:พลังพร เพื่อแม่

ขอพรดี ที่ใจ ส่งให้แม่
ขอพรแท้ เป็นหลัก ปักแทนเสา
ขอพลัง กางแผ่ เป็นร่มเงา
ขอพระเจ้า เป็นจิต สถิตทรวง.

12 สิงหาคม 2556

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:ดีที่ซ่อนเร้น ดีกว่า ดีที่เห็นเห็น

อย่ากังวล คนอื่น หมื่นความคิด
มองเราผิด แผกต่าง อย่างที่เห็น
เขาไม่รู้ เรามีดี ที่ซ่อนเร้น
จึงละเว้น เป็นความพร่อง ไม่ต้องตา

สิ่งที่ควร หวลคิด พินิจก่อน
ดีที่ซ่อน วอนเพ่ง เร่งค้นหา
ดีจริงแท้ แม้น้อย ไม่ด้อยค่า
สูงยิ่งกว่า คำชม เหมือนลมแห้ง

29 มิถุนายน 2556

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด]

:สื่อเบาะแส

สื่อเบาะแส บอกกล่าว เล่าสาเหตุ
ความอาเพศ ของสังคม ที่จมปลัก
คนชั่วมี คนดีน้อย คนถ่อยมาก
คงลำบาก หากคนดี ไม่มีใจ

สื่อเบาะแส แม้ตัวเล็ก ไม่เคยกลัว
สื่อเบาะแส แฉเรื่องชั่ว คนตัวใหญ่
สื่อเบาะแส เป็นสื่อ ของคนไทย
สื่อเบาะแส ไม่ใฝ่ อิทธิพล

วอนคนดี มีสำนึก ตรึกตรองดู
คอยชูช่วย อวยชัย ให้ต้นหน
ช่วยกันชัก ผลักหางเสือ ของเรือยนต์
พาผู้คน จนถึงจุด สุดทางปลาย

สื่อเบาะแส ช่วยได้แค่ แฉคนชั่ว
ส่วนคนดี ก็อย่ากลัว มัวหนีหาย
แจ้งเบาะแส แฉผ่าน สื่อออนไลน์
เพื่อรวมใจ ให้เป็นหนึ่ง พึ่งพากัน.

27 กรกฎาคม 2556

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:ม.เถื่อน (มหา'ลัย เถื่อน)

คนถ่อยเถื่อน เกลื่อนกลาด อุบาทว์ทั่ว
อำพรางตัว มั่วกัน รังสรรค์ศิลป์
สร้างภาพดี ให้เด่น เป็นศิลปิน
ให้ผู้คน ยลยิน สิ้นคำลือ

เที่ยวหลอกคน ชนผู้ ไม่รู้ปรัชญ์
เพียงแลกบัตร ปริญญา แค่นั้นหรือ
เมื่อจ่ายครบ จบแน่ แห่มาซื้อ
ความเชื่อถือ มีที่ไหน ใครประกัน

มาตราวัด พัฒนา เหล่าบัณฑิต
มีความคิด ปรัชญา และสร้างสรรค์
รู้ดีชั่ว กลัวบาป มาพัวพัน
เป็นบาทฐาน คุณค่าหลัก นักพัฒนา

รู้เลือกละ ปฏิบัติ วัตรเหมาะควร
ไม่เรรวน ป่วนการเมือง เรื่องมุสา
กล้ายืนสู้ อยู่ข้าง พระราชา
ผู้รักษา แผ่นดิน ตราบสิ้นใจ.

หมายเหตุ ทำไม เวลารับปริญญา อยากให้พระราชาพระราชทานให้ ก็เพราะมันภูมิใจยังไงเล่า และมหาวิทยาลัยไทย ก็ถือเป็นประเพณีปฏิบัติมาช้านาน เพราะพระราชาคือพระผู้สร้าง เป็นแบบอย่างที่ดีของคนไทย แต่ทุกวันคนไทยเป็นอะไรกันไปหมด ลืมพระราชากันง่ายเหลือเกิน แล้วปริญญาที่รับกันทุกวันนี้ล่ะ คิดถึงที่มาของมันบ้างไหม? ถามใจกันซึ่งๆ หน้านี่แหละ.

24 กรกฎาคม 2556

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:ระวัง! ส.เสือสี่ตัว ทำให้พระชั่ว

กรณี เณรคำ ที่เป็นข่าว
ก่อเรื่องราว ฉาวโฉ่ โผล่อีกหน
เป็นเถรเณร แต่ทำ สัปดน
จนผู้คน เห็นเป็นเรื่อง ธรรมดา

บวชเป็นพระ ต้องอาบัติ ปราชิก
ยังแอบภิก- ขาจาร มารศาสนา
ทั้งชาวพุทธ ชาวพระ ต้องหันมา
สืบเสาะหา เพื่อให้ หายข้องใจ

สอสี่ตัว คือแรง แห่งอาเพศ
เป็นสาเหตุ ความพินาศ พาฉิบหาย
สอสตรี มีกำลัง ไร้ยางอาย
สอสตางค์ สิร้าย กว่างูพิษ

ไสยศาสตร์ คือสอ ของมนต์ดำ
ทางตกต่ำ ตอกย้ำด้วย สอเสพติด
สอสี่ตัว ชั่วช้า กว่าที่คิด
อย่าปล่อยให้ พระทำผิด จนเสียพระ. (นะจ้ะโยม.)

ปีพรรษา ๒๕๕๖ (19 กรกฏาคม 2556)

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:โศลกห่อฉันท์ (2)
"สำนึก-ปรองดอง-ครอบครัว"

โศลก:

ยุติความขัดเคืองใจ
ด้วยสำนึกใน กฎ-หลักการ-ครรลอง
สร้างความปรองดอง
ด้วยการแยกคนดี ออกจากคนชั่ว
พัฒนาสถาบันครอบครัว
ให้เป็นวาระแห่งศตวรรษ

อินทรวิเชียรฉันท์:

เคืองขัด อุบัติขึ้น
ณ ค่ำคืน สะอื้นไห้
ขัดเคือง สิเปลืองใจ
ณ หทัย จะโรยรา

น้อมนำ และสำนึก
ยุติศึก ระรึกหา
หลักการ จะบัญชา
กติกา และครรลอง

คนชั่ว จะฝักใฝ่
มนใสก็เศร้าหมอง
ตัณหา ก็หมักดอง
ปฏิบัติ อุบาทว์ใจ

คนผิด จะแก้กฎ
นิรโทษ โละกฏหมาย
ผิดแล้ว กะลี้ภัย
และจะขอ คำปรองดอง

ผู้คน จะเป็นทุกข์
เพราะสนุก มิตรึกตรอง
ครอบครัว จะมัวหมอง
วิปลาส วิบัติใหญ่

ดีชั่ว ปะปนกัน
ยุติธรรม์ จะบรรลัย
ร้อยปี มินานไกล
ปฏิรูป ประชากร

7 กรกฎาคม 2556

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

(1) บทถาม กึ่ง ขู่
“คนดี คนหยาม แต่ฟ้าไม่หยาม คนชั่ว คนกลัว แต่ฟ้าไม่กลัว”

“ผม (กู) คือ ผอ-ออ ... มีอะไรมะ?”

ผมเป็นผู้ บริหาร โรงเรียนนะ
คนเขาเรียก จะจะ ว่าผอออ
ครูทุกคน ในโรงเรียน ต้องมาง้อ
เรียกผอออ ผอออขา กันทุกผู้

คุณเป็นใคร ทำมาเถียง เลี่ยงคำสั่ง
แถมมานั่ง ทับที่ ที่ผมอยู่
มาจุ้นจ้าน แอบอ่าน คำสั่งกู
ทั้งที่รู้ กูผอออ ต้องสั่งได้

ผมลืมไป จำไม่ได้ ผมไม่รู้
คุณคือผู้ ปฏิบัติ อย่าขัดหมาย
ความชอบมี ผมชอบ จะให้ใคร
คุณอย่าหวัง จะได้ ตอนปลายปี

ทำโครงการ อย่าข้ามผ่าน หัวล้านผม
ต้องใส่ชื่อ คือผม เป็นสักขี
อย่าให้ใคร เขาชี้หน้า อายพาชี
ว่าผมมี แค่อำนาจ แต่ขาดธรรม.

