หน้าแรก - ชุมชน คนคิดดีวรรณกรรม - วิชาการ - บทความ เรื่องสั้น ร้อยกรอง เพลงภาพยนตร์ - บทภาพยนตร์ ภาพยนตร์ตัวอย่าง วิดีโอ มิวสิควิดีโอ
นิเทศศาสตร์ - วิชาเรียน บรรยาย ตำรา เอกสารการเรียน สื่อการเรียน ถาม ตอบ

 

ภาคที่ 2
ฝ่าอุปสรรค เพื่อรักและอิสรภาพ

บทที่ 12  นครพันธุรัฐ เมืองคนทาส

ตอนที่ 40

เชลย

ตอนที่แล้ว ... ตอนที่ 39/105

 

เรือของพวกเด็กๆ มุ่งไปทางทิศตะวันตก แบบช้าๆ ด้วยกำลังของใบพัดจากแบตเตอรี่ ที่เหลืออยู่อย่างจำกัด. ผ่านไปราว 7 วัน ก็ยังไม่เห็นฝั่ง. กำลังใบพัดของมัน ก็เริ่มช้าลง. แสงกระพริบจากหลอดไฟสีเขียว ที่อยู่ด้านขวาของแผงควบคุม ก็เริ่มกระพริบถี่ขึ้น สุดสาคร ขยับตัว.

 

“งานเข้าแล้วซิ … เราจะขึ้นไปข้างบน ดูว่า จะปักเสากระโดงเรือยังไง” สุดสาคร เอ่ยบอกเพื่อนๆ “ใครจะไปมั่ง?”

 

สุดสาคร กับ สังข์ ขึ้นไปข้างบน ตอนนี้เรียกว่า หลังคาเรือ. ลมพัดเอื่อยๆ ไม่แรงนัก คลื่นทะเลก็ไม่สูง, บรรยากาศท้องฟ้าขมุกขมัว ทัศนวิสัยวันนี้ไม่ดีเลย. สังข์ เอากล้องทางไกล ส่องออกไป, คงมองไปได้ไกล ไม่เกิน 200 เมตร. สักครู่ สินสมุทร ก็ตามขึ้นมา เรือแล่นช้าลงมาก เขาบอก.

 

“มันน่าจะหมดแรงแล้ว”

 

สังข์ หยิบเอาแท่งโลหะนำโชค จากกระเป๋าขึ้นมาดู ไม่มีแสงจากหลอดไฟนั่นแล้ว, มันดับสนิท. มันก็แค่วัตถุ คงจะไม่มีพลังอำนาจวิเศษณ์ ดลบันดาลอะไรให้ได้หรอก แต่เขาก็ยังไม่ลืมคำขอร้องของ เคน ที่จะต้องเก็บไว้กับตัว. หรือว่า เคน รู้อนาคต ว่าสิ่งนี้จะให้โชคแก่เขา ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง. สังข์ เก็บมันไว้ที่เดิม ในกระเป๋า, เหตุผลที่แย่ที่สุด ที่จำเป็นต้องเก็บไว้ คือ เป็นของที่ระลึก.

 

สังข์ คิดอะไรเพลินๆ ได้ไม่นาน ก็มีเหตุการณ์ประหลาด เกิดขึ้น. เด็กๆ ได้เจอะอะไรที่ตื่นเต้นอีกแล้ว, หลังจากนั่งนอนอยู่ในเรือเหล็ก มานานหลายวัน. บริเวณนั้น ทะเลถูกแบ่งออกเป็น 2 ซีก ด้วยแสงสว่าง ที่ส่องเป็นม่าน มาจากท้องฟ้า ทำมุม 90 องศา ทะลุผ่านบรรยากาศขมุกขมัว ตรงไปที่พื้นทะเล เป็นทางยาว จากฟากหนึ่งไปยังอีกฟากหนึ่ง. ปรากฏการณ์นั่น มันอยู่ห่างเรือเหล็กของเขา ไม่มากนัก, เท่าที่ทัศนวิสัยขณะนั้น จะมองเห็นได้. ไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นที่ตรงไหน และไปสิ้นสุดที่ตรงไหน.

 

“พวกเราจำได้ไหม๊?” สังข์ บอก โดยไม่รู้สึกตื่นเต้น “แสงสีรุ้งนี่ มันมาจากฟ้า เราก็เคยเจอกันมาแล้ว ก่อนที่จะเจอพวกโจรสลัด”

“เราจะต้องเจอกับโจรสลัดอีกไหม๊เนี่ย” สุดสาคร คาดเดา “พี่สมุทร เราเลี้ยวกลับไปทางอื่นกันดีกว่าไหม๊ ?”

