ภาคที่ 3 บทที่ 30 ฝันที่เป็นจริง ตอนที่ 103 พ่อแม่บุญธรรม
ความสวยงามของแม่น้ำสุวรรณนที ในยามค่ำคืน ขึ้นชื่อว่ามีความงดงาม ดุจสายธารแห่งกาแล็กซี่แอนโดรมิดา. ตึก วัด อาคาร ที่อยู่สองฝั่ง ถูกจัดสรร ปลูกสร้างอย่างเป็นระเบียบ สวยงาม ภายใต้สถาปัตยกรรม ที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน. ทุกสิ่งสรรพสามารถทัศนาได้ชัดเจน ในยามกลางวัน.
ห่างไกลออกไป ทั่วขอบเขตของมหานครรัฐ บ่งบอกถึงความสุข ความน่าอยู่ ความสวยงามของตึก บ้านเรือน. บึงน้ำเจ้าพระยา กลายเป็นบึงทะเลสาบ ที่สวยงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คน ผ่านสัญจรไปมา ในปริมาณหนาแน่น ตลอดทั้งปี. สภาพภูมิอากาศที่ดี ไม่ร้อนและไม่หนาวเกินไป. ผู้คนยิ้มแย้มอัธยาศัยน้ำใจงดงาม. คุณภาพชีวิตของประชาชน อยู่ในเกณฑ์ดี และมีระเบียบวินัย ปลอดภัยจากอาชญากรรม. ส่งผลให้นครรัฐเทพนารา กลายเป็นนครรัฐที่ขึ้นชื่อว่า เป็นมหานครรัฐอิสระ ที่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก.
มีคณะมุขมนตรี ที่มีความรู้ความสามารถ ความซื่อสัตย์ ในการบริหาร การเงิน การคลัง การจัดเก็บภาษี การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม การจัดการศึกษา และการถ่ายทอดวัฒนธรรม. มีกองทหาร ตำรวจ ที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อนครรัฐ และมีอำนาจเต็ม ในการจัดการปัญหาอาชญากรรม อย่างชาญฉลาด มีขั้นตอน แต่เด็ดขาด. และที่สำคัญที่สุด ที่สร้างความมั่นคงให้แก่นครรัฐเทพนารา คือ คุณภาพประชาชน ที่มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย และมีศีลธรรม.
เทคโนโลยีถูกนำมาประยุกต์ใช้ ในทางสร้างสรรค์, งบประมาณของนครรัฐ ถูกนำไปใช้อย่างรู้คุณค่า. ทุกโครงการ ทุกแผนงาน มีจุดมุ่งหมายพื้นฐานอันเดียวกัน คือคุณภาพ-ศักยภาพ-ความสุข ของประชากร.
กิตติศัพท์เหล่านี้ ฟุ้งกระจายไปไกล ถึงนครรัฐแห่งนาร์เนีย ซึ่งอยู่อีกทวีปหนึ่ง. ผู้นำของนครรัฐแห่งนาร์เนีย มีความสนใจ จะแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม กับนครรัฐเทพนารา. กษัตริย์ผู้ปกครองนครรัฐ จึงส่งผู้แทน คือ ท่านเบอร์แลนด์ เอลเลป บารอนแห่งนาร์เนีย หรือ ลอร์ดเอลเลป กับท่านออร์แมนด้า ลูซี่ บอรอนเนสแห่งนาร์เนีย หรือเลดี้ลูซี่ ผู้เป็นภริยา พร้อมด้วยบุตรี ซูซาน่า มาแสดงสัมพันธไมตรีที่นี่. เพื่อศึกษาวิถีชีวิตวัฒนธรรม รวมถึงแนวการบริหารนครรัฐอันสวยงามแห่งนี้.
สังขวุฒิ มอบหมายให้ เอื้อย และ โสนน้อย อยู่ใกล้ชิดกับท่านลอร์ดและครอบครัว, คอยให้คำปรึกษาแนะนำต่างๆ ในนครรัฐเทพนารา. เธอมีโอกาสได้เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรม ของนครัฐนาร์เนียไปพร้อมกันด้วย ในเวลาเดียวกัน.