21 มีนาคม 2556

(2) บทตอบ กึ่งไล่
“อำนาจ คือ การก่อเกิดพัฒนา มิตรภาพ คือ ความยั่งยืนแห่ง อำนาจ”

“นี่นะหรือ ... คือ ผอออ”

คุณคือคน ที่ใครใคร เรียกผอออ
คนรอบข้าง ช่างพะนอ ยอจนเหลิง
วันทั้งวัน ฝันเพ้อ จนกระเจิง
หลงระเริง ตำแหน่ง แห่งตัวตน

คิดสร้างสรรค์ จรรโลงเอื้อ เพื่อเด็กเด็ก
มันไม่ตรง สเปก ที่คุณสน (ใจ)
เรื่องก่อร่าง สร้างวัต– ถุมงคล
เรื่องอาคาร เรื่องถนน น่าสนกว่า

ปล่อยให้ครู ผู้น้อย ช่วยกันคิด
ทำด้วยจิต สำนึก ร่วมศึกษา
เด็กเด่นด้อย ทยอยเติม เสริมปัญญา
แก้ปัญหา ทุกข์ร้อน ให้ผ่อนคลาย

ครูบางคน ไม่สน เรื่องงานสอน
เลียเจ้านาย ปลิ้นปล้อน นอนตื่นสาย
เที่ยวร่อนเร่ เห่ตามห้าง อย่างสบาย
ผอออรู้ รู้หรือไม่ ไม่สำคัญ

พอสิ้นปี มีความชอบ กลับมอบให้
คนประจบ เอาใจ ได้สองขั้น
ส่วนครูเลว เลวต่อไป ไม่ลงทัณฑ์
ด้วยเหตุผล กลัวเสียขวัญ กำลังใจ

เรื่องเสพยา เรื่องเพศ เรื่องพนัน
คุณประกัน ปัญหานี้ จะได้ไหม?
เพราะสิ่งนี้ คือภาระ นโยบาย
ปัญหาใหญ่ ที่คุณต้อง ป้องนักเรียน

สาระแท้ การศึกษา ใช่อยู่ที่
เสพศักดิ์ศรี ส้องสุม กุมบังเหียน
วิสัยทัศน์ ปรัชญา แห่งการเรียน
รู้ฉลาด ปราชญ์เปลี่ยน กงเกวียนกรรม

ฉันเสียดาย เงินของรัฐ ที่จัดจ้าง
ให้คุณสร้าง เด็กไทย ใคร่ขอถาม
คุณไม่ทำ หน้าที่ คอยติดตาม
จะเป็นโจ๊ก ให้คนขำ ไปทำไม?

21-27 มีนาคม 2556

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:ต่อบทร้อยกรอง กับท่าน เวทิน ศันสนียเวทย์:
โรคความดัน (สูง)

เป็นความดัน...โลหิต คิดเอาไว้
อย่าปล่อยให้ ความดัน มันดันส่ง
ไปพบหมด ขอยา มาโดยตรง
กินเจาะจง ตามเวลา อย่าละเลย !

(เวทิน ศันสนียเวทย์)

เป็นความดัน (โลหิตสูง) ยังดีกว่า เป็นความดื้อ
ดันทุรัง ดันดื้อ ยื้อไม่อยู่
ดันดุนไป ดันให้ได้ ตามใจกู
ยิ่งหดหู่ เพราะความดัน ไม่ทันใจ

(สู่ดิน ชาวหินฟ้า)

19 มีนาคม 2556

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:ต่อบทร้อยกรอง กับท่าน เวทิน ศันสนียเวทย์:
ทิดมี ทิดจน คนบ้านเดียวกัน

วันอาทิตย์ "ทิดมี" อยู่ที่ไหน
"ทิดจน" ไม่ ได้หยุด หงุดหงิดเหลือ
ทั้ง "ทิดมี...ทิดจน" คนบ้านเรือ
วันอาทิตย์ อย่าเบื่อ "มี" หรือ "จน" !

(เวทิน ศันสนียเวทย์)

อาทิตย์นี้ "ทิดมี" อยู่เมืองชล (บุรี)
ส่วน "ทิดจน" ทนอยู่ คู่ย่าหยี
ทั้ง "ทิดมี..ทิดจน" ถ้อยพาที
ผ่านโทรฟรี ถามทุกข์สุข ปลุกปลอบใจ

(สู่ดิน ชาวหินฟ้า)

19 มีนาคม 2556

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:ต่อบทร้อยกรอง กับท่าน เวทิน ศันสนียเวทย์:
ไม้ไร้ใบ กับ คนไร้บุญ

ไม้ไร้ใบ

แผ่กิ่งก้าน สาขา ใบหนาดก
ฝูงวิหค บินมา เข้าอาศัย
พอต้นไม้ ไร้กิ่ง ต้องทิ้งใบ
นกก็ไม่ เกาะอยู่ เคียงคู่นอน

เหมือนคนเป็น ผู้ใหญ่ ให้ทรัพย์สิน
คนทั้งสิ้น รับไว้ ใจโอนอ่อน
พอผู้ใหญ่ หมดบุญ ไม่สุนทร
คนก็จร จากไป ไม่หวนมา !

(เวทิน ศันสนียเวทย์)
๑๗ มีนาคม ๒๕๕๖

คนไร้บุญ

คนบางเหล่า เกิดมา ไร้ค่านัก
ถูกดูหมิ่น สิ้นศักดิ์ ไร้ภักษา
เพราะปางก่อน ซ่อนบาป อทินนา
ผิดกามา เมียผัว ชั่วอาจินต์

มีชีวิต ก็เหมือน ไม้ไร้ใบ
นกมาเกาะ แล้วก็ไป ไม่ถวิล
เรียนรู้ทุกข์ ก่อนตาย ไปสู่ดิน
รักษาศีล เป็นทรัพย์ ก่อนดับขันธ์

(สู่ดิน ชาวหินฟ้า)

19 มีนาคม 2556

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:ต่อบทร้อยกรอง กับท่าน เวทิน ศันสนียเวทย์:
นางนวลบิน

นกนางนวล นวลนก บินผกโผน
ชีพโชกโชน กับน้ำ ชื่นฉ่ำสินธุ์
ปลาแหวกว่าย สายธาร ย่านวาริน
นางนวลบิน โฉบจับ อย่างฉับไว !

เวทิน ศันสนียเวทย์
๑๗ มีนาคม ๒๕๕๖
เวลา ๑๔.๓๖ น.

เสียงมวลหมู่ วิหค ฉกมัจฉา
คลื่นซัดซ่า กระทบแสง ดูไหวไหว
คลื่นชีวิต บิดผัน ตามครรไล
สุดวิสัย จะไปห้าม ตามกงกรรม.

(สู่ดิน ชาวหินฟ้า)

19 มีนาคม 2556

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:โศลก ห่อ ฉันท์ (1)
บทแห่งสิ้นแสงตะวัน

(๑) โศกธรรม ลำนำชีวิต:

แสงลับ สลับกาล
ชีพดับ สลับกาย
เกิดใหม่ สลายอัตต์
สังสารวัฎฎ์ จักขาดสูญ.

(๒) วสันตดิลกฉันท์:

สิ้นแสงตะวันต่ำ ณ ค่ำนี้
ขณะที่ทิวาวาย
เมื่อชีพละก็จะสละกาย
จะละทิ้งศฤงคาร

ภพใหม่จะมุ่งละปฏิบัติ
ปฏิวัติกิเลสมาร
ผ่องแผ้วพิสุทธิ์อมตกาล
นิรวานจะพึงเห็น.
(นิรชรจะสรรเสริญ)

12 มี.ค.2556

หมายเหตุ
"ศฤงคาร" หมายถึง ทรัพย์ สมบัติ กรรมสิทธิ์ สิ่งของ บุคคลเราเขาข้าทาสบริวาร อันเป็นที่รักใคร่น่ายินดี.
"นิรวาน" หมายถึง นิพพาน ที่สุดแห่งจิต ชีวิต และวิญญาณ ที่มนุษย์พึงเป็น พึงได้ พึงมี.
"นิรชร" หมายถึง เหล่าเทพทั้งหลาย รวมถึงคนดี และเหล่ากัลยาณชนผู้มีศีล (ผู้ทุศีล ไม่เรียกว่า นิรชร)

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:ฉันมิใช่...

