:สาเหตุ แห่งอาเพท ประเทศไทย

พ่อแม่สอน เป็นอย่างดี
ลูกอัปรีย์ โดยสันดาน
คอยพร่ำสอน มิเกียจคร้าน
แต่คนพาล พาลูกไป

การศึกษา มิอาจสร้าง
จึงล้มล้าง ชั่งเหลวไหล
การเลือกตั้ง เลือกเพื่อใคร
สถาบัน ถูกบั่นทอน

 

ข้าราชรัฐ คอรัปชั่น
ตำรวจลั่น ย้อนทวนศร
ปฏิรูป ส่วยหวยบ่อน
จึงล้มเหลว เลวระยำ

พระสงฆ์ มิองอาจ
ศีลอาพาท ขาดองค์ธรรม
เงินตรา พาตกต่ำ
มัวหมองซ้ำ เสพสีกา

ทุนสามานย์ ยังฟูเฟื่อง
นักการเมือง ร่วมวงศา
ประเทศไม่ พัฒนา
เพราะระบบ หรือเพราะคน.

15 สิงหาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:นี่หรือ คนมือเปล่า

ร้อยสิบเอ็ด เอ็ดแม่ แถตามบท
เพื่อเอาใจ คนคต บดขยี้
จึงใส่ความ ตำรวจไทย ใคร่ย่ำยี
คนมือเปล่า ให้ป่นปี้ บีฑาชน

ภาพที่เห็น เป็นปลวก พวกคนพาล
เที่ยวก่อการ รุนแรง แสวงผล
เพื่ออาเพท ประเทศเปลี่ยน บังเหียนบน
ทรราชย์ สิแปลงตน พ้นคดี

วอนคนไทย รักชาติ รักแผ่นดิน
แสดงจินต์ ผินพักตร์ เป็นสักขี
สถาบัน มั่นคง องค์จักรี
ผู้ราวี จักพ่าย ในบัดดล.

15 สิงหาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:ประชาธิปไตย จงไสหัว

“ใครจะด่า พิพากษา ว่ากูชั่ว
กูไม่กลัว ไม่สะท้าน ไม่หวั่นไหว
มึงจะกั้น กูจะฝ่า ให้บรรลัย
ตราหน้ากู ว่าจัญไร ตามใจมึง”

“มึงจะฝ่า ฝืนกฎ ขบถหมาย
มึงท้าทาย พลังเงียบ เปรียบลวดขึง
ถ้าลวดขาด บาดคอ ต่อหน้ามึง
อย่าทะลึ่ง ร้องขอ ความเป็นธรรม
...
ระวังเถอะ ถ้าลวดขาด ต่อหน้ามึง
ลวดขาดผึง มึงจะรู้ ที่กูเตือน.”

2 สิงหาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:หรือจะปล่อยให้ละลาย ในศรัทธา

ก็รู้อยู่ เห็นอยู่ ว่ามีผู้
ทำตัวเป็น กูรู อยู่เบื้องหลัง
คอยยุแยง ชะแลงขัด งัดบังลังก์
สัญลักษณ์ รวมพลัง ของคนไทย

กี่หน กี่ครั้งแล้ว ที่แคล้วคลาด
คนอุบาทว์ รอดบ่วง ห่วงกฎหมาย
ปล่อยมันยำ ขยำยี ขยี้ใจ
แล้วหนีไป ต่างแดน ตามแผนการ

ก็รู้อยู่ เห็นอยู่ เคยมีผู้
ทำตัวเป็น นักสู้ กู้ประสาน
แก้ปัญหา ชาวนา แบบนางมาร
สุดท้ายก็ ปล่อยผ่าน ร่านหนีไป

ยุติธรรม ที่ล่าช้า ก็เหมือนว่า
ยุติธรรม ไร้ค่า ในความหมาย
ก็รู้อยู่ เห็นอยู่ จนละอาย
ความหวัง เกือบละลาย ในศรัทธา.

