกบกับฝ่ามือของสังข์ แล้วมองหน้าเขา.
สังข์ พยักหน้าสองสามครั้ง ควบคุมสติ มองไปที่มือของเขา ... ใช่สิ มือ สัญญาณมือ คือสิ่งเดียวที่เขาจะสื่อสารกับเพื่อนได้. ภาพเหตุการณ์ในอดีต ผุดขึ้นมาในสมอง ตอนที่พวกเขาสองคน นัดแนะการใช้รหัสวิทยุสื่อสารติดต่อกัน เพื่อการหลบหนีออกไปจากที่นี่เมื่อคราวก่อน.
สังข์ ชูกำปั้นขึ้นที่ตรงหน้าของตนเอง แล้วดีดนิ้วชี้ นิ้วกลาง และ นิ้วนาง ชูขึ้น เป็นสัญลักษณ์แทนตัวเลข เพื่อทบทวนรหัสสื่อสาร. สินสมุทร เข้าใจรหัสนั้น ยกมือขึ้น ปฏิบัติตามรับการทวนรหัส 213 ที่เขาสองคนจำกันได้.
เพื่อนรักทั้งสองคนต่างดีใจ เอาฝ่ามือแตะกระจกเลื่อนหมุนไปมา. เสียงหัวเราะปนกับเสียงร้องไห้ดีใจ สร้างความประหลาดใจให้แก่ สุดสาคร ที่นั่งคุดคู้เหมือนคนรอวันตาย. เขาค่อยๆ ลุกขึ้น เดินเข้ามาหาพี่ชาย. พอรู้ว่านี่คือเพื่อนรัก ที่จากกันไปแสนนาน. เขาดีใจเป็นที่สุด. ไม่มีสิ่งใดที่วิเศษสุดมากไปกว่านี้อีกแล้ว.
เขา จับไหล่น้องชายเขย่า ให้ สังข์เห็น. สังข์ พยักหน้า ดีใจจนน้ำตาไหลอาบแก้ม เหมือนจะบอกว่า รู้แล้ว ๆ ... แต่อีกไม่กี่วินาทีต่อมา สินสมุทร ก็แสดงอาการเศร้าใจ เมื่อมองสภาพของเพื่อน.
สังข์ส่ายหน้า เหมือนกับจะอธิบายว่า ที่เขาเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เพราะถูกพวกทหารเหล่านั้นทำ แต่เพราะเป็นทางเลือกสุดท้าย ที่เขาเลือกจะเป็นแบบนี้. แต่ก็ไร้ประโยชน์ ที่จะอธิบายอะไรกันให้เข้าใจ ในตอนนี้. สิ่งสำคัญ ที่ สังข์ ต้องการให้เพื่อนรู้. เขาพยายามใช้ภาษามือ สื่อให้เพื่อนรู้ว่า ความสัมพันธ์ของพวกเขา จะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาด. ซึ่งสองพี่น้อง ก็เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี. สินสมุทร จึงเป็นฝ่ายพูดให้เขาเข้าใจ.
ใช่แล้ว! นี่คือประโยคทอง เป็นคำถามที่สรุปเรื่องราวทั้งหมด ได้ดีที่สุด. สังข์ ยิ้มด้วยความดีใจ และพยักหน้าสองสามครั้ง. สุดสาคร เขยิบเข้ามาใกล้ และยิ้มแสดงความดีใจเป็นที่สุด.
ขณะที่การสนทนา เป็นไปอย่างราบรื่น ก็ปรากฏเงาผ่านวูบเข้ามาในบริเวณนั้น. สหายทั้งสามคน ต่างย่อเข่าแนบกับพื้น สอดส่องสายตาไปรอบๆ. สังข์ เห็นว่าสถานการณ์ไม่เหมาะ ที่จะคุยกันต่อไป, เขาจึงยกมือแตะที่ผนังกระจก สบตาเพื่อน ก่อนที่จะผละจากไป.
สารบัญ / ตอนที่ ปฐมบท -
บทที่ 2 สังข์ เอื้อย โสนน้อย
บทที่ 3 วันสังหาร
บทที่ 4 ชีวิตใหม่กลางภูผา
บทที่ 5 ภูติร้ายในป่ามรณะ
บทที่ 6 ประตูเวลาที่เรือนปีศาจ
บทที่ 7 หนอนทะเลทราย
บทที่ 8 หลุมดำดูดเวลา และการตามล่าของมนุษย์นอกจักรวาล
บทที่ 9 พบเพื่อนใหม่
บทที่ 10 ผจญภัยกลางมหาสมุทร
บทที่ 11 ปาฏิหาริย์ของเทพแห่งลิง
ภาคที่ 2: ฝ่าอุปสรรค เพื่อรักและอิสรภาพ
บทที่ 13 เทคโนโลยีล่องหน
บทที่ 14 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 1)
บทที่ 15 เส้นทางที่พลัดพราก
บทที่ 16 เมืองกาญจนา
บทที่ 17 บ้านของย่าทอง
บทที่ 18 วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน
บทที่ 19 ความรัก ความหวัง ยังไม่สิ้น
บทที่ 20 ตามหาเพื่อน
บทที่ 21 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 2)
ภาคที่ 3: รักนิรันดร์ ฝันเป็นจริง
บทที่ 23 นครรัฐเทพนารา
บทที่ 24 ชีวิตใหม่ ใจกลางมหานคร
บทที่ 25 ชีวิตจัดสรร ณ สันติอรุณ
บทที่ 26 สัมผัสแรก สัมผัสรัก
บทที่ 27 สังข์ทอง รจนา
บทที่ 28 วิกฤตของนครรัฐ
บทที่ 29 กู้วิกฤต
บทที่ 30 ฝันที่เป็นจริง
ปัจฉิมบท -
เพลง ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
|
|
|