ฉันไม่ใช่ แมวไฮโซ
ดูไม่โก้ ขนด่างด้าน
ฉันเป็นแค่ แมวพื้นบ้าน
แต่ไม่คร้าน การจับหนู

กินก็น้อย นอนก็ง่าย
สะอาดกาย น่าอุ้มชู
ร้องเหมียวเหมียว เดี๋ยวมาดู
คอยเป็นผู้ อยู่เฝ้าเรือน

4 มีนาคม 2556

ลูกแมวน่ารัก คนทักมากมาย
มันรู้บ้างไหม ว่าช่างน่ารัก
แมวคงไม่รู้ อยู่อยู่คนทัก
ว่าแสนน่ารัก เสียนี่กระไร

แต่ถ้ามันรู้ ผู้คนทั้งหลาย
ต่างชอบพอใจ ลูกแมวบ้องแบ๊ว
เมี๊ยวเมี๊ยวมองมา ดวงตาใสแจ๋ว
ไร้เล่ห์อย่างแมว คนควรคำนึง.

1 ธันวาคม 2555

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:พระใหม่

เป็นพระใหม่ ออกสื่อได้ ใครว่าผิด
แต่ถ้าคิด อยากนี่นั่น จิตหวั่นไหว
นี่สิ ไม่ควร ด่วนตามใจ
ต้องรู้ทัน แก้ไข ใจเลโล

ปฏิบัติ ทำวัตร ทุกขณะ
วิชชา จรณะ สัมปันโน
สัมมา สัมพุทธะ สุคโต
สาวะกะสังโฆ โยนิโส มนสิการ.

13 ก.พ. 2556

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:ปรารถนา เงินทอง กองเท่าฟ้า

ปรารถนา เงินทอง กองเท่าฟ้า
ทรัพย์ในดิน สินในหล้า กลับร่อยหรอ
ไม่มีให้ คนไทย ได้เพียงพอ
เป็นทุนก่อ หน่อเนื้อ เอื้อความรวย

กองขยะ ไร้ค่า ดารดาษ
วางเกลื่อนกลาด เกะกะ ไม่สะสวย
ลองคิดใหม่ ทำใหม่ คงได้รวย
กองขยะ จะช่วย อวยเงินทอง

อยากรวยลัด รวยไม่เลิก รวยซ้ำซาก
คงลำบาก หากจัดให้ ได้สนอง
คนหนึ่งอ้วน หลายคนอด งดสิทธิ์จอง
เป็นเจ้าของ ต้องแข่ง ยื้อแย่งกัน

ปรารถนา เงินทอง กองเท่าหัว
อย่าทำตัว โต่งสุด หยุดกระสันต์
คิดพูดทำ ดำรง คงชีวัน
พึ่งพากัน ขยันเผื่อ เอื้อมวลชน.

12 ก.พ. 2556

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:ลำนำ รำร้อย วันลอยกระทง ปี 2555

(1)
ลอยกระทง ลอยกรรม ไปตามน้ำ
ล่องรอยธรรม ตามไป ให้ไกลสุด
รอยธรรม ตามรอย ไปให้สุด
ประนมมือ บรรลือคำ ลำนำพุทธ
แสงพิสุทธิ์ สุตธรรม นำชีวิน.

(2)
สวัสดี ปีใหม่ กับสายน้ำ
เย็นชุ่มฉ่ำ ค่ำแลง ด้วยแสงสี
ลอยกระทง ส่งกรรม ตามวารี
ลอยปีนี้ ลอยกับใคร ใจตรงกัน.

(3)
แสงไฟ ส่องทาง
แสงธรรม ส่องใจ
แสงเทียน ส่องไป
ให้เห็น ตัวตน

แสงเทียน มลาย
ความหมาย มากล้น
ละลาย ตัวตน
ให้พ้น บ่วงกรรม.

(4)
สายน้ำใจ ไหลไป ในลำโค้ง
ใจผูกโยง กระทงไป ในกระแส
คิดถึงนาง นวลใย ไม่เปลี่ยนแปล
เคยท้อแท้ ทุ่มโถม โหมการงาน

ประคองเทียน บรรจงใส่ ในกระทง
เจตจำนง คงไว้ ใจห้าวหาญ
ท้อไม่แท้ แท้ไม่ท้อ รั้งรอกาล
อุปสรรค สู้ประสาน ในทันที.

28 พ.ย. 2555

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:คนเก่งที่เห็นแก่ตัว คือ คนชั่วที่ทำร้ายสังคม

อย่าวัดค่า คนเก่ง ด้วยเกรดการศึกษา
อย่าวัดค่า คนดี ด้วยการมีปริญญา

เพราะ...

คนจะดี อยู่ที่ ความสำนึก
หมั่นตรองตรึก ฝึกหิริ-โอตตัปปะ*
คนจะเก่ง มิใช่เก่ง เพื่อชนะ
แต่เก่งละ ลดชั่ว หมดตัวตน

*หิริ แปลว่า ความละอายต่อบาป-ชั่ว
ส่วน โอตัปปะ แปลว่า ความเกรงกลัวต่อบาป-ชั่ว

24 พ.ย.2555

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:เกิดเป็นแมว ยังดีกว่า ถ้าไม่คิด จรรโลงโลก

เป็นมนุษย์ สุดยาก หากจะเกิด
อาจเตลิด เกิดเป็น เช่นแมวเหมียว
จงเชื่อเถิด เกิดเป็นคน ตายหนเดียว?
ขอเก็บเกี่ยว ความสุข สนุกล้น

คนเกิดมา หารู้ไม่ ว่าได้ทำ
บาปบุญกรรม สำคัญว่า ไม่มีผล
กฏแห่งกรรม ส่งผลให้ เป็นรายคน
คงไม่พ้น เกิดแล้วตาย อีกหลายครั้ง

คนหนึ่งเสพ คนหนึ่งสร้าง โลกรับได้
สุขบรรลัย เสพเข้าไป ไม่รู้สร่าง
สักวันหนึ่ง จะรู้ว่า โลกชิงชัง
เกิดวิปริต ก็หลายครั้ง เหมือนจงใจ

คนเลวมาก คนดีน้อย ค่อยค่อยทรุด
พากันฉุด โลกต่ำ ระยำไหม
คนดีท้อ คนเลวทำ กลับหวังให้
คนจัญไร หมายจรรโลง ปลงเสียเถอะ.

20 พ.ย. 2555

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:แพ้ ชนะ สู้ จน แก่ ตาย

แพ้ เป็น พระ
ชนะ อยู่ที่ ใจ
สู้ คือ เรื่องใหญ่
จน แต่ รวยน้ำใจ
แก่ แต่ ไม่เจ็บไข้
ตาย เป็น เรื่องธรรมดา.

Fail is priesthood,
Success in the bravery.
Fight to the Great,
Poor but have more good will.
Aged but have good health,
Death is natural.

11 พ.ย. 2555

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:หิว-เซ็ง-เครียด กินอะไรดี?

หิว-เซ็ง-เครียด กินอะไรดี?
กินของที่ มีรส ไม่วิบัติ
คือไม่มัน ไม่หวาน ไม่เค็มจัด
รสซี๊ดซ๊าด ฟาดหมดก่อน นอนหงายแผ่

เนื้อ-นม-ไข่ กินเข้า กินเข้าไป
ก่อเชื้อไข้ มะเร็ง เซ็งซี้แหง
ผักไร้สาร ไร้พิษ สนิทแท้
ธรรมชาติ คือแม่ เผื่อแผ่ลูก

แม่ธรนินทร์ แม่โพสพ แม่คงคา
แม่ของเรา ถามทุกข์ สุขไหมลูก?
ดีแม่ดี มีของชอบ กรอบสนุก
ลูกชิ้นเด้ง กระดิ๊กดุ๊ก ในลำคอ

ลูกเอ๋ย ที่ลูกชอบ นั่นเป็นภัย
จะทำให้ ลูกป่วย ช่วยหาหมอ
เป็นภาระ ต้องดูแล แย่ทั้งแม่พ่อ
ที่นั่งรอ ปลอบลูก ทุกข์เพราะกิน.