6 สิงหาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:สี่บุรุษ

บุรุษหนึ่ง พึงฉาย แสงไฟส่อง [1]
บุรุษหนึ่ง พึงจ้อง สองคมขวาน [2]
บุรุษหนึ่ง ซึ่งคอยชี้ ยุทธการ [3]
บุรุษหนึ่ง มิคร้าน ต้านเรือจม [4]

สี่บุรุษ รวมองค์ คิดตรงกัน
ร่วมประจัญ ปัญหา ที่ถาโถม
สี่บุรุษ สุดยอด ในอาคม
นาวาไทย ไม่ล่ม สมใจมาร.

บุรุษหนึ่ง [1] - สนธิ ลิ้มทองกุล
บุรุษหนึ่ง [2] - ศรีสุวรรณ จรรยา
บุรุษหนึ่ง [3] - เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
บุรุษหนึ่ง [4] - พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

5 สิงหาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:เสรีชน

“ฉันมีสิทธิ์ อิสระ ที่จะเลือก
อย่ามาเสือก ไสขับ บังคับฉัน
ให้ฉันฉีด ไม่ฉีด วัคซีนนั่น
สิ่งสำคัญ ฉันคือ เสรีชน”

จ้ะจ้ะ! เสรีชน คนยะโส
เที่ยวอวดโอ้ โอหัง ชั่งไม่สน
สายตา น่ารังเกียจ ของผู้คน
เที่ยวปะปน ปล่อยเชื้อ เพื่ออะไร.

27 กรกฎาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:เรื่องของ dog กับ doctor

พาหมา ไปหาหมอ
เพื่อร้องขอ หมอรักษา
หมอจึง รีบฉีดยา
รักษาหมา ที่โรงหมอ

หมาหาย จากเจ็บไข้
บอกหมอไป ขออยู่ต่อ
หมอบอก เตียงไม่พอ
จึงร้องขอ ให้กลับบ้าน

หมาโกรธ ที่หมอค้าน
อาจพิการ อยู่นานไป
หมาดื้อ ถูกขัดใจ
ด่าเสียหาย หมาพอใจ

บรรดา พวกหมาเห่า
เที่ยวปลุกเร้า เข้าเงื่อนไข
ตื่นตูม เหมือนกระต่าย
หมาจังไร หมอจรรโลง.

23 กรกฎาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:เจตนาร้าย พฤตินัยชั่ว

ในโลกนี้ มีความจริง อยู่หลากหลาย
แต่ไม่ได้ หมายว่า ทุกคนเห็น
มีประโยชน์ และโทษ ตามที่เป็น
เอาความจริง มาบิดเล่น เป็นเกมกล

ไอ้อุบาทว์ อีชาติชั่ว รวมหัวกัน
พากันฝั้น ปั้นข่าว ให้ฉาวฉล
จริงเป็นเท็จ เท็จเป็นจริง ยิ่งปะปน
มุ่งหมายให้ อารมณ์คน วุ่นวนไป

เอาวัคซีน มาซีล*ทับ กับการเมือง
ให้เกิดเรื่อง เคืองขุ่น หนุนเงื่อนไข
ป้ายประยุทธ์ สุดชั่วร้าย ไล่ออกไป
ด้อยคุณค่า กษัตริย์ไทย ไปพร้อมกัน

นโยบาย ให้กฎหมาย เป็นลูกไล่
การเมือง เป็นปัจจัย สมานฉันท์
ไม่เด็ดขาด เท่ากับขาด ยุติธรรม์
คนดีพรั่น คนร้ายพริ้ม ยิ้มอิ่มใจ.

*seal (v.) ปิดผนึก, ยืนยัน, stamp, approve.

20 กรกฎาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:อย่าเอาไวรัส มาเล่นการเมือง

เอาไวรัส ยัดใส่ ในการเมือง
จึงเกิดเรื่อง โกลาหล คนหวั่นไหว
ปั่นกระแส เกลียดชัง บนออนไลน์
ประเทศนี้ ฉิบหาย ชั่งหัวมัน!

เหตุแห่ง อคติ ริษยา
เป็นทางพา ล้มล้าง ไม่สร้างสรรค์
ปิดตา-หู เสียบ้าง ในบางวัน
ปิดข่าวสาร สมานฉันท์ ฉัน-เธอ.