 

สินสมุทร หยุดคิดพักหนึ่ง ก่อนตอบว่า “คงไม่ เราจะไม่เลี้ยวกลับ ถ้าเรากลับ ก็ไม่มีโอกาสเจอฝั่ง เราจะต้องตรงไปทิศตะวันตก ทะเลจะต้องมีฝั่งที่ใดที่หนึ่งซิน่า จะมีโจรสลัดรึเปล่า เราก็ไม่รู้ อีกอย่างนะ แสงประหลาดที่เราเจอหนก่อน มันอาจจะเป็นประตูทางเข้า คราวนี้อาจจะเป็นประตูทางออกก็ได้”

“จริงง่ะ?”

“เดาเอา”

 

ปรากฏการณ์หนนี้ พวกเขาไม่รู้สึกตื่นเต้น เหมือนครั้งก่อน แต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ว่า สิ่งที่พวกเขาเห็น ซ้ำกันถึงสองครั้ง มันคืออะไร สินสมุทร อาจคาดเดาถูกก็ได้ ในฐานะกัปตันเรือ.

 

เสากระโดงเรือ ถูกสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง อย่างทุลักทุเล, ใบเรือก็ใช้ของเก่า มันขาดผุผังไปก็มาก แต่ก็ดีกว่าไม่มี. อย่างน้อยก็บังคับเรือ ให้เคลื่อนไปทางทิศตะวันตก ได้้เร็วกว่าปล่อยให้มันลอยไปตามกระแสน้ำ ตามลำพัง. เอื้อย รายงานเพื่อนๆ ว่า อาหารและน้ำจืด มีมากพอ ที่จะยังชีพอยู่ในเรือลำนี้ได้. สินสมุทร ให้กำลังเพื่อนอีกว่า ไม่ต้องกลัวเรื่องพายุและลูกคลื่น เพราะมันก็คือเรือดำน้ำดีๆ นี่เอง เพียงแต่ว่า มีขนาดเล็กกว่า. และอีกอย่าง พวกเขา มีเทียนไขจากน้ำมันมะพร้าว คอยให้แสงสว่างได้อีกนาน.

 

เรือเหล็ก แม้ว่าจะลอยน้ำได้ แต่เมื่อต้องบรรทุกลูกเรือ 5 คน ก็สร้างภาระในการลอยตัวให้ไม่น้อย ทำให้ส่วนที่ลอยเหนือพื้นน้ำ ไม่มากพอที่จะทำให้ ทุกคนมองเห็นพื้นผิวทะเล ผ่านกระจกหน้าปัทม์ได้มากนัก. วันไหนทะเลมีคลื่นสูง มันก็จะโยกโอนเอนมากหน่อย โชคดีที่ไม่มีใครเมาคลื่น.

 

ช่วงคลื่นลมสงบ จะผลัดแบ่งกัน มานั่งบนหลังของเรือ เพราะนั่งได้เพียง 3 คนก็แน่นแล้ว. เวลานั่ง ต้องเอาปลายเชือกด้านหนึ่งผูกกับเอว และอีกด้านหนึ่งผูกกับชิ้นส่วนบนของเรือ, ไม่อย่างนั้น มีหวังได้ลงไปลอยในน้ำทะเล. เหตุผลที่พากันมานั่งบนนี้ ก็เพราะข้างล่างค่อนข้างมืด และอึดอัด แสงไฟฟ้าก็ไม่มีแล้ว. เครื่องยนต์กลไกต่างๆ ตายสนิท ทำอะไรไม่ได้เลย. และที่สำคัญ คือ เผื่อมีเรือเดินสมุทรแล่นผ่านมา จะได้โบกสัญญาณขอความช่วยเหลือได้ถนัด.

 

3 วันต่อมา เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง คลื่นทะเลสูง โยกเรือให้โยนโอนเอนไปตามแรงคลื่น จนน่าสะอิดสะเอียน. แม้อากาศข้างล่างจะน้อย พวกเขาจำเป็นต้องมานั่งอัดกัน อยู่ข้างใน. และเพื่อไม่ให้เสียพลังงาน ไปมากกว่านี้ ทุกคนจึงนอนพักเอาแรง ภาวนาว่า ขอให้ผ่านคืนนี้ไปให้ได้.