ลอร์ดเอลเลป ถาม โสนน้อย ในระหว่างรับประทานอาหาร. ถ้าพวกเขาจะเรียกชื่อเธอว่า โบนิต้า เธอจะรังเกียจไหม และเรียก เอื้อย ว่า แองเจลลินา. ซึ่งเธอทั้งสองบอกว่า เป็นชื่อที่ไพเราะมาก, โบนิต้า แปลว่า น่ารักและสวยงาม ส่วน แองเจลลินา แปลว่านางฟ้าตัวน้อย. ซูซาน่า รู้สึกตื่นเต้น เพราะนั่นหมายถึงว่า ถ้าเธอจะมีพี่สาว ก็จะมีพร้อมกันถึง 2 คน"
ลอร์ดเอลเลป และเลดี้ลูซี่ รักบุตรีของท่านมาก และเลดี้ซูซาน่า ก็เป็นเด็กสาวที่น่ารัก อ่อนหวาน. มีอายุและนิสัย ใกล้เคียงกับ โสนน้อย. ทำให้ โสนน้อย และ เอื้อย เข้ากันได้ดีกับครอบครัวนี้.
เอื้อย จะพา ลอร์ดเอลเลป และภรรยา ไปในที่ต่างๆ ทั่วนครรัฐ, ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม สวนสาธารณะ ห้องสมุด มหาวิทยาลัย ล่องเรือในลำน้ำสุวรรณนที ตลอดจน ทดลองใช้ชีวิตในชุมชนสันติอรุณ.
วันกำหนดกลับนครรัฐนาร์เนีย ลอร์ดเอลเลป และภรรยา ต้องการไปกล่าวอำลาและขอบคุณ ประธานนครรัฐและครอบครัว เป็นครั้งสุดท้าย. เอื้อย กับ โสนน้อย รับอาสาทำหน้าที่ พาท่านลอร์ดและครอบครัว นั่งรถส่วนตัว ตรงไปที่ทำการอาคารรัฐสภา ก่อนไปส่งต่อที่สนามบิน.
ระหว่างทาง มีรถยนต์เก๋งลึกลับ สีดำ 3 คัน, คันหนึ่ง วิ่งมาประกบด้านหน้า คันที่สองเบียดเข้าที่ด้านข้าง คันที่สาม ไล่ตามมาทางด้านหลัง. เอื้อย เห็นว่า นี่คงไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ. เธอนึกตำหนิตัวเอง ที่ประมาทไปหน่อย ปฏิเสธไม่ต้องใช้รถเจ้าหน้าที่อารักขานำขบวน. เพราะเห็นว่า ตลอดปีที่ผ่านมา ในนครรัฐเทพนารา มีความสงบมาตลอด ไร้อาชญากรรม.
รถคนร้ายวิ่งขนาบข้างมา กระจกประตูด้านข้างคนขับเปิดออก, ข้างในรถ เป็นชาวต่างชาติทั้งหมด. แต่คนขับเป็นคนของชาวนครรัฐเทพนารา. ชายคนหนึ่งตะโกนด้วยภาษาของเขา ให้หยุดรถ.
เอื้อย จำเป็นต้องชรอความเร็ว หยั่งเชิงดูว่า พวกคนร้ายต้องการอะไร. เพราะประเมินสถานการณ์แล้ว หากขัดขืน เกรงว่า ลอร์ดเอลเลปและครอบครัว จะเป็นอันตราย.
รถของ เอื้อย หยุดสนิท, รถทั้ง 3 คันของคนร้าย ขยับประกบเข้ามา ไม่ให้รถของเธอ หนีออกไปได้. ชายร่างใหญ่ 3 คน ถือปืนลงมา, เคาะกระจกให้เปิดประตู. เอื้อย ลดบานกระจกหน้าต่างรถลง. คนร้ายผลีผลามเข้ามา, จับข้อมือลากเอาตัวของ ลอร์ดเอลเลป และ เลดี้ลูซี่ พร้อมด้วย ซูซาน่า ออกมาจากรถ. ซูซาน่า ดิ้นและตะโกนขอให้ช่วย.
