ชุมชน คนคิดดี
 หน้าแรก - ชุมชน คนคิดดีวรรณกรรม - วิชาการ - บทความ เรื่องสั้น ร้อยกรอง เพลง
นิเทศศาสตร์ - วิชาเรียน บรรยาย ตำรา เอกสารการเรียน สื่อการเรียน ถาม ตอบ


Blog film school

My Media channel

blog

1 หน้าแรก
2
บทความ
หนังสือเล่ม
ร้อยกรอง เพลง
3
บทภาพยนตร์
ภาพยนตร์สั้น
วีดิโอ มิวสิควีดิโอ
4
วิชาเรียนนิเทศศาสตร์
ตำราเอกสาร
สื่อการเรียน
 

 

 

บทภาพยนตร์ เรื่อง พลังรัก พลังชีวิต นาค มาฆ พระโขนง (alive)

อีกทัศนะหนึ่ง ที่มีมุมมองชีวิตของ แม่นาค พ่อมาก ในประวัติศาสตร์ ที่ไม่เหมือนใคร! พวกคุณไม่อาจรู้ได้เลยว่า พวกเขา มีชีวิตอยู่ หรือตายไปแล้ว และตายตอนไหน? ... ถ้าคุณรู้ แล้วคุณจะขนหัวลุก!!

(1)

เรื่องย่อ (Synopsis)
ภาพยนตร์ เรื่อง พลังรัก พลังชีวิต นาค มาฆ พระโขนง
(alive)

 

อารมณ์รักของหญิงชาย ที่มีความผูกพันซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้ง ยังคงดำเนินต่อไปจาก “พลังรัก” ที่ยังฝังแน่นอยู่ในส่วนลึกของจิตวิญญาณ จนส่งผลให้เกิดการขับเคลื่อน “พลังชีวิต” แม้ว่าร่างที่แท้จริงของพวกเขาจะไร้ตัวตน

นาคอนงค์ หรือ นาค เจ้าหน้าที่พิเศษของสถาบันด้านพันธุกรรม และเป็นคนรักของ ร้อยเอก มาฆวัตร หรือ มาฆ เธอมีเพื่อนสาว ชื่อ ศศิประพิน หรือ ศิ แต่ ศิ แอบหลงรัก มาฆ / นาค กับ มาฆ จึงตัดสินใจแต่งานกัน เพื่อแก้ปัญหารักสามเส้า ต่อมา มาฆ ไปร่วมรบกับประเทศพันธมิตรที่ต่างแดน ขณะที่ นาค ท้อง

นาค คลอดลูก ด้วยการผ่า ขณะที่ มาฆ ต้องต่อสู้เอาชีวิตรอด จากการถูกโจมตีของฝ่ายศัตรู หลังสงครามยุติ ทหารไทยที่ถูกส่งไปรบทั้งที่มีชีวิตรอด และเสียชีวิต ถูกส่งกลับประเทศไทย มาฆ ดีใจรีบกลับไปหา นาคและลูก ทั้งสองดื่มด่ำความรัก ได้เพียงห้าวัน ปัญหาความรักและความหึงหวง เข้ามาสร้างรอยร้าวให้แก่พวกเขา จน มาฆ ต้องหนีออกจากบ้าน

มาฆ เสียใจอย่างสุดซึ้ง เมื่อรู้ว่า นาค เมียรักตายแล้ว ตั้งแต่เขายังอยู่ในสมรภูมิรบ เมื่อห้าวันก่อน ขณะเดียวกัน นาค ก็รู้สึกสับสน เมื่อรู้ว่า มาฆ ผัวรัก เสียชีวิตในสนามรบเมื่อห้าวันก่อนเช่นกัน ก่อนที่เธอจะพบเขา

 

(2)

บทโครงสร้างเรื่อง (Plot Outline)
ภาพยนตร์ เรื่อง พลังรัก พลังชีวิต นาค มาฆ พระโขนง
(alive)

องก์ 1

น.ส.นาคอนงค์ บุศย์ประเวศ หรือ นาค ตำแหน่งเจ้าหน้าที่พิเศษ สถาบันข้อมูล พันธุกรรมมนุษย์แห่งชาติ (TGR) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร เธอเข้ารับการตรวจสอบและทำบันทึกทะเบียนประวัติพันธุกรรม ( Genome mapping) เพื่อค้นหาสาเหตุความเจ็บป่วยในอนาคต ผลปรากฏว่า เธอเป็นโรคม่านตาแพ้แสง อาการของโรคจะรุนแรงขึ้น เมื่อมีอายุประมาณปีที่ 29 และเธอก็เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ

