ภาคที่ 3 บทที่ 23 นครรัฐเทพนารา ตอนที่ 78 สวรรค์ในเมืองนรก
เด็กหญิงแพรวา ชี้ไปที่ตึกรูปร่างเหมือนกล่องตู้คอนเท็นเนอร์เก่าๆ 3 ชั้น วางเทินซ้อนทับกัน. ยังมองไม่ออกว่า ภายใต้ความมืดสลัวรอบๆ ตัวบ้าน เป็นตึกเก่าหรือตู้รถกันแน่. นี่ถ้าเป็นเวลากลางวัน คงดูทรุดโทรมไม่น้อย ไม่รู้ว่าประตูเข้าบ้าน อยู่ที่หน้าบ้านหรือหลังบ้าน.
แพรวา เปิดประตู เชิญแขกต่างถิ่นเข้าไปข้างใน. เท่าที่สังเกต มีโซฟาเก่าๆ อยู่ชุดหนึ่ง , นี่คงเป็นห้องรับแขก แต่ดูรกรุงรังไม่น้อย. ทีวีเก่าๆ เครื่องหนึ่ง วางอยู่ชิดผนังติดกับประตูบานใหญ่ ที่เปิดแง้มอยู่ครึ่งบาน. ด้านท้ายของห้อง มีประตูอีกบานหนึ่งกั้นอยู่ , ยังมองไม่ออกว่า ด้านหลังประตูคืออะไร.
มีเสียงฝีเท้าของคนเดินลงบันได มาจากข้างบน และเปิดประตูพรวดออกมา. ปรากฏตัวเจ้าของเสียงฝีเท้าหนักๆ เป็นหญิงวัยเลยกลางคนไปไม่มาก รูปร่างท้วม แต่ดูทะมัดทะแมง. นางพาร่างที่อยู่ในชุดเตรียมเข้านอน ลงมายืนขวางประตู มือขวาจับบานประตูเปิดค้างไว้ สายตามองไปที่ แพรวา , เข้าใจว่า เธอคงทั้งโกรธทั้งเป็นห่วง แพรวา.
หายหัวไปไหนมา มืดค่ำจนป่านนี้เพิ่งกลับเข้าบ้าน นางเดินมาจับไหล่ของ แพรวา แล้วเขย่าเบาๆ แกรู้ไหม๊ พี่ของแก ออกไปตามหาอยู่ข้างนอกโน่น ยายบอกแล้วใช่ไหม๊ ว่าอย่ากลับบ้านมืดค่ำแบบนี้
นางละสายตาจาก แพรวา มองแขกทั้ง 3 คน ที่ยืนเก้ๆ กังๆ ทำอะไรไม่ถูก.
แล้วนั่นไปพาใครมาอีกล่ะ ? เขามาจากที่อื่น พลัดหลงมา แพรก็เลย แกช่างไม่รู้อะไรเสียเลย ... มานี่ ๆ
นางลากแขนของ แพรวา ไปที่หน้าบันได หลบไปให้พ้นจากแขก ที่นางไม่อยากต้อนรับ อาจเป็นคนร้ายแฝงตัวมาก็ได้ ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร พามาบ้านได้ยังไง ? ห๊า! แต่ยายจ๋า เขากำลังเดือดร้อน พวกเขาถูกพวกอันธพาลรุมทำร้าย หนูก็เลยพามาบ้านเรา แพรวา ตอบตามจริง. แกไม่รู้เหรอว่า มันจะเกิดอะไรขึ้นตามมา ถ้าพวกอันธพาลนั่น รู้ว่ามีคนแปลกหน้ามาอยู่บ้านเรา คนพวกนั้นจะมาพังที่นี่ แกรู้จักคิดซะบ้างซิ! แต่พวกเขา เก่งมากเลยนะยาย ถ้าเก่งจริง ทำไมต้องมาที่นี่ ทำไมไม่ไปที่อื่น พวกเขาสู้กับพวกอันธพาล มากกว่าสิบคนได้ แต่ถ้าพวกนั้น มีอาวุธและมากันเป็นฝูง เก่งยังไงก็สู้ไม่ได้หรอก หนูจึงพามาที่นี่ เผื่อว่าพวกเขา จะสอนวิธีสู้กับคนพวกนั้นให้ อ๋อ คิดว่าจะสู้กับพวกมันไหวยังงั้นเรอะ ตัวเล็กแค่นี้ และก็เป็นผู้หญิงซะด้วย
หญิงร่างท้วมที่ แพรวา เรียกว่ายาย หยุดพูดชั่วขณะ เมื่อแขกแปลกหน้า เดินมาปรากฏตัวแบบซึ่งหน้า ตรงที่สองยายหลานยืนอยู่.