คนตัวใหญ่จึงอุ้มและรวบตัวไว้ มัดมือมัดปากโดยเร็ว, เสร็จแล้วอุ้มเอา ซูซาน่า ไปยัดไว้ ที่เบาะหลังของรถคันที่อยู่ข้างๆ. และบังคับ ลอร์ดเอลเลป และภรรยา ไปยัดรวมกับลูกสาว. พวกคนร้ายบอกให้ ลอร์ดเอลเลป และ เลดี้ลูซี่ อยู่นิ่งๆ. เอื้อย กับ โสนน้อย ทำอะไรไม่ได้เลย ในตอนนี้, ปล่อยให้พวกคนร้าย จับตัวท่านลอร์ด ภรรยาและลูกไป โดยไม่ทราบสาเหตุว่า พวกคนร้ายกับท่านลอร์ด มีเหตุโกรธเคืองอะไร กันมาหรือเปล่า.
คนร้ายมากันเป็นกลุ่ม พร้อมอาวุธ จะไปสู้อะไรได้ คงต้องปล่อยให้สถานการณ์เผชิญหน้า ผ่านไปก่อน.
ลอร์ดเอลเลป พยายามจะบอกอะไรบางอย่างให้ เอื้อย รู้. แต่เขาก็ถูกคนร้ายขู่ห้ามพูด และถูกทุบที่หัว, จนไม่กล้าพูดอะไรอีก. คนร้ายตัวใหญ่ ปรึกษากับคนตัวใหญ่อีกสองคน. พวกเขาจับ เอื้อย กับ โสนน้อย เอาไปยัดใส่ที่เบาะหลัง ของรถคันที่อยู่หลังสุด รวมกับคนร้ายตัวเล็ก. ขัดขืนไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์, เธอรอดูว่า จะมีวิธีแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างไร. การไม่แสดงท่าทีขัดขืน ทำให้คนร้ายมองข้ามพวกเธอไป, ก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ 2 คน. แต่พวกคนร้ายต่างชาติ ก็ยังไม่ไว้วางใจ, มัดมือมัดปากพวกเธอด้วยผ้า อย่างน้อย ป้องกันไม่ให้ส่งเสียงร้องโวยวาย เป็นอุปสรรคงานของพวกเขา.
รถคนร้ายทั้ง 3 คัน เลี้ยวไปอีกทางหนึ่ง ป้องกันไม่ให้ตำรวจไล่ล่าติดตามได้. เอื้อย ประเมินสถานการณ์อีกครั้ง, คนตัวเล็กที่อยู่ข้างๆ นี่ คงจัดการได้ไม่ยาก แต่อีกคน ถือปืนนั่งอยู่เบาะหน้า คู่กับคนขับนี่สิ ลำบากหน่อย. คนขับ ก็ไม่รู้ว่า รู้เห็นเป็นใจกับคนร้าย หรือถูกจ้างวานมา. เอื้อย สบตากับ โสนน้อย ส่งสัญญาณคำถามว่า พอจะสู้พวกมันไหวหรือไม่. โสนน้อย พยักหน้ารับ.