นาค เป็นคนรักของ ร้อยเอก มาฆวัตร อุดมสุข หรือ มาฆ เธอมีเพื่อนสนิทที่ทำงานด้วยกัน แต่ทำงานในส่วนที่เป็นโรงพยาบาล ชื่อ ศศิประพิน หรือ ศิ แต่ ศิ แอบหลงรัก มาฆ และแอบเป็นชู้กัน โดยที่ นาคไม่รู้

ความสัมพันธ์ของคนทั้งสาม เริ่มก่อตัว ตั้งแต่พวกเขาเรียนแพทย์ ตั้งแต่ปีหนึ่ง จนกระทั่งจบ และทำงานในสถานที่ใกล้กัน ดังนั้น ระหว่างเพื่อนกับคนรัก ทำให้พวกเขาแยก ความรู้สึกออกจากกันได้ยาก

ปี 2037 เมียนมา กับ จีน เผชิญหน้ากัน กรณีพิพาทอำนาจเหนือดินแดนแนวตะเข็บชายแดน ที่เป็นแหล่งน้ำมันปิโตรเลียม แหล่งสุดท้าย ในภูมิภาคนี้ จีน กับ ไทย มีข้อตกลงระหว่างประเทศ ในการพัฒนาและแลกเปลี่ยน เทคโนลียีชีวภาพกันอยู่ และร้อยเอก มาฆวัตร ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ เขาเป็นแพทย์ทหาร สังกัดโครงการวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพ กองทัพบก

เพื่อยุติปัญหารักสามเส้าระหว่าง มาฆ นาค และ ศิ. มาฆ จึงตัดสินใจแต่งงานกับ นาค เขาคิดจะซื้อเรือนหอในหมู่บ้านชลประภา ซึ่งเป็นหมู่บ้านจัดสรรของ ธนา เพื่อนสนิท เพื่อเป็นของขวัญแต่งงาน แต่เธอห้ามไว้ ขออยู่บ้านทาวน์โฮมไปพลางก่อน เพราะสะดวกในการไปทำงานมากกว่า

สงครามระหว่าง เมียนมา กับ จีน ก็เกิดขึ้น เมียนมา เป็นฝ่ายเปิดศึกก่อน ด้วยการใช้อาวุธเชื้อโรค

 

องก์ 2

นาค แต่งงานกัน มาฆ แล้ว แต่ ศิ ยังทำใจไม่ได้ และไม่อาจหักใจเลิกรากับ มาฆ ได้ เธอจึงเป็นฝ่ายรุกมากกว่า จนผู้ชายอย่าง มาฆ ไม่อาจหักห้ามใจได้ วันหนึ่ง เรื่องชู้สาวรู้ไปถึง นาค ในขณะที่เธอท้องได้สี่เดือน ความขัดแย้งระหว่าง มาฆ กับ นาค ปะทุขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และไม่รู้ว่าจะตัดสินปัญหาอย่างไรดี

 

สงครามระหว่าง เมียนมา กับ จีน ยังดำเนินต่อไป ดูเหมือนว่าประเทศใหญ่อย่างจีน ประสบปัญหา อย่างหนักเรื่องอาวุธเชื้อโรค จากฝ่ายเมียนมา จึงร้องขอความช่วยเหลือจากไทย ในฐานะพันธมิตร ประเทศไทยส่ง พลโทยุทธ กับ ร้อยเอกมาฆวัตร และทหารจำนวนหนึ่ง ไปทำงานในภาคสนาม ร่วมกับทหารฝ่ายจีน มีภาระกิจสำคัญคือ วิเคราะห์หาสารเคมีชีวภาพ เพื่อต้านการทำลายล้างของอาวุธเชื้อโรคจากฝ่ายศัตรู

 

เรื่องราวบาดหมางใจกัน ระหว่าง มาฆ กับ นาค ยุติลงชั่วคราว ความรู้สึกห่วงหาอาลัยรัก ของสองสามีภรรยา ก็เข้ามาแทนที่ มาฆ มารู้ว่าเมียท้อง ก็ตอนออกเดินทาง ยิ่งสร้างความห่วงอาลัยขึ้นอีกหลายเท่า นาค เองก็เศร้าไม่แพ้กัน เพราะไปสงครามคราวนี้ ไม่แน่ใจว่าจะรอดกลับมาหรือไม่ ในขณะที่ ศิ ก็รู้สึกใจเสียเช่นกันที่ มาฆ ได้รับคำสั่งแบบกะทันหันเช่นนี้