ยายจ้ะ เอื้อย พูดขัดจังหวะ พวกเราไม่ใช่คนร้ายหรอกจ้ะ หนูชื่อ เอื้อย หนูกับเพื่อนอีกสองคน ไม่มีที่ไปจริงๆ แต่ถ้ายายไม่อยากให้พวกเราพัก พวกเราก็จะไป อย่าไปนะ แพรวา ขอร้อง ยายจ๋า เห็นไหม๊ พี่เค้าไม่ใช่คนร้าย คนร้ายไม่พูดเพราะอย่างงี้หรอก
แพรวา เห็นยายมีอาการลังเล จึงพูดย้ำออกไปเป็นชุด เพื่อโน้มน้าวใจ.
ถ้าเขาเป็นคนร้ายจริงๆ เขาคงไม่รอโอกาสอยู่เฉยๆ หรอก ป่านนี้ก็คงรื้อข้าวของ พังบ้านพวกเรา เหมือนคนอันธพาลพวกนั้น และอีกอย่างนะ บ้านเราก็ไม่มีของมีค่าอะไร ยายจะไปกลัวทำไม ดูซิ พี่เค้าดูน่ารักออก ... พี่คนที่หน้าตาสวยๆ ชื่อ โสนน้อย ส่วนพี่ผู้าย ชื่อสิงห์ดำครับ พวกเราขอพักค้าง สักคืนสองคืนนะจ้ะยาย ขอให้มีที่นอนก็พอแล้ว พวกเราอยู่ไม่นานหรอกจ้ะ เอื้อย เอ่ยขอร้อง.
นางหยุดนิ่งชั่วขณะ สังเกตกิริยาของหลานสาว แพรวา. นางเองก็แปลกใจ ที่ไม่เคยเห็นหลานสาว กระตือรือร้นอย่างนี้มาก่อน. ปกติ แพรวา จะเป็นเด็กขี้ตกใจ และหวาดกลัวผู้คน โดยเฉพาะคนแปลกหน้า. แต่นี่ ดูเธอจะตื่นเต้นดีใจ เหมือนได้พบกับเพื่อนสนิท ที่จากกันไปนาน.
ในเมื่อ แพรวา หลานสาว ยืนยันหนักแน่นแบบนี้ , นางจึงคิดทบทวนใหม่อีกครั้ง. สังเกตดูหนุ่มสาวทั้งสามคน พวกเขาไม่น่าจะเป็นคนแถวนี้ คงมาจากที่อื่นจริงๆ , อาจไม่ใช่คนร้าย อย่างที่หลานสาวพูดก็ได้. นางได้แต่หวังว่า คงจะไม่เกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้นในคืนนี้ เพราะเหตุความไว้วางใจ.
เออ ๆ ๆ แต่บ้านนี่มันสกปรกหน่อยนะ ที่หลับที่นอนก็คับแคบ แหวกๆ นอนไปก่อนก็แล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยจัดที่นอนกันใหม่ ทุกคนที่นี่ต้องช่วยกันทำงาน ไม่มีใครจะไปดูแลใครได้มากนักหรอกนะ ขอบพระคุณคุณยายมากเลยจ้ะ โสนน้อย ไหว้ขอบคุณ ก่อนที่นางจะขึ้นบันไดไปชั้นบน.