ปิดหูปิดตา เสียบ้าง

เอาไวรัส ยัดใส่ ในการเมือง
จึงเกิดเรื่อง โกลาหล คนหวั่นไหว
ปั่นกระแส เกลียดชัง บนออนไลน์
ประเทศนี้ ฉิบหาย ชั่งหัวมัน!

เหตุแห่ง อุตริ สติแตก
จึงแปลกแยก คนไทย ไม่สร้างสรรค์
ทุกข์รุมเร้า เฝ้าแต่แค้น แสนจาบัลย์
แม้ในฝัน ยังบั่นทอน นอนระทม

เพราะมายา อคติ ริษยา
เป็นทางพา ล้มล้าง อย่างสาสม
ปิดตา-หู เสียบ้าง ล้างอารมณ์
ข่าวสาร พาต่ำตม สมใจพาล.

12 กรกฎาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:ฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น

เป็นฝ้ายค้าน แต่พาล สันดานเขื่อง
เหมือนแค้นเคือง ขัดข้อง ต้องฉิบหาย
ริษยา หามุมลบ ทุกเรื่องไป
คนเขาเห็น ขดไส้ พวกไพล่ชน

ไม่ถูกใจ ไม่ได้เป็น รัฐบาล
จึงเดือดดาล ค้านไปทั่ว มั่วเหตุผล
ประเทศนี้ มีเสรี ที่ทุกคน
จะเลือกสุข หรือทุกข์ทน ปนกันไป

อย่าอ้าง ทางเสรี ขอมีสิทธิ์
เพื่อคบคิด ล้มเจ้า เป็นเป้าหมาย
เพราะ 'ลุงตู่' ผู้ขัดขวาง ปิดทางไว้
ป้องมิให้ สามเสาหลัก จักถูกรื้อ

เอกราช ศิวิไลซ์ ไม่สั่นคลอน
ทุกบทตอน บันทึกไว้ เป็นลายสือ
อย่าปล่อยให้ พวกจัญไร ใช้ช่องสื่อ
ทำลายล้าง แล้วสร้างชื่อ รัฐไทยใหม่.

21 พฤษภาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:กล้าท้าศาล

โถชั่ง อหังการ
กล้าท้าศาล ยุติธรรม์
หากไม่ ตามใจมัน
อำนาจศาล ถึงคราวสิ้น

ปากพล่อย ด้อยวิสัย
มองได้ไกล แค่ปลายตีน
ประเทศ จักชนะ
พวกสวะ จักสูญสิ้น.

16 เมษายน 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:ผับ เป็นที่อโคจร สำหรับ คนจน หรือ เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค ของคนรวย?

ประพฤติใด ไม่ชอบธรรม มักอ้ำอึ้ง
ถ้อยแถลง ก็จึง ไม่แจ่มใส
ตอบคำถาม ตามแผน ที่วางไว้
ไม่ปล่อยให้ ความผิด ตามติดตัว

สังคมนี้ มีอะไร ให้คำนึง
จึงต้องพึ่ง "ผู้ใหญ่" ให้คุ้มหัว
จัดสรรไป ใหญ่น้อย ให้ลงตัว
ผลประโยชน์ บดบังชั่ว ไม่กลัวเกรง.

14 เมษายน 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:ยิ้มของลุง

เห็นยิ้มลุง ยังรัก สัทธาลุง
แต่ถ้าลุง ไม่ขจัด พวกบัดสี
พวกท้าทาย หมายล้มล้าง วงศ์จักรี
ปล่อยให้มี “อีแอบ” ออกแบบแปลน

ยิ้มของลุง ยุ่งแน่ ไม่แก้ไข
ปล่อยให้คน จัญไร สมใจแผน
เปิดประตู ต่างชาติ เข้ามาแทน
สร้างรอยแค้น ของคน บนรอยยิ้ม.

2556

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:ดึงฟ้าต่ำ ยังมาขออภัยโทษ

หน้าแตก ไม่เป็นท่า
คิดดึงฟ้า ลงมาย่ำ
ความคิด คนระยำ
ย่อมกระทำ เรื่องสามานย์

ประกัน ศิษย์หิงสา
หวังทายท้า อำนาจศาล
บีบคั้น รัฐบาล
ให้ปลดปล่อย ศิษย์ถ่อยไป

ทำไม จึงไม่กล้า
เดินออกมา ที่หน้าไมค์
ประกาศ กษัตริย์ไทย
ต้องอยู่ใต้ ... ของพวกมึง

มาตรา หนึ่งหนึ่งสอง
ถึงคราต้อง สนองถึง
เด็ดขาด มิอาจพึ่ง
อภัยโทษ เพื่อลดทัณฑ์.