เตือน คนชอบกิน (แดก) ของที่เป็นมิตรกับ "มะเร็ง" มันจะเป็นภาระแก่พ่อแม่ลูกหลาน เป็นแล้ว "ตาย"

19 ก.ย. 2555

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:สมัยนี้ คนดีเขาทำกัน

รักวัว ให้ปล่อย (ปล่อยมันไปซะ อย่าไปกินมันเลย)
รักอร่อย ให้ละ (อย่าไปติดมันมาก ประเดี๋ยวจะทำให้บ้า (บ้าบริโภค))
รักพระ ให้ถือศีล (อย่าไปส่องพระเครื่อง ให้มากนัก เอาเวลาไปส่องศีลของตัวเองจะดีกว่า)
รักของกิน ให้รู้จักเลือก (ไม่ใช่ "แดก" ดะ - fast food)

2 ส.ค. 2555

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:ไม่รู้ ไม่ชี้

สูตร 1

ไม่รู้ ไม่ชี้ น่ะดีแล้ว
ไม่รู้ แต่ชี้ ไม่ดีเลย
รู้ แต่ไม่ชี้ คือ คนดีที่เห็นแก่ตัว
รู้ แล้วชี้ คือ คนดีมีศีลสัจจ์
รู้แจ้ง และ ชี้ชัด คือคุณสมบัติของ อาริยชน

สูตร2

ไม่รู้ ไม่ชี้ น่ะดีแล้ว
ไม่รู้ แต่ชี้ ไม่ดีเลย (เสือก)
รู้ แล้วชี้ คือ คนดีที่หาญกล้า
รู้ แต่ไม่ชี้ คือ คนบ้าและขี้ขลาด
รู้แจ้ง และ ชี้ชัด คือ คุณสมบัติของ อาริยชน

16 ก.ย. 2555

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:มึงไทยมาก (Thais suck!!!) ฟังเสียงเขาด่าแล้ว อย่าด่าตอบ

พูดอังกฤษ ก็เป็นอังกฤษ ที่แสนสยอง
"...ที่สุดในโลก" ต้องประเทศไทย*
บนโลกออนไลน์ เต็มไปด้วยภาษาไทย วิปลาศ
ทำลายศาสนา ด้วยวัตถุมงคล ปนคุณไสย์

ยกย่อง สติฟ จ็อบ ให้เป็นเทวดา
โคตรปัญญา แต่เป็นขี้ข้าเกาหลี (เฉพาะคนสองวัย: วัยรุ่น กับ วัย รมต.)
ใช้ software ฟรี ไม่มียางอาย
เกลียดประชาธิปไตย แต่ไม่ชอบ ความถูกต้อง (ขี้โกง)

ทำตัวว่าสูงศักดิ์ แต่มักปรองดอง กับคนพาล
หมิ่นเพื่อนบ้าน ว่าไอ้เขมร ลาว
ส่งเด็กสาว เป็นสินค้า ส่งออก
เที่ยวโฆษณา บอกว่าเป็นเมืองพุทธ แต่หยุดบาปไม่ได้

ศรัทธา เลื่อมใส อย่างไร้เหตุผล
มีรัฐบาลที่ฆ่าประชาชน ของตนเอง
กีฬาเดี่ยวเออ..เอ็งเก่ง แต่ม่องเท่ง เมื่อเล่นเป็นทีม

"อย่าดูหมิ่นคน ด้วยการศึกษา เพราะปริญญา ไม่ช่วยทำให้คนสันดานดี"

เกรงว่าจะไม่เข้าใจ (แบบไทยไทย) เพราะคนไทย มันเข้าใจอะไรยากสักหน่อย ก็เลยแปลมาจาก :

let me tell you 15 reasons why Thais sucks!!!!!

1. they?re bad at english. they?re terrible!!
2. they think their country is better than other countries (or best in the world)
3. they use Thai language on global websites because they?re too dumb and they have no manners.
4. they?re Steve Jobs? slaves.
5. they?re retarded. very close to the north korean level.
6. they use pirated softwares.
7. they hate democracy. they don?t even have it right now.
8. feudalism!!
9. they snub other countries in ASEAN. especially Laos and Cambodia. they think their country is better... no they?re not.
10. faith is bigger than reasons.
11. they destroyed Buddhist.
12. they?re hypocrites. their country is one of the biggest sex market in the world, they still refuse to admit it.
13. their football team sucks!!!
14. their gov killed their own citizens!!
15. ...

25 สิงหาคม 2555
*ที่สุดในโลก เช่น ทำเส้นขนมจีนได้ยาวที่สุดในโลก อะไรประมาณนี้

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:ทฤษฎีความรัก (Love is always and everything)

ทฤษฎี แห่งความรัก จักรวมเอา
อนุภาค มวลหนักเบา เข้าเป็นหนึ่ง
"รัก" คือ "แรง" ที่แฝงด้วย แรงดันดึง
เป็นแรงซึ่ง ทั้งดึงผลัก แห่งจักรวาล

แรงแห่งรัก เป็นคลื่น อนุภาค
เป็นเรื่องยาก จะชี้วัด แบบมวลสาร
เพราะธาตุรัก คือจินตนาการ
ส่งแรงผ่าน ไปได้ ในทุกทิศ

แรงที่เกิด จากความรัก ของสัตว์โลก
มีพลัง ความโศก เศร้าสถิตย์
แรงกลจักร ไร้รัก อยู่เป็นนิจ
ไร้ชีวิต ไร้โศก และไร้สุข

แต่มนุษย์ กลับโง่ง่าย ไร้ปัญญา
ไม่รู้ว่า รักกับแรง คือแท่งทุกข์
ยึดเอาเป็น สมบัติบ้า พาสนุก
จึงต้องทุกข์ สุขไม่เป็น ไปอีกนาน

30 เม.ย.2555
จากหนังสือ คำคม คำคิดดี
http://www.igoodmedia.net/author/02_book/thinking focus vol.2 igoodmedia/igood-book.pdf

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:ฉันมิใช่

ฉันมิใช่ คนสำคัญ ที่สำคัญ ว่าใหญ่โต
ฉันมิใช่ คนไฮโซ ที่อวดโก้ โชว์อำนาจ
ฉันมิใช่ คนอำมาตย์ ชอบวางมาด เหนือกว่าใคร
ฉันมิใช่ คนพวกไพร่ แอบมีใจ ขายแผ่นดิน
ฉันมิใช่ คนบ้าบิ่น เที่ยวโกงกิน จนสิ้นชาติ
ฉันมิใช่ พวกนักปราชญ์ ที่ขี้ขลาด ทาสเผด็จการ
ฉันมิใช่ พวกคนพาล พาลทุกนัด ในรัฐสภา
ฉันมิใช่ สอสอบ้า เที่ยวค้นหา อนาจาร
ฉันมิใช่ คนหน้าด้าน ส่อสันดาน เอาแต่ได้
ฉันมิใช่ คนจัญไร ที่ไร้จรรยาบรรณ
ฉันมิใช่ ผู้เชี่ยวชาญ วิชาการ งานวิจัย
ฉันมิใช่ คนฝักใฝ่ ลัทธิร้าย หมายล้มเจ้า
ฉันมิใช่ สื่อมอมเมา ชอบเล่าเรื่อง ไร้สาระ
ฉันมิใช่ พวก “ปทะ ปรมะ”* หยิ่งยะโส
ฉันมิใช่ พวกคุยโว ที่อวดโก้ ว่าสูงศักดิ์
ฉันมิใช่ พวกพูดมาก มือถือสาก ปากถือศีล
ฉันมิใช่ พวกศิลปิน แก้ผ้าซิ่น ขายอุดมการ
ฉันมิใช่ ศาสตราจารย์ คนเรียกขาน แค่อาจารย์
ฉันมิใช่ คนอยู่นาน อีกไม่นาน ก็เป็นผี
ฉันมิใช่ คนไม่ดี แต่มีดี ไม่เหมือนใคร.

28 เมษายน 2555
ปทะ ปรมะ = คนที่รู้มาก สาธยายมาก ทั้งได้รับยกย่องมาก(โคตรฉลาด) แต่ไม่บรรลุ (ไม่มีจริง ไม่เป็นจริง ไม่ได้จริง) ในสิ่งที่รู้ สิ่งที่พูด นั้นเลย. บุคคลผู้ ปทะ ปรมะ จึงมิใช่คนโง่เง่าไร้ปัญญา แต่กลายเป็นคนที่ถูกเปรียบเป็น บัวใต้ตม

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:หนุ่มเจ้าชู้ เจอสาว นั่งห้าง

(หนุ่มเจ้าชู้):
อันนารี มีเกลื่อน เหมือนฝูงลิง
จะจีบทิ้ง จีบขว้าง ก็ยังไหว
จีบคนนี้ ทิ้งคนนั้น ทุกวันไป
ทำไงได้ คนมันหล่อ แถมพ่อรวย.

(สาวบนหิ้ง):
อ้นชายใด มือไว นิสัยลิง
มองผู้หญิง มีค่า แค่หว่างขา
แต่ไม่สน คนหมิ่น สิ้นราคา
แค่ไขว่คว้า บ้าน-รถ ไม่อดตาย.