สองสาวนักสู้ ฉวยโอกาส ตอนที่คนร้ายเผลอ. เอื้อย เหวี่ยงตัวหมุน เอาขาทั้งสองข้าง หนีบจับคอคนร้ายตัวเล็ก แล้วบิดสุดแรง, เสียงดังกร็อบ! โสนน้อย หันหลัง ยื่นแขนไปล็อคคอ คนที่อยู่เบาะหน้า. เอื้อย ยื่นมือที่ถูกมัดไพล่หลัง ปัดปืนให้ห่างจากตัว แล้วคว้ามีดพกจากกระเป๋าของคนร้าย ออกมาได้. ตัดผ้าที่มัดมือให้เพื่อนก่อน. ช่วยให้ โสนน้อย จัดการคนร้ายข้างหน้าได้ถนัดขึ้น. แล้วแก้มัดให้ตัวเอง. คนร้ายหมดสติสิ้นฤทธิ์ ไปทั้งสองคน ในเวลาอันรวดเร็ว. ระหว่างชุลมุน คนขับอยู่ในอาการตกใจ และพยายามประคองรถ ไม่ให้ตกถนน. เอื้อย เปิดล็อคประตูรถ ถีบคนร้ายตกรถไปทั้งสองคน, และถีบคนขับตกรถไปอีก. แล้วเข้าควบคุมพวงมาลัยรถไว้ได้. โสนน้อย กลับมานั่งข้างหน้า แล้วหยิบปืนคนร้ายที่ทำตก และถือมันไว้ในมือ. สถานการณ์ของฝ่ายเธอ เริ่มเป็นต่อแล้ว. เอื้อย เร่งความเร็วรถ ไปให้ทันรถคันหน้า และเบียดกันไปมา อยู่ครู่ใหญ่. ซูซาน่า มองไปข้างหลัง รู้ว่า เอื้อย กับ โสนน้อย มาช่วยแล้ว. เธอพยายามเปิดปาก ตะโกนสุดเสียงว่า มีคนมาช่วยแล้ว. ลอร์ดเอลเลป ภาวนาว่า ขอให้เธอทำสำเร็จ. เลดี้ลูซี่ ยังอยู่ในอาการตกใจ.
ในที่สุด เอื้อย ก็ทำสำเร็จ. รถที่เธอขับ เบียดรถคนร้าย จนตกลงไปข้างถนนและพลิกคว่ำ, หมดโอกาสจะไล่ตามทัน. กำจัดคนร้ายได้สองคันแล้ว ภารกิจชิงตัว ลอร์ดเอลเลป และครอบครัว ก็ดูจะง่ายขึ้น. เธอกังวลอยู่เรื่องเดียว คือ ความปลอดภัยของตัวประกัน, เพราะคนร้ายมีอาวุธ. คนร้ายตัวใหญ่ตอบโต้ก่อน ยิงสวนออกมา, เอื้อย บังคับรถหลบวิถีกระสุนไปได้ อย่างหวุดหวิด. กระสุนปืนปะทะกระจกหน้ารถ แตกกระจาย. เธอเร่งความเร็วรถตามไปติดๆ เพื่อให้ถึงตัวประกัน ให้เร็วที่สุด.
ซูซาน่า เห็นว่า นางฟ้ามาช่วยแล้ว ก็มีกำลังใจขึ้นมาทันที. คำสอนบทหนึ่งในพระคัมภีร์ ผุดขึ้นมาในสมอง, พระเจ้าจะช่วยเรา ก็ต่อเมื่อ เราต้องรู้จักช่วยตัวเอง. ซูซาน่า ตัดสินใจ แย่งปืนของคนร้าย ที่อยู่เบาะตอนกลางของตัวรถ ขณะคนร้ายตัวใหญ่ ที่อยู่เบาะตอนหน้าสุด ยิงสกัดรถของเอื้อยไม่ขาดระยะ. คนร้ายที่นั่งเบาะกลาง ต้องควบคุมสถานการณ์ ตามลำพัง.