13 มีนาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:ทำไปเพราะสนุก

ตอนทำ ทำไป เพราะสนุก
ระดมปลุก บุกลุย เป็นผุยผง
อดทนนิด อีกหน่อย เจตจำนง
สมประสงค์ คงถึง ซึ่งหลักชัย

หลังทำ ไม่เคยคิด จะติดคุก
จึงเร่งรุก ปลุกปั่น อย่าหวั่นไหว
ยิ่งตกดึก ยิ่งคึก ยิ่งก้าวไกล
เหมือนปลาไหล ไหลลงรู ไม่รู้ตัว

เมื่อปลาไหล กับควายป๋า มาเป็นมิตร
จึงคบคิด รับจ้าง สร้างเรื่องชั่ว
สัตว์ไร้ชาติ ไร้กษัตริย์ ไร้ส่วน “หัว”
จึงไม่กลัว กรงขัง ที่กางรอ.

10 มีนาคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:วุฒิภาวะ จริยธรรม

ไร้วุฒิภาวะ จริยธรรม
จึงเหยียบย่ำ ความจริง ทิ้งเหตุผล
กล้าท้าทาย สายตา มหาชน
จึงไม่สน ถูกผิด หรือเหมาะควร

แสนเสียดาย ในสิ่ง ที่ท่านเห็น
ฉวยเอามา เป็นเกณฑ์ ขึ้นค้านสวน
เพียงเพราะมัน ไม่ถูกใจ ในกระบวน
แต่เหมาะควร ในเหตุผล ที่ควรเป็น

เกิดเป็นปราชญ์ ฉลาดเฉ โมเมเก่ง
ทำเป็นเคร่ง กติกา ให้คนเห็น
แท้จริงจิต ริษยา พาเบี่ยงเอน
ออกนอกเกณฑ์ ปรัชญา ศาสตราจารย์

แสนเสียดาย ในคุณค่า ศึกษาสูง
เป็นแค่ยูง* ฝูงเท่ห์ เดรัจฉาน
ยอมโดดเด่น เป็นทาส ทุนสามานย์
วิชาการ ที่ท่านสร้าง อยู่ข้างโจร.

[*นกยูง ขนสวยดูสง่าอย่างไรก็ตาม แต่มัน ก็แค่สัตว์เดรัจฉาน]

22 ก.พ. 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

ไร้ยางอาย

ไร้ยางอาย ในสายตา มหาชน
ในกมล ส่อภาษา คนสาไถย์
กล้าประกาศ อุบาทว์จริง เป็นหญิงไทย
ชั่งจังไร ไร้ค่าคุณ สถุลจัง

นางก็รู้ ดอกทอง เป็นของต่ำ
กับเด็กเลว ก็ระยำ ทำเป็นขลัง
รับจ้าง สร้างอีเวนต์ หาสตังค์
ถูกจับขัง ก็ยังคึก คะนองตน.

21 ก.พ. 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:ทำไม จึงห้าม พูดเรื่องการเมือง ในกลุ่มปั่นจักรยาน

ปั่นอย่างเดียว ไม่เกี่ยว กับการเมือง
แต่มีเคือง ถ้าเรื่องนั้น เกี่ยวทักษิณ
เที่ยวก่นด่า โคตรชั่ว ตระกูลชิน
อย่าดูหมิ่น คนรัก ทักษิณดี

ปั่นอย่างเดียว ไม่เกี่ยว กับการเมือง
มักมีเรื่อง เครียดเครียด คอยเสียดสี
ชอบพาดพิง ยิ่งลักษณ์ ว่าอักกลี่ (ugly)
ทั้งทั้งที่ เป็นนารี ของชาวนา

พวกทหาร เผด็จการ กูไม่ชอบ
เป็นระบอบ ชั่วร้าย ริษยา
เห็นทักษิณ ล่ำซำ ร่ำรวยกว่า
ยึดอำนาจ เขามา น่าไม่อาย

เรื่องดีดี ที่กูชอบ มีรอบตัว
คิดต่างขั้ว อย่าทะลึ่ง มึงรู้ไหม
ปั่นอย่างเดียว กูไม่เกี่ยว เรื่องของใคร
ตามสบาย ถ้าไม่ ขัดใจกู.