(สาวนั่งห้าง):
อันชายใด มือไว นิสัยลิง
คิดจีบทิ้ง จีบขว้าง พ้นหว่างขา
มึงไม่รู้ กูนี่แหละ คณิกา*
จะตายห่า ซ่าไปเถอ เจอะผัวกู.

กุมภาพันธ์ 2555
*คณิกา = หญิงโสภณี

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:เป้าหมาย

เป้าหมายของ การเรียน คือ ความรู้
เป้าหมายของ ครู คือ ความรู้รอบ
เป้าหมายของ การสอบ คือ คะแนนดี
เป้าหมายของ กฎุมพี คือ กำไร
เป้าหมายของ โลกวิสัย คือ การเสพสุข
เป้าหมายของ คนคุก คือ อิสระ
เป้าหมายของ พระ คือ ศีล-สมาธิ-ปัญญา
เป้าหมายของ เทวดา คือ เสพสวรรค์
เป้าหมายของ พระอรหันต์ คือ ทรงวิมุตติ
เป้าหมายของ ที่สุด คือ นิพพาน
การเกิด-ดับ ของ จักรวาล (universe) เป็น อนันตกาล.

30 ธันวาคม 2554

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:พลังพร พ.ศ.2555: สุข ตลอดปี ดี ตลอดไป
(Health–Happy–Hardy–Heart–Homage)

ใหม่ปี ปีใหม่ กลายกลับ
สิ้นทรัพย์ กลับสิ้น สินเสริม
ปัญหาทุกข์ ทุกปัญหา อย่าซ้ำเติม
ทวีเพิ่ม เพิ่มทวี อนีฆา

ธรรมดี ดีทำ ค้ำจุน
นิยมบุญ บุญนิยม พรหมรักษา
สละเสีย เสียสละ ละอัตตา
จิตอาสา อาสาจิต มิตรสมาทาน

พลังพร พรพูน พิบูลผล
ฤทธิดล ดลอิทธิ ศิริสานต์
สวัสดี ดีสวัสดิ์ วัฏฏะกาล
สุขสำราญ สำราญสุข ทุกกาลเทอญ.

20 ธันวาคม 2554

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:รักประเทศไทย อย่างมักง่าย

อะไรอะไร ก็...อย่าทะเลาะกัน โดยไม่หันดู เหตุผล
อะไรอะไร ก็...อย่าแตกแยก โดยไม่แหวก (แหกตา) ดู ฝูงชน
อะไรอะไร ก็...ให้รักกัน โดยดึงดัน ปั้นอารมณ์ (สร้างภาพ)
อะไรอะไร ก็...ให้มีความสามัคคี โดยไม่ชี้ ว่าคนดีหรือคนร้าย
อะไรอะไร ก็...ปรองดอง โดยไม่มองว่า จะปรองดองกับใคร
อะไรอะไร ก็...ให้ประเทศไทย เดินไปข้างหน้า โดยไม่ศึกษาว่า "เดินหน้า" ไปเพื่อใคร
อะไรอะไร ก็...คนไทยเหมือนกัน โดยไม่หวั่นว่า มันจัญไร หรือ จรรโลง.

สรุป จะปรองดอง จะครองรัก จะสามัคคี จะมีใจให้ใคร ให้ดูที่ "คน" คนนั้นให้ดีเสียก่อน อย่าทำอะไรมั่วๆ บ้านเมืองมันจะยุ่ง.

4 ธันวาคม 2554

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:ปรองดอง หรือ "ปองดอง"

ปองดอง ปองดอง ปองดอง
ต้องปองดอง ผองพรรค ไม่หักหาญ
เปิดช่องทาง พรางช่องโหว่ โชว์อนาจาร
งบประมาณ ถูกผลาญพร่า น่าอัปยศ

พูดกี่ครั้ง กี่ครั้ง ก็ปรองดอง
ยิ่งปรองดอง ยิ่งเห็นไส้ มีหลายขด
พวกหนึ่งหื่น พวกหนึ่งหิว จ่อคิวซด
คนทรยศ เต็มสภา มันน่าพิศ

ปรองดอง ปรองดอง ปรองดอง
ก่อนปรองดอง ต้องแตก แยกถูก-ผิด
ถูกต้องทำ ผิดต้องทิ้ง ยิ่งพินิจ
อย่าปกปิด ผิดปนถูก ก่อนปรองดอง

การปรองดอง ของคนถูก กับคนถูก
ล้วนสร้างสุข สมดุลทั่ว ทุกถ้วนผอง
ถ้าคนผิด กับคนผิด มาปรองดอง
วิปริต ผิดครรลอง สนองโจร

นักการเมือง อย่าฟุ้งเฟื่อง เรื่องกำหนัด
สันดานสัตว์ เดรัจฉาน มารหัวโขน
ผ่านเลือกตั้ง ผ่านเกณฑ์ แบบซ่องโจร
สักวันหนึ่ง จะถูกโค่น จากคนดี.

13 กรกฎาคม 2554

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:"เกม" ของคนนอกคอก

รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย
สำนึกไว้ ในยุค ทุกสมัย
รู้ชนะ ไม่รู้แพ้ ไม่อภัย
รู้อภัย แม้แพ้ คือ พระ-พรหม

เกมต่อสู้ มีแพ้ มีชนะ
คือสัจจะ ปฏิบัติ เป็นปฐม
สู้ในเกม กติกา อย่าโสมม
อย่ารื้อกฏ ตามอารมณ์ สมใจ "มึง"

รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย
ถ้ารู้ "ให้" จะได้ อีกสิ่งหนึ่ง
ได้ร้อยยิ้ม ได้โอกาส ได้คำนึง
ได้รู้ซึ้ง รู้แท้ แพ้อย่างไร

ต้องชนะ ต้องไม่แพ้ ต้องอภัยโทษ
ต้องแก้กฏ (โกฏิ) เปลี่ยนเกณฑ์ เบนความหมาย
คำ "รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย"
กลับเป็นเงื่อน กลบเกลื่อนให้ ใครบางคน

แพ้เป็นพระ ชนะ เป็นมาร
จงพิจารณ์ มาร-พระ จะฉงน
ได้ชนะ ตามเกณฑ์ เงื่อนไขตน
แท้คือคน นอกคอก สู้นอก "เกม"

12 กรกฎาคม 2554

ของฝากจาก สื่อสารการเมืองบูรณาการ
สื่อสารการเมือง ต้องบูรณาการ (1) จริยศาสตร์ (2) สุนทรียศาสตร์ (3) รักษศาสตร์ (4) รัฐศาสตร์ ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อสร้างภารกิจหลัก 3 ประการ คือ "สื่อสารการเมือง" "สื่อสายคลายทุกข์" และ "สื่อสุข สู่ ประชาชน"

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:คน 43 จำพวก คนพวกนี้ อยู่ในตระกูลเดียวกัน

พวกเป็นกลาง
พวกวางตัวเหนือเหตุผล
พวกเห็นคนไม่ใช่คน
พวกสร้างอิทธิพลอำนาจ
พวกประกาศสันติอหิงสา แต่ถือศาสตราไว้ข้างหลัง
พวกพลังเงียบ
พวกเอาเปรียบสังคม
พวกนิยมละครน้ำเน่า
พวกทำดีเอาหน้า
พวกปากกล้าขาสั่น
พวกปลุกปั่นยุยง
พวกหลงผิดคิดอุบาทว์
พวกอำมาตย์จัญไร
พวกไพร่สถุล
พวกลืมบุญคุณครูอาจารย์
พวกเก็บอุดมการณ์ไว้ในลิ้นชัก
พวกมักง่ายเห็นแก่ตัว
พวกคิดชั่วล้มปืนล้มเจ้า
พวกชอบกินข้าวปนกับขี้
พวกเห็นคนดีเป็นคนชั่ว
พวกพูดมั่วตระบัดสัตย์
พวกไร้สมบัติผู้ดี พวกจิ้งจกไร้สี
พวกมีจิตริษยา
พวกเห็นคนอื่นดีกว่าแล้วไม่สบายใจ
พวกชอบประชาธิปไตยนับหัว
พวกอำพรางตัวไม่ทราบฝ่าย
พวกสมองลาปัญญาควาย
พวกทำตัวสบายใส่เกียร์ว่าง
พวกวางตัวเป็น แตงโม มะเขือเทศ
พวกเพศเพี้ยนสับสน
พวกโจรในเครื่องแบบ
พวกอีแอบสีกากี
พวกมีมากลากไป
พวกเอาหูไปนาเอาตาไปไร่
พวกปล่อยให้คนดีถูกด่าแล้วนิ่งเฉย
พวกละเลยนอนหลับทับสิทธิ์
พวกติดบ่วงสวรรค์
พวกสมานฉันท์กับคนผิด
พวกคอมมิวนิสต์กลับชาติมาเกิด
พวกชูเชิดระบอบทักษิณ
พวกโกงบ้านกินเมือง
พวกฝันเฟื่องสันติภาพ.