 

ปัญหาทุกอย่างที่ค้างคาใจ ต้องยุติไว้ก่อน โกรธกันเกลียดกันไปก็ไม่มีประโยชน์ ศิ มาขอ คืนดีกับ นาค เธอเห็นว่าเป็นเพื่อนรักกัน จึงให้อภัย

 

ระหว่างสงคราม นาค กับ มาฆ ติดต่อคุยกันตลอดทางโทรศัพท์บ้าง จดหมายบ้าง จนกระทั่ง นาคท้องได้เดือนที่ 8 สายตาเริ่มสู้แสงไม่ไหว ทำให้เธอออกไปข้างนอกลำบาก มาฆ รู้สึกห่วงภรรยามากที่สุด แทบจะปฏิบัติภารกิจไม่ได้

 

ศิ ส่ง นวล ให้มาเป็นเด็กรับใช้ที่ห้องพัก ตอนนี้สายตาของ นาค เริ่มสู้แสงไม่ได้แล้ว แม้แต่แสงทั่วๆ ไป เธอก็รู้สึกไม่ดี นาค จึงต้องอยู่ในบ้านที่มีสภาพแสงน้อยๆ โดยอาศัยม่านหน้าต่างกรองแสงแดดจากข้างนอก ถ้าจะออกไปข้างนอก ต้องสวมแว่นตาดำ

 

ต่อมา มีขโมยขึ้นบ้าน มันได้แค่ม่านอย่างดีไป มาฆ จึงโทรบอกธนา ให้จัดเตรียมบ้าน พร้อมติดม่านอย่างดีให้ ที่หมู่บ้านชลประภา เพื่อให้นาคและคนใช้ไปอยู่

 

นาค มาอยู่บ้านใหม่ได้คืนเดียว ฝนก็ตกหนัก นาค เจ็บท้องคลอด บังเอิญพี่เลี้ยงก็ไม่อยู่ เธอต้องช่วยเหลือตัวเอง อยู่หลายนาที พยายามโทรศัพท์ถึง ศิ หลายครั้ง แต่สายไม่ว่าง พอ ศิ รู้เรื่องเข้า จึงรีบพา นาค ไปโรงพยาบาลโดยด่วน นาค เจ็บปวดทรมานมากเพราะเด็กไม่กลับหัว และร่างกายเริ่มอ่อนแอจากโรคแพ้แสง นาค ขาดความช่วยเหลือนานเกินไป พอไปถึงห้องฉุกเฉิน นาค ทนความเจ็บปวดไม่ไหว ก่อนสิ้นใจ นาค นึกถึงสามี อยากให้เขากลับมาดูใจก่อนตาย

 

มาฆ กำลังปฏิบัติภารกิจในห้องแล็บกลางสนามรบ ท่ามกลางสายฝน แสงจากฟ้าแลบ สร้างภาพลวงตา ทำให้เขามองเห็น เมียรักอุ้มท้องมาหาเขา

 

ทั้ง นาค และ มาฆ ตกใจตื่นกลางดึก ในเวลาใกล้เคียงกัน

 

วันรุ่งขึ้น นาค จึงเล่าความฝันให้หมอใหญ่ฟัง หมอใหญ่จึงตรวจสอบประวัติการเจ็บป่วยของเธอ ในฐานข้อมูลจีโนม ให้ละเอียดอีกครั้ง พบว่า นาค มีอายุใกล้เลข 29 แล้ว และพบอีกว่า โรคม่านตาแพ้แสง ถ่ายทอดถึงลูกในท้องด้วย การคลอดลูกเอง สุ่มเสี่ยงกว่าที่จะไม่รอดทั้งแม่และลูก เนื่องจากโรคแพ้แสง หมอจึงแนะนำว่าให้ผ่าเด็กออก จะเสี่ยงน้อยกว่า แต่ก็ไม่รับประกันว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์

 

นาค ยอมตกลงให้หมอผ่าเอาลูกออก โดยมี ผกาวรรณ ผู้เป็นแม่ และ แวว มาคอยดูแล ปรากฏว่า เธอได้ลูกชายสมความตั้งใจ

 