19 กุมภาพันธ์ 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:เห็นต่าง เพราะริษยา จึงต้องเป็นแบบนี้

คิดเห็นต่าง แต่ห่างไกล ในตรรกะ
“เห็นต่าง” นั้น ย่อมจะ ขยะแขยง
อ้างสิทธิ เสรีภาพ หยาบรุนแรง
เป็นกำแพง เห็นต่าง อำพรางตน

ด่าคนอื่น ด่าได้ ตามใจชอบ
จนเกินขอบ ชอบธรรม ข้ามเหตุผล
พอถูกจับ กลับอ้าง สิทธิ์สากล
ในกมล คนถ่อย ด้อยความคิด

เป็นอาจารย์ แต่ต่อต้าน ความสัตย์ซื่อ
สอนหนังสือ “ตระบัดสัจ” มัดลูกศิษย์
ให้ภักดี และสอพลอ อสรพิษ
เพื่อคนผิด พ้นโทษ หมดคดี

สามนิ้วชู แต่กูเห็น เป็น “สามกีบ”
ดำรงชีพ ด้วย “สามสัส” น่าบัดสี
ริษยา พาพินาศ ในชาตินี้
จงดมขี้ มีทุกข์ ในคุกเทอญ.

16 กุมภาพันธ์ 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:ฝน แค่เม็ดเดียว ทำเสียว ไปทั้งห่า

(จาก กวีเหลวไหล)

ฝนเม็ดเดียว จะตามมา เป็นห่าฝน
กู “อานนท์” นักสู้ หนึ่งหนึ่งสอง
ขังเพียงกาย หัวใจ ใหญ่ลำพอง
อย่านานนะ...เดี๋ยวกูร้อง...ฟ้องแม่กู

ขังดวงดาวชุบแป้งกำแหงหาญ
แต่แสงดาวยังฉายฉานสะท้านอยู่
กู “อีรุ้งพังสวย” ชอบ “กรวย” ชู
ขอช่วยเตรียม...ข้าวขาหมู...ให้กูกิน!

(ดิน หิน ฟ้า รับไม้ต่อ)

ฝนหนึ่งหยด หมดค่า นำพาม็อบ
ถูกตีกรอบ เหมือนผี ในสายสิญจน์
ฝนทั้งห่า เริ่มหวั่นไหว ในดวงจินต์
หาทางดิ้น บินเลี้ยว เดี๋ยวคิวกู

"พังรุ้ง" เคยพุงปลิ้น ก็สิ้นสวย
เพนกวินด้วย ซวยซ้ำ เที่ยวคลำจู๋
อนาคต หมดสิ้น แล้วสิกู
ทั้ง "กรวย" จู๋ อยู่คุก หมดสุขกัน.

3 ก.พ. 2564.

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:คนด่า ก็ระยำไม่แพ้ พวกอันธพาล

เที่ยวโพสต์ด่า นายกโง่
ทำอวดโชว์ ฉลาดกว่า
ถ้าเขาโง่ จริงดังว่า
เหตุใดหว่า จึงอยู่ทน

คนโง่ อวดฉลาด
ชอบด่ากราด ขาดเหตุผล
ฉลาดจริง ต้องนิ่งทน
ดูที่ผล คนทำงาน

 

ยุคนี้มี ปัญหาใหญ่
ให้คนไทย ร่วมประสาน
มือไม่พาย ก็อย่าร่าน
เอาตีนค้าน ต้านเรือไหล

ทำด้วยมือ ย่อมลำบาก
ทำด้วยปาก ยากหรือไร
หยุดก่นด่า ประเทศไทย
หยุดสาวไส้ ให้กากิน.