กุมภาพันธ์ 2554

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:จดหมายถึงลูก
(บทดั้งเดิม)

พ่อแม่ไม่มี เงินทอง จะกองให้
จงตั้งใจ พากเพียร เรียนหนังสือ
หาวิชา ความรู้ เป็นคู่มือ
เพื่อยึดถือ เอาไว้ ใช้เลี้ยงกาย

พ่อกับแม่ มีแต่ จะแก่เฒ่า
จะเลี้ยงเจ้า เรื่อยไป นั้นอย่าหมาย
ใช้วิชา ช่วยตน ไปจนตาย
เจ้าสบาย แม่กับพ่อ ก็ชื่นใจ

ถึงแม้จน ทนได้ ไม่ทุกข์หนัก
เท่าลูกรัก ประพฤติตน เป็นคนชั่ว (ไม่สัมผัส กับคำว่า "ก็ชื่นใจ")
ลูกกี่คน ทนเลี้ยงได้ ไม่หมองมัว
ไม่โศกเศร้า เท่าลูกตัว ชั่วระยำ

พ่อแม่ส่ง ให้ลูกเรียน เพียรอุตส่าห์
พ่อแม่ฝ่า อุปสรรค แสนหนักเหลือ (ไม่สัมผัส กับคำว่า "ชั่วระยำ")
พ่อแม่ตั้งหน้า หาทุน มาจุนเจือ
พ่อแม่ทำเพื่อ ลูกเจริญ เดินก้าวไกล.

(บทแปลงแต่งใหม่)

เงินกองทุน ก.ย.ส. พอมีให้
จงตั้งใจ ฟังคำสั่ง เรียนหนังสือ
เพียรวิชา หาความรู้ เป็นคู่มือ
เพื่อยึดถือ เอาไว้ ใช้เลี้ยงกาย

เงินกองทุน มีแต่ จะร่อยหรอ
คงไม่พอ เลี้ยงเจ้าให้ ถึงที่หมาย
จงใช้หนี้ เมื่อเรียนจบ ก่อนเจ้าตาย
เจ้าอย่าหมาย หายหด ก่อนหมดหนี้

พ่อแม่แก่ และยากจน ทนนานแล้ว
รอลูกแก้ว กลับมา ก่อนเป็นผี
หวังให้ลูก มีเงิน มีงานดี
มีครอบครัว สุขี มีศักดินา

(ลูกระยำ)
สี่ปีจบ พบลูก กลับแค้นใจ
สร้างหนี้ใหม่ ให้พ่อแม่ แก้ปัญหา
หนี้เงินผ่อน หนี้พนัน สรรหามา
โธ่! ลูกยา พาเข้าคุก ลูกระยำ.

(ลูกรัก)
สี่ปีจบ พบลูก แสนดีใจ
ลูกกราบไหว้ น้ำตาหยด รดใบหน้า
เพราะเชื่อฟัง ยั้งคิด พิศเงินตรา
รู้ถึงพิษ รู้คุณค่า พาเจริญ.

29 เมษายน 2554

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:สื่อเสรี

“สื่อเสรี” ต้องมี จรรยาบรรณ
“สื่อสร้างสรร” สานฝัน สู่จุดหมาย
“สื่อลามก” ส่งนรก ให้หญิงชาย
“สื่อรุนแรง” แฝงร้าย หมายฆ่าฟัน

ร่วมคัดค้าน ต้านชื่อ “สื่อน้ำเน่า”
“สื่อมอมเมา” เยาวชน ไม่สร้างสรรค์
“สื่อบันเทิง” พาเหลิงโลก จนเมามัน
“สื่อสาระ” ถูกกีดกัน จากรายการ

ร่วมรณรงค์ คงชื่อ “สื่อสาระ”
“สื่อสัจจะ” อหิงสา จงกล้าหาญ
“สื่อธรรมะ” พัฒนา จิตวิญญาณ
ประกาศผ่าน สารนี้คือ “สื่อเสรี”

10 มกราคม 2551

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:สื่อ 4 ประเภท

สื่อบุคคล พัฒนา จิต-ปัญญา
สื่อการศึกษา พัฒนา เยาวชน
สื่อสารมวลชน พัฒนา สังคม-วัฒนธรรม
สื่อนวัตกรรม พัฒนา วัตถุและเทคโนโลยี

2553

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:อุปนิสัย น้ำเน่า น้ำดี ของ คนไทย

น้ำเน่า:
มักง่าย งมงาย ไร้วินัย ใฝ่อบายมุข
สุขระเริง เหลิงอำนาจ ทาสริษยา บ้าบารมี

น้ำดี:
เรียบง่าย ใฝ่สาระ สัจจะตรง โปร่งใส
ไร้อบายมุข สุขพอเพียง เลี่ยงริษยา ทานบารมี

2554

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:ปู กับ ชะนี

สวมอะไร ก็ได้ ที่อยากใส่
แต่อย่าให้ เข้าใจผิด คิดซื้อขาย
นักศึกษา รักศักดิ์ศรี มียางอาย
เพื่อนหญิงชาย ต้องช่วย อวยคำเตือน

ร่างเป็นชาย ใจเป็นหญิง ยิ่งต้องพิศ
อย่าเห็นผิด คิดแต่งกาย หมายให้เหมือน
เป็นหญิงสาว สวมรัดสั้น สงสารเพื่อน
ที่เป็นหญิง ต้องถูกเตือน ถูกด่า...ไม่น่าเลย

มีนาคม 2550

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:คนกล้า

กล้าเลือกข้าง คนดี
กล้าบีฑา คนชั่ว
กล้ารวมขั้ว นักปราชญ์
กล้ายืนหยัด ทำงานฟรี
กล้ามีน้อย แต่ให้มาก
กล้าฝืน ความอยากใคร่
กล้าฝึกใจ ให้อดทน
กล้าตั้งตน อยู่บนความลำบาก

มีนาคม 2550

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:สังคมไทย ไม่รุ่ง

สังคมไทย ไม่รุ่ง ยุ่งแต่ด่า
คนตายห่า เพราะด่าได้ ไม่เลือกที่
ด่าเข้าไป ไม่มองหน้า ไม่พาที
ไม่ดูดี ดูให้ซึ้ง ถึงข้างใน

คนทำงาน พาลถูกด่า นั้นอย่าแปลก
ต้องแยะแยก แตกให้ชัด พลาดจุดไหน
หากเราเป็น เช่นเขาด่า ก็รับไว้
แล้วแก้ไข อย่าให้เห็น เป็นความเลว

หากไม่ใช่ ให้ขอบคุณ อย่าดื้อด้าน
ให้เสียกาล พาลเสียเพื่อน เลื่อนลงเหว
ก็เราดี ก็คือดี มิใช่เลว
คนจะดี จะเหลว อยู่ที่กรรม

คนด่าเลว ใช่เลว ตามคำด่า
ความดี นั้นมีค่า นะคมขำ
จงสะสม นิยมให้ ไม่ลืมคำ
ขอบคุณย้ำ น้ำใจ มีให้กัน

พฤศจิกายน 2551

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:แด่ ฟ้า ดาว ดิน 2550

(1) ดาวเดือน

โดดเด่น ดุจดาว พร่างพราว เหมือนฝัน
อยู่ไป วันวัน ฝันเฟื่อง เปลืองใจ
วัยหวาน แค่วัน ยึดมั่น ทำไม
ทำดี เข้าไว้ ชื่นใจ มวลชน.