ที่สนามรบชายแดน จีน เมียนมา เกิดการสู้รบอีกระรอกหนึ่งตอนค่ำ ระเบิดตกลงข้างห้องแล็บที่ มาฆ ประจำการอยู่ ข้าวของเสียหาย ระหว่างเก็บกู้ห้องแล็บให้กลับคืนดังเดิม มาฆ เห็น นาค อุ้มลูก ฝ่าหมอก ควันระเบิดเข้ามาหาเขา เขาตกใจมากจนแยกไม่ออกว่านี่มันฝันหรือจริง

 

หลังผ่าตัด ศิ ส่ง นวล ให้มาเป็นเด็กรับใช้ที่บ้านใหม่อีกครั้ง ตอนนี้สายตาของ นาค เริ่มสู้แสงไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะกลางวันที่มีแสงแดดจัด เธอจึงต้องอยู่ในบ้านที่มีสภาพแสงน้อยๆ โดยอาศัยม่านหน้าต่างกรองแสงแดดจากข้างนอก ถ้าจะออกไปข้างนอก ต้องสวมแว่นตาดำ

นาค แอบรู้ความสัมพันธ์ ระหว่าง ศิ กับ มาฆ จากคำบอกเล่าของ นวล ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ ที่แผลรักเก่ากำเริบขึ้นมาอีกแล้ว

 

กลางคืน มีขโมยขึ้นบ้านอีกแล้ว แต่ก็ตกใจหนีไปเสียก่อน โดยไม่ได้อะไรไปเลย

 

วันต่อมา นวล ก็หายไปโดยไม่บอกกล่าว โทรไปถาม ศิ ก็ไม่ได้ความ ข้าวของในบ้าน ก็มีไม่ครบ ยังขาดของใช้ที่จำเป็นหลายอย่าง ทั้งผ้าอ้อม ของกิน นาค จึงอยู่อย่างลำบาก เธอโทรศัพท์ ขออนุญาตคุยกับ มาฆ แต่เสียงขาดๆ หายๆ เพราะ มีการสู้รบกันอย่างหนัก

 

ที่สมรภูมิรบ ท่านนายพล เห็นว่าเสี่ยงเกินไปที่จะอยู่ที่นั้น จึงสั่งอพยพทหารไทยและห้องแล็บเป็นการด่วน ขณะที่ถูกซุ่มโจมตีด้วยระเบิดจากฝ่ายศัตรูเป็นระยะๆ

 

ผ่านไปอีกสองวัน นาค ไม่ค่อยรู้เรื่องราวภายนอกบ้าน เพราะเธอจะเก็บตัว อยู่แต่ในบ้าน โดยเฉพาะกลางวันทุกอย่างดูเงียบสงบไปหมด เธอรู้สึกว่าผู้คนในหมู่บ้าน คงออกไปทำงาน กันหมด พอตกกลางคืน จึงมีเสียงครึกครื้นขึ้นมาบ้าง ตอนหัวค่ำ นาค ติดประกาศรับสมัครแม่บ้านไว้ที่รั้วบ้าน ไม่นาน มีหญิงวัยกลางคน ชื่อ ปรางค์ทิพย์ มาสมัคร นาค จึงรับไว้เป็นแม่บ้าน และบอกภารกิจที่จะต้องทำ

 

นาค บอกสาเหตุที่ต้องปิดม่านหน้าต่างประตูให้มิดชิด เพราะทั้งเธอและลูก เป็นโรคแพ้แสง อนุญาต ให้ใช้หลอดไฟหรี่หรือแสงจากเทียนไขเท่านั้น และห้ามเปิดม่านหน้าต่างไว้เด็ดขาด โดยเฉพาะกลางวัน งานบ้านทุกอย่าง เช่น ซื้อของ ทำอาหาร ซักผ้า นาค ต้องพึ่งพา แม่ปรางค์ ทุกเรื่อง ทำให้เธอรู้สึก สะดวกสบายขึ้น

 

กลางวัน มีเด็กสองคน แอบมาเล่นที่ข้างบ้าน เอาก้อนหินปาใส่หน้าต่าง แม่ปรางค์ จึงรูดม่านหน้าต่าง ออกดู เด็กเห็นเข้า ก็ตกใจวิ่งหนีไป ที่เห็นม่านหน้าต่างเปิด แม่ปรางค์จึงถูกดุอย่างรุนแรง ว่าอย่าเปิดม่านหน้าต่าง ขณะที่เธอและลูกยังอยู่ในบ้าน เสียงดุ ทำให้แม่ปรางค์รู้สึกกลัว

 

ไม่กี่วันถัดมา นาค ทราบข่าวว่า หน่วยแพทย์ทหารไทยที่ไปทำงานที่จีน ถูกเรียกตัวกลับ นาค ดีใจที่จะได้พบหน้าสามี