 

28 มกราคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:ป้าข้างบ้าน

ผัวเมียเขาทะเลาะเบาะแว้งกัน
ลิ้นกับฟันนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่
เพราะต่างมีพันธะระหว่างใจ
ไม่ทันไรเดี๋ยวก็ง้อกันเอง

แต่ไม่พ้นหูตาป้าข้างบ้าน
ซึ่งกบาลว่างเปล่าเบาโหวงเหวง
นางชอบความสับสนอลเวง
รีบเขย่งเกร็งตัวเกาะรั้วดู

 

อาสาช่วยผัวเมีย..เคลียร์ปัญหา
พออีป้ามหาภัยได้เงี่ยหู
ผัวเมียตอบอีป้าหน้าประตู
เรื่องของกู..มึงอย่ามาเสือกเลย

อีป้าตอบ ก็ชอบ เผือกชาวบ้าน
อย่าขี้คร้าน ห้ามกู ไม่อยู่เฉย
ถ้าได้แส่ และได้โชว์ เหมือนอย่างเคย
แค่เยาะเย้ย เผด็จการ สำราญใจ

 

อีไม่รู้หรือว่า เป็นสอสอ
เที่ยวสอพลอ ชาติอื่น ทำรื่นไหล
มีปัญญา แต่ก็ ปัญญาควาย
ชั่งอับอาย ขายหน้า มหาชน.

20 มกราคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:ไส้เดือนดิน ริร่าน บัลลังก์ทอง

ไส้เดือนดิน ดิ้นร่าน วิจารณ์ฟ้า
เที่ยวกล่าวหา ท้าทาย เพื่อขายฝัน
ประเทศนี้ มีคนไทย หลายหมื่นพัน
ที่จงรัก สถาบัน ผูกพันใจ

พวกก้าวไกล ไม่ได้โง่ แต่โอหัง
เที่ยวบ้าคลั่ง คิดเคลม (claim) เกมสาไถย์
พวกสัตว์เหี้ย รับเบี้ย จากผู้ใด
จึงจังไร หมายมั่น บัลลังก์ทอง

 

21 มกราคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:โควิด กับ รถขวิด อะไร ร้ายกว่า?

มนุษย์เรา เข้าใจผิด จึงคิดว่า
ไวรัสมา มุ่งร้าย หมายทุกสิ่ง
เศรษฐกิจ ตกสะเก็ด เม็ดเงินนิ่ง
แรงงานยิ่ง ดิ่งดับ นับวันตาย

บ่อนพนัน วันนี้ ถูกชี้ชัด
แหล่งมั่วสุม แพร่สะพัด ขัดกฎหมาย
สิ่งมึนเมา ก็เข้าข่าย อันตราย
ทำคนดื่ม ลืมตาย ด้วยฤทธา

 

บ่อนมั่วสุม กลุ่มสุรา ยิ่งน่าพิศ
นั่นร้ายกว่า โควิด ใช่อิจฉา
ค้าสุรา ค้าวัคซีน ยินมาว่า
แสนล้านกว่า พา (คน) หนึ่งรวย (แต่) ซวยทั้งโลก.

"โควิด" สาเหตุ จาก บ่อนพนัน แรงงานเถื่อน. "รถขวิด" สาเหตุ จาก เมาแล้วขับ ขับรถเร็ว.

ไล่จับ นักเล่นพนัน ไล่จับ แรงงานเถื่อน ก็เหมือน เกาไม่ถูกที่คัน. ไล่จับ เจ้าของบ่อน ไล่จับ คนค้าแรงงานเถื่อน เหมือนเอายาทาแผล แต่แผลไม่หาย. จับ "คนรับส่วย" ให้ได้ นั่นแหละ ... เหมือนถูกหวย ร้อยล้าน.

เมาแล้วขับ จับคนเมา แต่ไม่จับ เหล้า, ก็เหมือน เกาไม่ถูกที่คัน. เหล้า ไม่ใช่ คน แต่ถ้า ไปจับ คนผลิตเหล้า เหมือน เกาถูกที่คัน แต่ ปัญหาใหญ่ คือ "ใคร!" จะเป็น คนจับ. เพราะ คนผลิตเหล้า ใหญ่กว่า คนจับ!!!

 

3 มกราคม 2564

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]