 

ขึ้นชื่อว่าทะเล เป็นสิ่งที่คาดเดายากที่สุด ไม่มีอำนาจ อิทธิพลใด ที่จะบันดาล หรือกำหนดให้ทะเล เป็นไปตามที่ต้องการ. เวลา ทิศทาง ความเวิ้งว้าง ล้วนเป็นปัจจัยผันแปร ที่ทำให้ชะตาชีวิต ที่ผูกติดกับการผจญภัยทางทะเล เป็นสิ่งที่คาดเดายากที่สุด. ไม่อาจบอกได้ว่า ชะตากรรม ของผู้ที่อยู่กลางทะเล จะดีหรือร้าย จะตายหรือเป็น. ความไม่แน่นอนของทะเล อาจต้องยอมแพ้ ให้แก่หัวใจนักสู้ ผู้ภักดีต่อรักแท้ ผู้ที่ไม่เคยเกรงกลัวอุปสรรค และผู้ที่ไม่สิ้นหวัง.

 

เช้าตรู่ เรือถูกน้ำทะเลพัดมาเกยตื้น ที่ชายฝั่งแห่งหนึ่ง. สินสมุทร รู้สึกว่า ตลอดคืนที่ผ่านมา ตัวเองนอน อยู่บนสิ่งปลูกสร้างอะไรสักอย่าง ที่อยู่นิ่งๆ, เข้าใจว่า เรือเหล็กต้องต้องเกยหินโสโครก ที่ไหนสักแห่ง. เขารู้สึกตัวก่อนใครๆ ลุกขึ้น ออกไปดู ว่ามีอะไรอยู่ข้างนอก.

ทันทีที่เปิดประตูออกไป สินสมุทร ถึงกับผงะ เมื่อสัมผัสกับอากาศหนาวเย็น, หมอกลงจัด ทัศนวิสัยแย่มากๆ. เลยทำให้บอกไม่ได้ว่า ตรงที่นี้ อยู่ส่วนไหนของทะเล. เขาพยายามเพ่งสายตา ฝ่าม่านหมอกไปรอบๆ ซึ่งมีทัศนวิสัยทัศน์ไกลอย่างมาก ไม่เกิน 50 เมตร.

 

อะไรกันนั่น! เขาแทบไม่เชื่อสายตาของตัวเอง. สินสมุทร ดีใจมาก ที่เห็นชายฝั่ง. ที่แท้เรือของพวกเขา มาเกยตื้นที่นี่นั่นเอง. เขารีบลงไปปลุกเพื่อนๆ.

 

“สังข์ สาคร เอื้อย โสนน้อย เราเจอฝั่งแล้ว”

คำว่าเจอฝั่งแล้ว กลายเป็นนกหวีดไร้เสียง ปลุกให้ทุกคนที่เหลือ รีบลุกขึ้นมาทันที. แผ่นดินคือสวรรค์ ที่ทุกคนต้องไปให้ถึง ภาพแผ่นดิน ผุดขึ้นมาในหัวทันที. เด็กๆ พากันขึ้นมาข้างบน, ต้องผงะถอยหลัง เมื่อเจอกับอากาศเย็นยะเยือก.

 

“เราลืมบอกไปว่า ข้างบนนี่ เย็นเหมือนน้ำแข็งเลย” สินสมุทร พูดขณะมีอาการหนาวสั่นสะท้านไปทั้งตัว.

 

ทุกคนจึงพากันกลับเข้าไปในเรือเหมือนเดิม หลบความหนาวข้างนอก, ประชุมวางแผน ว่าจะต้องเตรียมอะไร เมื่อขึ้นบก. บนฝั่งนั่น พวกเขาไม่รู้อะไรเลย ว่าที่นี่คือที่ไหน เป็นเกาะหรือแผ่นดินใหญ่. พวกเขาอาจจะมีโชค พบคนใจดี มีอาหารและน้ำกิน ให้ที่พัก ได้พาหนะเดินทางต่อไป แต่ถ้าโชคร้าย อาจจะเจอโจร คนร้าย หรือไม่ก็สัตว์ประหลาด เหมือนที่เคยเจอกันมา.

 

“เรา สังข์ แล้วก็ สาคร จะขึ้นไปดูบนฝั่งว่ามีอะไรมั่ง ตอนนี้เราอย่าเพิ่งไว้ใจอะไรง่ายๆ” สินสมุทร บอกเพื่อนๆ.