ยายของหนูชื่อ เพลิน ส่วนหนูชื่อ แพร คล้องจองกันไหม๊ล่ะ แพรวา แสดงความดีใจ ที่ยายตอบรับคำขอร้อง แต่เอ พวกพี่ๆ กินอะไรมากันรึยัง ?
แพรวา พา เอื้อย โสนน้อย และสิงห์ เข้าไปในครัว ที่อยู่ถัดไปจากห้องโถง แล้วจัดแจงหาของกินให้แขกผู้มาใหม่กินแก้หิว.
โชคดีสำหรับ เอื้อย โสนน้อย และสิงห์ ได้ที่พักโดยไม่ได้ตั้งใจ. ขณะที่เข้ามาเสี่ยงภัยที่เมืองนี้ โดยไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน. พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า อนาคตข้างหน้า จะเจออุปสรรคอะไรบ้าง และร้ายแรงแค่ไหน.
นับว่า การเดินทางฝ่าอุปสรรคตามหารักครั้งนี้ เป็นการผจญภัยที่ค่อนข้างโดดเดี่ยว แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา , ไม่มี สังข์ สินสมุทร สุดสาคร. แม้ว่า พวกเขาจะผ่านการเผชิญหน้ากับสิ่งร้ายๆ มาแล้วหลายครั้ง แต่ก็รอดพ้นอันตรายไปได้ ไม่ได้จนตรอกไปเสียทุกคราว. ครั้งนี้ มีสิงห์ดำ เป็นเพื่อนเดินทาง ช่วยให้ไม่รู้สึกเหงาได้บ้าง.
นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว พวกเธอยังไม่รู้ชะตากรรมของเพื่อนเลย , สังข์ อาจกลับไปถึงบ้าน และเจอแม่แล้วก็ได้ หรือไม่ก็ยังหลงอยู่ในป่า หรือที่ไหนสักแห่ง หรือไม่ก็อาจตายไปแล้ว.
เอื้อย มองหน้า โสนน้อย เห็นแววเศร้าบนใบหน้าของเพื่อนรัก , เธอรู้ซึ้งดีว่า เพื่อนสาวเพิ่งผ่านเหตุการณ์อันน่าสะเทือนใจ มาได้ไม่นานมานี่เอง. มันคงยากอยู่นะ ที่จะลืมคนที่เรารัก ซึ่งเป็นรักครั้งแรก. หัวใจของเพื่อนรัก คงบุบสลายไปไม่น้อย. แต่ถ้าคิดว่า นี่คือการแลกกับความรู้และประสบการณ์ ที่ย่าทองสั่งสอนถ่ายทอดให้ ก็นับว่าคุ้มค่าไม่น้อย. พลายงาม เป็นแค่บททดสอบชีวิตบทหนึ่งของ โสนน้อย ที่จะต้องพบเจอ แม้ว่าจะเจ็บปวดรวดร้าวสักเท่าใดก็ตาม.
พวกพี่ เป็นอะไรไป เห็นนิ่งไปนาน ของกินนี่ไม่อร่อยเหรอ ? แพรวา ถามขัดจังหวะขึ้น. ไม่หรอกจ้ะ โสนน้อยตอบ ก็อร่อยดี แต่พวกพี่อิ่มกันแล้ว ห้องนอนของหนู ทั้งร้อนทั้งแคบ และก็มีของรกๆ อยู่ คงจะนอนกันลำบาก ถ้าเป็นพรุ่งนี้จัดห้องเสียใหม่ก็คงอยู่ได้ แต่คืนนี้ หนูจะลงมานอนกับพวกพี่ผู้หญิงสองคน ตรงโซฟา แล้วให้พี่ผู้ชาย พี่นอนที่พื้น ไม่เป็นไร พี่นอนได้ สิงห์ แนะนำ. งั้น ตกลงตามนี้นะ
แพรวา หรี่สวิทช์ไฟในห้องจนเกือบมืด. สักครู่ เสียงเคาะประตูที่หน้าบ้าน ดังขึ้น หลังจากพวกเขาล้มตัวลงนอนได้เพียงนาทีเดียว , เด็กหนุ่มผู้หนึ่ง เปิดประตูเข้ามา. เขายังไม่รู้ว่า มีอะไรเกิดขึ้นในบ้าน. ทันทีที่เข้ามา ก็รีบเปิดทีวี โดยอาศัยแค่แสงไฟหรี่ และเร่งโวลลุ่มจนเสียงดังลั่นห้อง. เขาไม่สนใจด้วยซ้ำไปว่า ข้างในนี้ มีใครอยู่บ้าง.