 

ที่สนามบิน เวลาทุ่มตรง มีขบวนแห่รับศพเหล่าทหารไทย มาฆ เดินลงจากเครื่องบิน มองไปที่ขบวนแห่ คิดว่าเขาโชคดีที่รอดชีวิตกลับไปหาลูกและเมีย

 

มาฆ ตรงไปขึ้นรถแท็กซี่ คนขับแท็กซี่กำลังโทรศัพท์ และถูกเรียกให้ไปรับผู้โดยสารที่หมู่บ้านชลประภา ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกัน มาฆ จึงคว้ากระเป๋าขึ้นรถ รถเคลื่อนออกจากอาคารผู้โดยสารขาออก มุ่งไปทาง เขตพระโขนง

 

รถแล่นสู่ถนนหลักของหมู่บ้านชลประภา ถึงหน้าบ้านหลังหนึ่ง มีแมวดำวิ่งตัดผ่าน รถเบรคกระทันหัน ไปชนกับฟุตบาท รถเสียหายเล็กน้อย คนขับแท็กซี่โกรธมาก ขณะนั้น มาฆ มองเห็นป้ายชื่อบ้าน เป็นชื่อของ นาค จึงลงจากรถ และทิ้งเงินค่าโดยสาร ไว้ที่เบาะหลัง จากนั้น รถแท็กซี่ก็วิ่งออกไป

 

คืนนี้ ช่างเป็นคืนที่มีความสุขที่สุดของครอบครัว มาฆ และ นาค ต่างชื่นชมลูกชายของตน เกือบค่อนคืน

 

รุ่งเช้า ผ้าอ้อมหมดพอดี มาฆ จึงขับรถออกไปซื้อที่ปากซอย เขารู้สึกแปลกใจที่หมู่บ้านนี้ ผู้คนตอนกลางวันหายไปไหนกันหมด เขาขับรถออกไปเกือบถึงปากซอย พบร้านขายของสะดวกซื้อ จึงจอดรถ เปิดประตูเข้าร้านไป ที่เคาน์เตอร์คิดเงิน พนักงานขาย กำลังก้มๆ เงยๆ เก็บของหล่น แต่มาฆไม่เห็น เขาคิดว่าเจ้าของร้านไม่อยู่ มาฆ เข้าไปเลือกสินค้าที่ชั้นวางของ วางเงินที่เคานเตอร์ เงินนั้นหายวับไป เขารู้สึกตกใจ ว่าในร้านมีผีหลอกกลางวัน

 

อีกสองวันถัดมา ค่ำวันนั้น นาค สังเกตเห็นอาการเฉื่อยชาของสามี แต่กลับโทรศัพท์บ่อยขึ้น ภาพเก่าๆ ที่ นวล เคยเล่าให้ฟัง ก็ผุดขึ้นมาเต็มหัว ทั้งสองมีปากเสียงกัน มาฆ โกรธเมีย ที่ไม่เข้าใจ จึงขับรถออกจากบ้านไปในตอนใกล้ค่ำโดย นาค ก็ไม่รู้สาเหตุ ปล่อยให้เธอจินตนาการไปเอง แน่ละ เธอคิดว่า มาฆ ต้องไปหา ศิ แน่นอน พวกเขาคงนัดไปนอนด้วยกันที่ไหนสักแห่ง

 

เป็นจริงดังที่ นาค คิด มาฆ ขับรถตรงไปยังโรงพยาบาล ที่ศิทำงานอยู่

 

[climax]

ที่หน้าบ้านตอนทุ่มตรง พลโทยุทธ ถือหนังสือสำคัญมาแจ้งข่าวการตายของ มาฆ ให้นาค รับรู้ เธอรับอารมณ์ไม่ถูก ทั้งแค้นใจ ทั้งประหลาดใจ ทั้งโกรธ หาว่าท่านนายพลโกหก. มาฆ เพิ่งขับรถออกจากบ้านไปเมื่อตอนหัวค่ำ เขาจะตายได้อย่างไร พลโทยุทธ จึงยื่นหนังสือให้ นาค เธอรับมันไว้โดยไม่ดูด้วยซ้ำ เพราะอยู่ในภาวะที่รับเหตุการณ์ร้ายๆ ยังไม่ได้ ท่านนายพลเห็นว่าเสร็จกิจแล้ว จึงลากลับ

 