การแย่งปืน เป็นไปอย่างชุลมุน. เก๋งท้ายของรถคนร้าย ถูกรถของเอื้อยที่ขับตามมา กระแทกชนเข้าอย่างแรง. รถเสียหลัก แฉลบไปที่ขอบข้างถนน. และแล้ว เหตุการณ์ชุลมุน ก็สร้างความเศร้าสะเทือนใจ แบบคาดไม่ถึง. กระสุนปืนลั่นใส่ ซูซาน่า ที่บริเวณท้อง. ลอร์ดเอลเลป ตกใจมาก เข้าไปต่อสู้ยื้อแย่งปืนของคนร้ายอีกแรง โดยไม่เกรงกลัวอะไรอีกแล้ว. ขณะที่คนขับ ยังสามารถประคับประคองรถ ให้วิ่งต่อไป. เลดี้ลูซี่ ประคองลูกไว้อย่างทุลักทุเล เพราะรถมักเสียหลัก แฉลบซ้าย ขวา อยู่ตลอด. เอื้อยโชคไม่ดี ถูกยิงที่บริเวณไหล่, บังคับรถได้ลำบาก แต่ก็ตั้งสติ อดทน เหยียบคันเร่ง พารถประกบข้างรถคนร้ายได้สำเร็จ. โสนน้อย ฉวยโอกาส ระดมยิงใส่ทั้งคนขับและคนร้ายที่เหลือ. จนมันสงบนิ่ง, คนขับฟุบคาพวงมาลัย. แต่รถก็ยังคงวิ่งต่อไปไม่หยุด.
โสนน้อย ผลักประตูรถ ด้านฝั่งของเธอ ให้กระแทกกับสิ่งกีดขวาง จนประตูหลุดไป. แล้วพยายามพาตัวเอง ลอดประตูเข้าไปในรถคนร้าย, ใช้เท้าถีบร่างคนขับตกรถไป, แล้วพยายามเข้าควบคุมพวงมาลัย บังคับรถให้หยุด. แต่ความเร็วรถเป็นอุปสรรค. เธอทำไม่สำเร็จ รถเกิดเสียหลักพลิกหงาย ลื่นไถลตกลงไปที่คูข้างถนน. ขณะรถของเอื้อย วิ่งมาถึงและหยุด ห่างจากจุดเกิดเหตุ ราว 10 เมตร.
เอื้อย เปิดประตูลงจากรถ, พาร่างที่บาดเจ็บ จากการถูกคนร้ายยิงที่ไหล่ ตรงเข้าไปช่วยดึง โสนน้อย ออกมาจากรถก่อน. เสร็จแล้วก็ช่วยกันพา ลอร์ดเอลเลป และ เลดี้ลูซี่ ที่ยังมีชีวิตอยู่ ออกจากซากรถ. จากนั้น ก็ลากร่างของ ซูซาน่า ออกมาจากรถ เป็นคนสุดท้าย, พาออกมาให้ห่างจากตัวรถ ซึ่งอาจเกิดระเบิดได้ทุกเวลา.
โสนน้อย ได้รับบาดเจ็บไม่มาก พยายามผายปอดให้ ซูซาน่า. แต่อาการของเธอไม่ดีขึ้นเลย โสนน้อย พยายามอีก 3 ครั้ง ก็ไม่เป็นผล. ลอร์ดเอลเลป ทนดูสภาพอันบอบช้ำ ของบุตรสาวไม่ได้, ขอร้องให้ โสนน้อย หยุด, ปล่อยให้ร่างของซูซาน่า นอนสงบนิ่ง ไร้ลมหายใจ. ขอเวลาให้พวกเขาได้ทำใจสักพัก ทั้งสองร้องไห้ กอดศพลูกสาว นานหลายนาที.
...
เหตุการณ์ครั้งนี้ นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุด เพราะแขกต่างเมือง มีสถานะไม่ด้อยไปกว่า ราชทูตแห่งนครรัฐ. พวกเขาต้องมาสูญเสียบุตรสาวไป ในดินแดนที่ได้ชื่อว่า สวยงามและสงบสุขที่สุด. คณะผู้นำนครรัฐเทพนารา ขอแสดงความรับผิดชอบ สืบหาต้นเหตุของอาชญากรรมข้ามชาติครั้งนี้.