เด็กหนุ่มพยายามเปลี่ยนไปช่องอื่นๆ แต่ทุกช่อง ก็มีแต่ข่าวการรายงาน เกี่ยวกับฝูงชนชุมนุมประท้วง. เขาแสดงอาการไม่พอใจและปิดทีวี แล้วเดินผ่านบันไดห้องโถง เข้ามาที่ห้องครัว.
นั่นเป็นพี่ของหนูเอง แพร บอก.
เด็กหนุ่ม พี่ของ แพรวา น่าจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับ สิงห์ดำ ความสูงก็ไม่น่าจะต่างกันมากนัก. สภาพของเขาตอนนี้ ไม่ต่างจากกลุ่มพวกวัยรุ่น ที่ข้างถนนเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานั่นเลย.
พอเขากลับออกมาจากห้องครัว เปิดสวิทช์ไฟสว่างจ้า , พบน้องสาวนั่งนอนรวมกับแขกที่เขาไม่รู้จัก.
แพร หายหัวไปไหนมา ? เขาพ่นคำถามใส่น้องสาวทันที พี่ออกตามหาไปจนทั่ว นี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ... แล้วนั่น ไปพาใครเข้ามาบ้าน ยายรู้เรื่องนี้หรือยัง ใครอนุญาตให้คนพวกนี้เข้ามาในบ้าน ห๊า ? หยุดนะ พี่ภู นี่เป็นแขกของแพร พี่ไม่ต้องมายุ่ง พี่จะไปฟ้องยาย ยายรู้เรื่องแล้ว และก็ให้พวกเค้าพักอยู่กับเรา นี่ยายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ แค่ยายกับหลาน มันก็แย่อยู่แล้ว ยังจะให้คนอื่นมาวุ่นวายอีก โธ่โว๊ย! พูดเสร็จ เขาก็วิ่งขึ้นบันไดไปชั้นบน.
เสียงนาฬิกาปลุก ดังสนั่นลั่นห้อง บอกเวลา 08.30 น. ปลุกให้ นางเพลิน รีบตื่นขึ้น , เพราะสายมากแล้ว. นางรีบอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปทำงาน. ก่อนจะลงไปชั้นล่าง นางเดินไปเปิดประตูห้องของหลานชาย เพื่อดูให้แน่ใจว่า เขาออกไปทำงานแล้ว. จากน้้น เดินไปเปิดประตูห้องของหลานสาว แต่ห้องว่างเปล่า , ไม่มีใครอยู่. นางเพิ่งนึกได้ว่า เมื่อคืนมีเด็กหนุ่มสาวพลัดหลงมา ขออาศัยนอนด้วย. นางรู้สึกตกใจ และเป็นห่วงทั้งหลานสาว และข้าวของในบ้านขึ้นมาทันที.