โดย “แด่ฟ้า”

(2) ดาวดารา

ดลใจ ดลให้ ดวงเด่น
ประเดี๋ยว เป็นดาว เปล่าดาย
ผิว่า ผ่อนให้ ผ่านวัย
อิสสา อาศัย อัตตา
รู้ใจ รู้ให้ รู้จัก
รู้รัก รู้สละ รู้รักษา
สะสม สาระ สัญญา
สู่ฝัน สรรค่า สร้างคน

โดย “ดาวดิน”

(3) ความสุข อยู่ตรงนี้

ความสุข อยู่ตรงนี้
อยู่ตรงที่ “ได้ให้” ไม่หวงแหน
สิ่งของรัก หักใจ ไม่คลอนแคลน
ความสุข แล่น โลดทะลึ่ง ถึงสวรรค์

โดย “ดาวประดับเมือง”

มกราคม 2550

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:ดอกหญ้าแห่งความพอเพียง

แม้เป็นเพียง ดอกหญ้า ด้อยค่านัก
ไม่สูงศักดิ์ เทียมเท่า เหล่าพฤกษา
ยอมให้คน เหยียบย่ำ หนำอุรา
ด้อยราคา น้อยคุณค่า น่าช้ำใจ

ถึงเป็นแค่ กอหญ้า ก็อารีย์
มวลชีวี ล้วนมีค่า ได้อาศัย
ปกป้องแดด แผดเผา ราวเปลวไฟ
แผ่นดินให้ ชุ่มชื่น ผืนพนา

อย่าดูหมิ่น คนสิ้นทรัพย์ ไม่นับญาติ
ด่วนตัดขาด มิอาจ ปรารถนา
เป็นคนจน แต่ใจ สูงเสียดฟ้า
เป็นดอกหญ้า ฟ้าสิซึ้ง ตรึงหทัย

ก็ขอเป็น ต้นหญ้า รู้ค่าตน
แม้นได้เกิด เป็นคน พ้นเหลวไหล
คือ “ไม่พัก ไม่เพียร ไม่อาลัย”
ทำดีไป ให้โลกรู้ “อยู่พอเพียง”.

มิถุนายน 2549

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:ความสุข อยู่ตรงนี้

ความสุข อยู่ตรงนี้

(1)

อยู่ตรงที่ “ใจพอ” และ “ขอโทษ”
ผิดพลั้งไป เป็นโจทย์ ต้องแก้ไข
เริ่มวันนี้ วันที่ ขึ้นปีใหม่
ให้ “อภัย” คือพร และพลัง

สำนึกดี ปีใหม่ ใหม่ให้หมด
ละเลิกลด “บทร้าย” ไว้เบื้องหลัง
สร้าง “บทดี” ให้เด่น เป็นกำลัง
คือตัวอย่าง ความหวัง ของสังคม

(2)

เลิกชี้หน้า ด่าคนโน้น พ่นคนนี้
ทำหน้าที่ ที่ค้างคา อย่าหมักหมม
คนอื่นเลว เลวของเขา เขาโสมม
ไปชื่นชม ความเลว เขาทำไม

ยังมีงาน ให้ทำ อยู่ตั้งเยอะ
อย่าไปมัว เลอะเทอะ ให้เหลวไหล
องค์กรอยู่ เราอยู่ คู่กันไป
ให้ลูกค้า ประทับใจ ในองค์กร

(3)

คำว่า “ให้” นั้นมี สามความหมาย
“ให้ คือ ให้” ให้ด้วยใจ ไม่เพิกถอน
“ให้ คือ ได้” ให้ด้วย ใจอาทร
ขอเพียงแค่ คำอวยพร ก็พอใจ

“ให้ คือ เอา” คือให้ ต้องได้คืน
แมวหมูยื่น ฝืนยิ้ม ซ่อนความหมาย
ถ้าจะให้ จงให้ อย่างวางใจ
แล้วจะได้ อย่างที่ให้ ไม่แปรปรวน.

1 มกราคม 2549

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:น้ำตา ปริญญาใจ

เดือนหนึ่งครบ ใกล้จบ หลักสูตรแล้ว
ไร้วี่แวว นักศึกษา มาเต็มห้อง
อย่าหายหน้า ไปไหน ใคร่ขอร้อง
พวกเธอต้อง รีบตักตวง ห่วงวิชา

เคยนอนดึก ก็ฝึกนอน ตอนหัวค่ำ
สิ่งเหลวไหล ใฝ่ต่ำ อย่าคบหา
คบเพื่อนดี ชีวิตดี มีราคา
คบเพื่อนชั่ว มั่วยา พาเสียตัว

อย่ามัวช้า มัวเพลิน เดินทอดน่อง
รีบเข้าห้อง คูหา ให้ครบหัว
อาจารย์รอ อยู่ในห้อง จนน่ากลัว
เพราะเหลือตัว คนเดียว เปล่าเปลี่ยวคน

ค่าของคน คือทนอด งดใจได้
ไม่หลงเชื่อ งมงาย ไร้เหตุผล
มอบสิ่งดี มีน้ำใจ ใส่กมล
บันทึกไว้ ให้ผู้คน ได้จดจำ

ว่าครั้งหนึ่ง ยังจำ ใบหน้าได้
ตาใสใส ยิ้มสวยสวย ดูคมขำ
ด้วยคำพูด ดูดดื่ม ปลื้มทุกคำ
เป็นผู้นำ และผู้ตาม งามน้ำใจ

เข้าห้องเรียน เขียนรายงาน ส่งการบ้าน
ส่งให้ทัน วันที่ มีนัดหมาย
ไม่เอาเปรียบ เรียบร้อย พลอยสบาย
แต่ฉับไว เพื่อหมายมุ่ง ผดุงธรรม

อยากบอกว่า เรื่องเรียน เพียรให้หนัก
ส่วนเรื่องรัก พักไว้ก่อน อย่าถลำ
เรียนจบแล้ว รีบตั้งหน้า หางานทำ
โปรดอย่าลืม คำมั่น วันอำลา

แล้ววันหนึ่ง วันนั้น วันที่คอย
น้ำตาย้อย หยาดแก้ม แซมใบหน้า
พบกันแล้ว ไม่แคล้ว เป็นแก้วตา
พร้อมกันมา ฉลองชัย ให้แก่กัน

จบเสียที สี่ปี ที่เหนื่อยหนัก
มอบความรัก ให้แม่พ่อ รอรับขวัญ
สิ้นสุดแล้ว ลูกรัก ที่จากกัน
แสนตื้นตัน กลั้นน้ำตา ปริญญาใจ.

4 พฤศจิกายน 2549

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:พญาแร้ง แห่งปี 2547

โอ้โอ๋...อนิจจา พญาแร้ง
ถูกกลั่นแกล้ง ให้คนกลัว ว่าชั่วหนัก
เพียงกลิ่นกาย เน่าเหม็น ไม่น่ารัก
เหมือนจมปลัก มักชั่ว มั่วสันดาน

คนไม่รู้ กู่ก้อง ร้องว่าแร้ง
ชอบทึ้งแทง ฉีกกระชาก เดรัจฉาน
เสพของต่ำ สำรอก ชอบระราน
เปรียบประจาน ชั่วกว่า สัตว์ใดใด

เกิดเป็นแร้ง ไม่เคยแกล้ง การทำดี
ไม่เคยเบียด เบียนชีวี ให้เสียหาย
ต่ออายุ ของตน ด้วยสัตว์ตาย
ไม่ดูดาย ล้างป่าช้า คือหน้าที่

เหม็นแต่กาย แต่ใจกล้า กว่าบางคน
ในกมล กล้าขจัด สิ่งบัดสี
รักษาศีล ซื่อสัตย์ ดุจชาติพลี
ทำความดี อย่างแร้ง แกล้งไม่เป็น

ไม่สะสม ไม่กักตุน ให้ยุ่งยาก
ไม่มักมาก แต่รักหมู่ อย่างที่เห็น
รู้ตัวดี ว่าอีแร้ง ที่ตนเป็น
ไม่ซ่อนเร้น น้อมรับ ด้วยจริงใจ**

สร้างมวลหมู่ ชาวแร้ง จากแข้งทอง
รักพวกพ้อง พึ่งตน พ้นสงสัย
ไม่คิดรอ ไม่เคยหวัง แต่ตั้งใจ
ทำในสิ่ง ที่โลกทิ้ง ไม่นำพา

บทสดุดี พ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ พระอาริยะที่โลกลืม.
4 ม.ค.2547

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:สังคม บ้าบ้า

โอ้!... สังคมบ้า เพราะศึกษา มาผิดพลาด
ไทย... ต้องเป็นทาส เพราะไร้ชาติ ขาดนิยม

สื่อ... ไร้สาระ เป็นขยะ ของสังคม
สัจจะ... ก็ดิ่งจม อสูรข่ม เขื่องเมืองมาร

อำนาจ... ที่ไร้ธรรม ก่อบาปกรรม ทั่วแผ่นดิน
ศาสตร์... ที่ไร้ศิลป์ คนบ้าบิ่น หัตถ์ประหาร