ลอร์ดเอลเลป และภรรยา ขอเลื่อนกำหนดเดินทางกลับ และรายงานเหตุการณ์ทั้งหมด ไปยังกษัตริย์นครรัฐนาร์เนีย. พระองค์ ส่งสาส์น แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง มายัง ลอร์ดเอลเลป ที่ต้องสูญเสียบุตรสาวไป. ศพของซูซาน่า ได้รับการบรรจุอย่างสมเกียรติ เพื่อรอส่งกลับ นครรัฐนาร์เนีย. การสูญเสียบุตรสาวไป ของลอร์ดเอลเลปและเลดี้ลูซี่ สร้างความเศร้าโศก เสียใจให้แก่ท่าน อย่าหาคำอธิบายไม่ได้. ท่านมีบุตรสาวเพียงคนเดียว. เอื้อยกับโสนน้อย ก็คอยดูแลท่านไม่ให้ห่างสายตา เกรงว่า คนร้ายอาจย้อนกลับมาสังหารท่านอีก. สิงห์ ได้เลือกห้องพักรับรอง ที่อยู่ใกล้ๆ กับตึกที่ทำการอาคารรัฐสภา. ลอร์ดเอลเลป รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจ และความกล้าหาญ ของเธอทั้งสองคน ที่ช่วยชีวิตพวกเขาไว้.
อีกสองสัปดาห์ต่อมา. ผลการสืบสวนร่วมกัน ระหว่างกรมตำรวจของเทพนารา กับ ชุดสืบสวนพิเศษแห่งนครรัฐนาร์เนีย ก็คืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว. สำนักข่าวแห่งนครรัฐนาร์เนีย รายงานว่า ได้จับกุมกลุ่มผู้บงการ โค่นล้มอำนาจรัฐได้แล้ว. ผู้ก่อกบฏกลุ่มนี้ ได้วางแผนจับบุคคลสำคัญ ที่เป็นเชื้อพระวงศ์ ของเจ้าครองนครรัฐนาร์เนีย เพื่อต่อรองกับอำนาจของตน. ลอร์ดเอลเลป กับภรรยา ก็อยู่ในกลุ่มเป้าหมายของคนร้ายด้วย. ผลสรุปของเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นภายนอกอาณาจักรของนาร์เนีย ยังคงรักษาสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกัน ระหว่างสองนครรัฐ. เหตุการณ์อาชญากรรมข้ามชาติครั้งนั้น เป็นเหตุสุดวิสัย. ทั้งสองนครรัฐ ต่างแสดงความชื่นชม ในความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ของ เอื้อย โสนน้อย ที่สามารถพลิกสถานการณ์ ชิงตัวท่านลอร์ดเอลเลป และภรรยา กลับคืนมาได้.
3 เดือนถัดมา. กษัตริย์ผู้ครองนคร ทรงสนพระทัย ที่จะกระชับความสัมพันธ์ ระหว่างนครรัฐ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น. จึ่งส่งสาส์น แสดงเจตจำนงและข้อตกลงต่างๆ มาพร้อมกับ ลอร์ดเอลเลป และ เลดี้ลูซี่ อีกเป็นวาระที่ 2. ในฐานะอัครราชทูต แห่งนครรัฐนาร์เนีย อย่างเป็นทางการ. รจนารินี และ สังขวุฒิ ให้การต้อนรับอย่างสมเกียรติ และมอบหมายให้ เอื้อย โสนน้อย คอยดูแลท่านทั้งสอง เหมือนเช่นครั้งก่อน ระหว่างทำภารกิจในเทพนารา จนกว่าท่านลอร์ด จะเดินทางกลับ.
ค่ำวันหนึ่ง, ที่ระเบียงเรือนรับรอง ริมบึงน้ำเจ้าพระยา. เอื้อย กับ โสนน้อย ร่วมกันปรุงอาหารค่ำ อย่างสุดฝีมือ เพื่อเป็นการเลี้ยงอำลา ท่านลอร์ดและภรรยา ก่อนจะเดินทางกลับบ้าน ในอีกสองวันข้างหน้า. บรรยากาศส่วนตัวครั้งนี้ ทำให้ ลอร์ดเอลเลป กับภรรยา ระลึกถึงบุตรสาว ซึ่งยังไม่สามารถหาสิ่งใดมาทดแทนได้ ขณะนี้. นอกจาก ท่านจะต้องตัดสินใจ กระทำในสิ่งที่ครอบครัวของท่าน ขาดหายไปให้กลับคืนมาเหมือนเดิม.