ตายละ คนพวกนั้น ความคิดแว่บหนึ่ง แล่นเข้ามา ไม่ขโมยข้าวของไปหมดแล้วรึ ? โธ่! หลับเป็นตายเลยนะเรา
นางเพลิน รีบเดินลงบันไดมาข้างล่าง. สังเกตไปรอบๆรู้สึกแปลกใจ , เห็นข้าวของภายในบ้าน ถูกจัดวาง เช็ดถู ดูเรียบร้อยกว่าที่มันเคยเป็น ไม่เกะกะรกรุงรัง. ผ้าห่มถูกพับเก็บบนโซฟาเรียบร้อย พื้นห้องได้รับการปัดกวาดเช็ดถูจนดูสะอาด. เข้าไปดูในครัว จานในครัวเพิ่งล้างเสร็จ ไม่มีรอยคราบสกปรกเลอะเทอะ เหมือนที่เคยเป็น ถังขยะก็ว่างเปล่า. แต่ว่าพวกเขา ไปอยู่ซะที่ไหนกัน นังแพรด้วย นางรำพึงในใจ. แต่เมื่อเปิดประตูหลังบ้านออกไป , นางเพลินก็รู้สึกโล่งอกเบาใจ. เห็นแพรวา กำลังพาแขกแปลกหน้า จัดเก็บทำความสะอาดหลังบ้าน. แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่นางแปลกใจเท่าใดนัก , สิ่งที่นางรู้สึกพอใจอยู่ลึกๆ คือ หลานสาวกลายเป็นเด็กร่าเริงขึ้นมา ชั่วข้ามคืน.
นางเพลิน มีอาชีพเป็นพนักงานผู้ช่วยทำอาหาร ที่ห้องอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่ริมบึงใหญ่คล้ายทะเลสาบ. ครอบครัวของยายเพลิน กับหลาน 3 ชีวิต อยู่รอดมาได้ เพราะมีอาชีพการงานทำ เป็นหลักแหล่ง. ภูเวียง เป็นเด็กทำงานในโรงพิมพ์. ส่วน แพรวา แม้จะอายุ 10 ขวบ ก็ยังหาที่เรียนหนังสือไม่ได้ เพราะสถานที่ที่เธออยู่เป็นแหล่งเสื่อมโทรม. และตัวแพรวาเอง ก็เป็นเด็กไร้ตัวตนทางทะเบียนราษฎร์.
นางเพลิน มักจะนำอาหารที่เหลือจากที่ทำงาน กลับมาเผื่อหลานๆ ที่บ้านเกือบทุกวัน. โดยเฉพาะวันนี้ เธอนำอาหารมาเผื่อเด็กหนุ่มสาวอีก 3 คนด้วย. สำหรับอาหารค่ำวันนี้ , นางหวังว่า พวกเขาจะยังอยู่ที่บ้าน.
สารบัญ / ตอนที่ ปฐมบท -
บทที่ 2 สังข์ เอื้อย โสนน้อย
บทที่ 3 วันสังหาร
บทที่ 4 ชีวิตใหม่กลางภูผา
บทที่ 5 ภูติร้ายในป่ามรณะ
บทที่ 6 ประตูเวลาที่เรือนปีศาจ
บทที่ 7 หนอนทะเลทราย
บทที่ 8 หลุมดำดูดเวลา และการตามล่าของมนุษย์นอกจักรวาล
บทที่ 9 พบเพื่อนใหม่
บทที่ 10 ผจญภัยกลางมหาสมุทร
บทที่ 11 ปาฏิหาริย์ของเทพแห่งลิง
ภาคที่ 2: ฝ่าอุปสรรค เพื่อรักและอิสรภาพ
บทที่ 13 เทคโนโลยีล่องหน
บทที่ 14 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 1)
บทที่ 15 เส้นทางที่พลัดพราก
บทที่ 16 เมืองกาญจนา
บทที่ 17 บ้านของย่าทอง
บทที่ 18 วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน
บทที่ 19 ความรัก ความหวัง ยังไม่สิ้น
บทที่ 20 ตามหาเพื่อน
บทที่ 21 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 2)
ภาคที่ 3: รักนิรันดร์ ฝันเป็นจริง
บทที่ 23 นครรัฐเทพนารา
บทที่ 24 ชีวิตใหม่ ใจกลางมหานคร
บทที่ 25 ชีวิตจัดสรร ณ สันติอรุณ
บทที่ 26 สัมผัสแรก สัมผัสรัก
บทที่ 27 สังข์ทอง รจนา
บทที่ 28 วิกฤตของนครรัฐ
บทที่ 29 กู้วิกฤต
บทที่ 30 ฝันที่เป็นจริง
ปัจฉิมบท -
เพลง ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
|
|
|