ศิลปะ... ละทิ้งศีล คือ ศิลปิน อนาจาร
คนดีท้อ... ถอยให้มาร ก็ถึงกาล อันตราย

2549

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:ดี สี่ ระดับ

ดี ได้ ทรัพย์ เงินตรา
ดี ดัง สรรเสริญ นินทา
ดี ดี สุขสวรรค์
ดี ดับสูญ

ดี ได้ ทรัพย์ เงินตรา
ดี ดัง นินทา สรรเสริญ
ดี ดี สุขสวรรค์เพลิน
ดี ดับสูญ เดินสู่สวรรค์ (นิพพาน)

ดีหนึ่ง ดีได้ทรัพย์ เงินทอง
ดีสอง ดีดังสรรเสริญ นินทา
ดีสาม ดีดีได้สุข สวรรคา
ดีสี่ ดีดับอัตตา สูญศูนย์

2549

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:ตำรับรัก ของคน กล้าๆ กลัวๆ

ตอนนี้ ยังกลัวๆ: "ปีนี้นะ จะบอกตรงตรง แต่ก็ไม่ค่อยกล้า มันยังไงยังไงอยู่นา...
แต่ไหนไหนก็ไหนไหนแล้ว บอกซะเลย บอกตรงตรงนี่แหละ เป็นไงเป็นกัน
ถูกด่าดีกว่า อึดอัดไปอีกนาน"

กล้าขึ้นอีกนิด: อืม!...เดี๋ยว...ตั้งหลักก่อน....เอาไงดี?

กลัวไม่กลัว กลัวดีกว่า ไม่กล้าบอก
บอกไม่บอก บอกดีกว่า กล้าเข้าไว้
แต่ก็กลัว ไม่กล้า ยังเกรงใจ
ขืนบอกไป ไม่เชื่อ จะเสียฟอร์ม

กล้าไม่กล้า กล้าเกินไป ก็กลัวเชย
เฉยไม่เฉย เฉยดีกว่า ไม่แหน่มน๊อม
บอกไม่บอก บอกไปเลย อย่าอ้อมค้อม
ยอมไม่ยอม ยอมถูกด่า ก้มหน้าไว้

รักไม่รัก หรือไม่รัก ชักท้อท้อ
รอไม่รอ รอมาแล้ว รอไม่ไหว
บอกไปเลย ให้เธอรู้ บอกไวไว
ยอมเป็นชู้ ทางใจ ไปซะเลย.

ที่นี้เอาจริงแล้วนะ....

14 กุมภา วันวาเลนไทน์

สักวันหนึ่ง วันนั้น คือวันนี้
วันสำคัญ วันที่ มีความหมาย
ส่งสัญญาณ เป็นสัญญา ออกจากใจ
ลิขิตไว้ ให้เห็น เป็นรางวัล

สานคำร้อย เป็นความรัก สลักส่ง
จรดบรรจง ส่งไป ให้จอมขวัญ
ตรงวันที่ วาเลนไทน์ ไม่ลืมวัน
ไม่แปรผัน ไม่ปันรัก จากหัวใจ

หากโลกนี้ ไม่มีวัน ที่สิบสี่
กุมภาพันธ์ ปีที่ มีนัดหมาย
ก็ยังคง จงรักมั่น ไม่เสื่อมคลาย
วันเวลา ที่ผ่านไป ไม่สำคัญ

ความรักแท้ แท้จริง ยิ่งใหญ่กว่า
กาลเวลา ชราไป คล้ายความฝัน
กายแตกดับ สูญลับ กลับยืนยัน
*คงคำมั่น สัญญา "ข้า รัก เอ็ง".
*คงคำมั่น กลั่นจากใจ "I LOVE YOU".

14 กุมภาพันธ์ 2552

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:รจนา-สังข์ทอง สองรักสมัยใหม่
(Modern in love's Rojana and Sangthong)

หนุ่มสังข์ทอง ต้องรักสาว หน้าตาดี
ดูอีกที ให้แน่ใจ ไม่หมายผิด
ว่านี่หรือ คือรจนา ที่ข้าคิด
ไหงหงุดหงิด งุ่นงาน รำคาญจริง

ก็ตัวเธอ เบอเร่อหนัก ดุจโอ่งไห
แม้ชายใด ได้ประจักษ์ รักเข้าสิง
ก็ตัวข้า ว่าอ้วน ม้วนกลมกลิ้ง
นี่น้องหญิง กลิ้งกลมกว่า มันน่าชัง

วันวันวัน เอาแต่นอน จนหมอนยุบ
ที่นอนบุบ แบะบาน ไปข้างหลัง
เก้าอี้หัก เพราะหนัก เหลือกำลัง
ซ่อมหลายครั้ง ยังเหมือนเก่า ถึงคราวซวย

ก็ซ่อมแล้ว กี่หน ทนไม่ได้
ขืนซ่อมไป เหมือนเสียรู้ ดูไม่สวย
สู้อุ้มไป ให้หมอศัลย์ พลันเข้าช่วย
ดูดไขมัน ออกให้ด้วย นะหมอจ๋า

พี่สังข์ทอง พาน้องรจ งดกินข้าว
กลายเป็นข่าว เล่าขาน กลัวหมอผ่า
เธอทั้งสอง ท่องสัจจะ “เอาจริงค่า”
ตั้งใจว่า อีกสองเดือน เพื่อนแปลกใจ

ปรากฎว่า ยังไม่ถึง ครึ่งของเดือน
สังข์ดูเหมือน รจนา ที่ตรงไหน
ท่ามกลางเสียง ฮาลั่น พลันตกใจ
ดูดูไป คล้ายฮิปโป โธ่! สังข์ทอง.

...

ช่วงสองเดือนเกิดอะไรขึ้น ทำไมสังข์กับรจนา จึงดูเหมือนฮิปโป ?

...

ทั้งสังข์ทอง กับน้องรจ หลังอดข้าว
สองหนุ่มสาว พากันไป กินก๋วยเตี๋ยว
ห้าชามผ่าน ไม่นาน ซดรวดเดียว
หลังจากนั้น ก็เลี้ยวไป กินไอติม

ตื่นเช้ามา นาทีแรก แดกฟาสต์ฟู๊ด
เหมือนปากไร้ หูรูด ดูดหยุมหยิม
ทั้งไขมัน หวานเค็ม เติมเต็มอิ่ม
เธอชอบชิม ทีละชาม สามเวลา

บ่ายเอนหลัง หนังตาหย่อน ขอนอนตัก
หนังตาหนัก เหมือนผลักหิน ให้ขึ้นผา
พยายาม ค้ำไว้ ให้เปลือกตา
อย่าให้หล่น ลงมา ปิดตาพลัน

เช้าวันใหม่ ตั้งใจ ลดน้ำหนัก
พาคนรัก ทำซาวน่า อดอาหาร
ทั้งพี่สังข์ น้องรจ งดหวานมัน
แถมขยัน ออกแรงดี ไปตีกอล์ฟ

บ่ายเข้าครอส นวดแผนไทย จนหายเมื่อย
พากันเดิน เรื่อยเรื่อย ไม่เหนื่อยหอบ
เวลาค่ำ ดื่มน้ำหมัก* สักหนึ่งรอบ
ก่อนตรวจสอบ สุขภาพ ให้ดูดี

ผลปรากฏ รจนา ดูน่ารัก
ผิวผ่องพักตร์ งามพริ้ม ยิ้มแก้มใส
ส่วนสังข์ทอง มองดู ก็รู้ได้
หนุ่มหน้าไทย สุดเท่ห์ เสน่ห์พราว

ได้รับเชิญ โชว์ตัว ก็คราวนี้
เป็นตัวอย่าง ที่ดี ของหนุ่มสาว
เสียงตะโกน ตื่นได้แล้ว คนขี้เซา
หมามันเห่า ขับไล่ ไปเสียที.

โธ่...บังอร มัวแต่นอนอยู่ได้ พนักงานเขามาปิดประตูสวนแล้ว

1 มิถุนายน 2548

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -

:สื่อสัทธรรม

สื่อใด ไร้ธรรม นำทุกข์
สื่อนั้น คือคุก คุมขัง
มอมเมา เผ่าชน ชิงชัง
ล้าหลัง ลืมตื่น หมื่นปี

สื่อใด ให้ทาง พ้นทุกข์
สื่อนั้น นำยุค วสี
ส่องทาง ห่างโลก โลกีย์
สื่อดี ชี้ชัด สัทธรรม

2531

[กลับไปหน้า สารบัญ เวทีความคิด] -