เอื้อย โสนน้อย รู้สึกตลึงไปชั่วครู่, ทบทวนคำถามนั้นอีกครั้ง.
โชคชะตา ไม่อาจทนดูดาย กับโอกาสที่กำลังเปิดรับพวกเธอ สองสาวน้อยผู้กล้าหาญ ซื่อสัตย์ และกตัญญู. เมื่อเธอสูญเสียสิ่งหนึ่งไป เธอก็ควรจะได้รับ อีกสิ่งหนึ่งมาทดแทน. เอื้อย โสนน้อย มีความรู้สึกตรงกันว่า นี่อาจจะเป็นลิขิตของสวรรค์ก็ได้. แม้ว่าพวกเธอ จะสิ้นหนทาง ออกตามหาพ่อกับแม่ที่แท้จริง. แต่สวรรค์ ก็ยังเหลือช่องทางสุดท้ายไว้ให้.
สองสามีภรรยา บารอนและบารอนเนสแห่งนาร์เนีย ก็เช่นกัน. แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างไกล ในดินแดนอีกฟากฟ้าหนึ่ง, แต่พระเจ้าก็ขีดเส้นทางชีวิต ให้พวกเขาเดินทางมาพบเจอกับสาวน้อยสองคน ซึ่งต่อจากนี้ไป จะชุบชีวิตจิตวิญญาณ ของท่านลอร์ดและภรรยา ให้หายจากความเศร้าโศก จากการสูญเสีย ซูซานา ไปตลอดกาล.
...
อัครราชทูต ลอร์ดเอลเลป และ เลดี้ลูซี่ เดินทางกลับนครรัฐนาร์เนีย พร้อมผู้ติดตาม เป็นหญิงสาวชาวเทพนารา 2 คน. และ อีกหนึ่งเดือนถัดมา โบนิต้า และ แองเจลลีน่า ก็ได้รับการประกาศ ให้เป็นบุตรบุญธรรมของ บารอนและบารอนเนสแห่งนาร์เนีย และได้รับเข้าศึกษา ในมหาวิทยาลัยแห่งนครรัฐ ในเวลาต่อมา.
สารบัญ / ตอนที่ ปฐมบท -
บทที่ 2 สังข์ เอื้อย โสนน้อย
บทที่ 3 วันสังหาร
บทที่ 4 ชีวิตใหม่กลางภูผา
บทที่ 5 ภูติร้ายในป่ามรณะ
บทที่ 6 ประตูเวลาที่เรือนปีศาจ
บทที่ 7 หนอนทะเลทราย
บทที่ 8 หลุมดำดูดเวลา และการตามล่าของมนุษย์นอกจักรวาล
บทที่ 9 พบเพื่อนใหม่
บทที่ 10 ผจญภัยกลางมหาสมุทร
บทที่ 11 ปาฏิหาริย์ของเทพแห่งลิง
ภาคที่ 2: ฝ่าอุปสรรค เพื่อรักและอิสรภาพ
บทที่ 13 เทคโนโลยีล่องหน
บทที่ 14 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 1)
บทที่ 15 เส้นทางที่พลัดพราก
บทที่ 16 เมืองกาญจนา
บทที่ 17 บ้านของย่าทอง
บทที่ 18 วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน
บทที่ 19 ความรัก ความหวัง ยังไม่สิ้น
บทที่ 20 ตามหาเพื่อน
บทที่ 21 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 2)
ภาคที่ 3: รักนิรันดร์ ฝันเป็นจริง
บทที่ 23 นครรัฐเทพนารา
บทที่ 24 ชีวิตใหม่ ใจกลางมหานคร
บทที่ 25 ชีวิตจัดสรร ณ สันติอรุณ
บทที่ 26 สัมผัสแรก สัมผัสรัก
บทที่ 27 สังข์ทอง รจนา
บทที่ 28 วิกฤตของนครรัฐ
บทที่ 29 กู้วิกฤต
บทที่ 30 ฝันที่เป็นจริง
ปัจฉิมบท -
เพลง ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
|
|
|