มาฆ เดินตรงเข้าไปในอาคารโรงพยาบาล เห็น ศิ กำลังพูดคุยกับหมอ ใกล้กับเตียงเก็บศพคนไข้รายหนึ่ง ในห้องพิสูจน์ศพ เสียงหมอถกเถียงกัน ถึงความผิดพลาดการผ่าตัดครั้งนั้น

 

เพื่อให้หายข้องใจ นาค จึงคว้าโทรศัพท์ โทรหา มาฆ ทันที

 

องก์ 3

หมอผ่าคลอด กับ ศิ มาพิสูจน์ศพของนาค เกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิต มาฆ มองเห็นศพที่นอนอยู่บนเตียง และห่อผ้าที่วางอยู่ใกล้ๆ เห็นป้ายชื่อ และใบหน้าผู้ตาย ซึ่งก็คือ นาค เมียรักนั่นเอง มาฆ แอบได้ยิน ศิ พูดว่า ขอให้วิญญาณของนาคกับมาฆ ไปสู่สุขคติ

 

มาฆ รู้สึกตกใจมาก และสับสนในสถานภาพของตน เป็นเวลาเดียวกับที่มีเสียงโทรศัพท์เข้า เขาจึงรับสาย เสียงนาคร้องไห้ สะอึกสะอื้นเชิงขอโทษ ทำให้น้ำตาของ มาฆ ไหลพรั่งพรูออกมา นั่นคงเป็นเสียงของวิญญาณรักของ นาค เขาเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง ที่ต้องมาเสียเมียและลูกไปอย่างไม่คาดฝัน เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไปว่า ตลอดสามวัน ที่เขาอยู่ในบ้านกับนาคและลูก นั่นเป็นเพียงภาพของวิญญาณคนรักเท่านั้น

 

เมื่อสายตาของ ศิ สบกับสายตาของเขา ก็ยิ่งสร้างความปวดร้าวและสับสนให้กับเขามากยิ่งขึ้น

 

นาค ยังคงร้องไห้รำพันรำถึงถึงความรักในอดีตกับ มาฆ ไม่หยุดหย่อน เสียงจากทีวีออกข่าว การเสียชีวิตของแพทย์และทหารไทย ที่ส่งไปทำงานในสนามรบ มีรายชื่อของ พลโทยุทธ และ ร้อยเอกมาฆวัตร อยู่ด้วย นาค จึงเปิดหนังสือที่พลโทธยุทธ นำมาส่งให้ ตราประทับบนหนังสือ มันคือวันเวลาก่อนหน้านี้ 9 วัน น้ำตาก็ไหลพรั่งพรู รู้สึกสับสนกับสภาพของตนเองและลูก ทำให้เธอจินตนาการภาพของเหตุการณ์ ที่สนามบิน ขบวนแห่รับศพ มีศพของ พลโทยุทธ และศพของมาฆ อยู่ในขบวนแห่นั้นด้วย

 

งานศพที่วัดแห่งหนึ่ง โรงศพถูกตั้งคู่ มีภาพถ่ายของ นาค และ มาฆ วางคู่กัน ทั้งเพื่อนร่วมงานและญาติผู้ตาย มาร่วมงานอย่างหนาตา

 

เด็กสองคน แอบมาเล่นที่หน้าต่างบ้านของ มาฆ เห็นม่านหน้าต่าง เปิดได้เอง ก็รู้สึกตกใจ ว่าถูกผีหลอกกลางวัน จึงพากันวิ่งข้ามรั้วไปอีกบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ถัดไป และแอบเข้าไปในบ้าน ด้วยความกลัว แต่สถานที่ ที่เด็กสองคนนั่นยืนอยู่ ข้างหลังเป็นกรอบรูปถ่ายของหญิงเจ้าของบ้าน หน้าตาเหมือน แม่ปรางค์

 

เด็กสองคนตกใจตะโกนร้องลั่น เมื่อคนในรูปถ่าย ยื่นหน้าออกมาทักทาย.

 

จบ.

 

 

 

ผู้ประพันธ์ - สู่ดิน ชาวหินฟ้า, 0650387931

ภาพยนตร์เรื่องนี้ มีบท screenplay แล้ว โปรดติดต่อผู้เขียน.

 

 

 

  thinking focus new idea today
คำคม คำคิด แง่คิด ชีวิตดี
 
 


igood media copyright
 
SUDIN CHAOHINFA, igoodmedia.net : Administration and Producer
Copyright © 2010-2018 intelligence good media homeschool.
All rights reserved. me@igoodmedia.net