“จะให้ทำยังไง กับเจ้าเรือเหล็กนี่?” เอื้อย ขอความเห็น.

“ที่จริงมันก็ไม่มีประโยชน์แล้วละ” สังข์ แนะนำ “เอาอย่างงี้ดีกว่า พวกเราเก็บข้าวของสำคัญติดตัว พร้อมจะไปต่อดีไหม๊ เพียงแต่ให้พวกผู้หญิงรออยู่ในนี้ก่อน ... เอื้อย โสนน้อย เราไปไม่นานหรอก”

“สังข์ ระวังตัวดีๆ นะ” เอื้อย เอ่ยคำสั่งเสีย ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน “แล้วก็ สมุทร สาคร ด้วย”

 

หลังจากหาเครื่องกันหนาวคลุมร่างได้แล้ว สินสมุทร สังข์ และ สุดสาคร พากันเดินไปตามหินโสโครก จนถึงฝั่งที่เป็นแผ่นดิน. พวกเขาพากันปีนขึ้นไปบนกองหิน ที่อยู่ริมถนน แล้วหลบซ่อนตัว เพื่อดูสถานการณ์.

 

บรรยากาศบริเวณรอบชายฝั่ง มีหมอกหนากว่าข้างบนที่เป็นแผ่นดิน, แต่ก็พอสังเกตระยะไกลๆ ได้บ้างลางๆ. ข้างบนนั่น มีตึกเก่า ผุดขึ้นในระยะห่างกัน หลายช่วง. ตึกแต่ละหลัง ไม่สูงมากนัก อย่างมากก็ 3 หรือ 4 ชั้น, ยังมองไม่เห็นผู้คน. ถนนก็ว่างเปล่า ดูคล้ายเมืองร้าง. สองสามนาทีผ่านไป เห็นคนกลุ่มหนึ่งราว 4 – 5 คน เดินอยู่บนถนนอีกฟากหนึ่ง ที่แยกไปทางซ้าย. พวกเขารีบเร่งจะไปไหนกัน ดูท่าทีหลบๆ ซ่อนๆ อะไรบางอย่าง หรือว่ากำลังหนีอะไรมา.

 

สักครู่ เริ่มได้ยินเสียงรถยนต์. ใช่แล้ว มีรถยนต์คันหนึ่ง สีแดงหม่นๆ วิ่งโผล่ออกมาจากมุมตึก เหมือนรถของพวกทหาร วิ่งไล่หลังคนพวกนั้นมา. เสียงปืนจากรถ ดังรัวขึ้น 2 ชุด. เหตุการณ์ระทึกขวัญ อยู่ห่างจากเด็กทั้งสามคน ไม่น่าเกิน 50 เมตร. รถลึกลับคันนั้น วิ่งเข้าไปใกล้กลุ่มคน 5 คน. มีชายแต่งชุดทหาร 4 คน ยืนถือปืนอยู่บนรถ. ผู้ชายชาวบ้านคนหนึ่ง ในกลุ่ม 5 คนนั่น หลบออกมาจากที่ซ่อนในซอกตึก วิ่งหลบรถทหารข้ามถนนไป. เสียงปืนดังขึ้น 3 นัด. เขาล้มคว่ำลงตรงนั้น แน่นิ่งไป.

 

สังข์ สินสมุทร สุดสาคร รู้สึกสลดใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น, ไม่คิดว่า ที่นี่จะมีความรุนแรงถึงเพียงนี้. หนีภัยจากทะเลมาแล้ว น่าจะพบข่าวดีบ้าง หรือเห็นสิ่งที่สวยงาม. การเดินทางขึ้นแผ่นดินครั้งนี้ เท่ากับหนีเสือปะจรเข้ชัดๆ. แต่ว่า ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้ คงต้องรอดูเหตุการณ์ไปก่อน.

 

สิ้นเสียงปืน คนที่ซ่อนอยู่ในซอกตึก ต่างวิ่งหนีไปคนละทิศคนละทาง. รถที่วิ่งไล่ตามมา จอดสนิท. ชายชุดทหาร 2 คน รีบลงจากรถ เข้าไปล็อคคอ กระชากชายอีกคนหนึ่ง ที่กำลังจะหนี แล้วลากตัวไปขึ้นรถ. ท่ามกลางเสียงร้องไห้โวยวาย ของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่กำลังวิ่งเข้าไปฉุดลากชายที่ถูกจับ. เข้าใจว่า คงเป็นสามีของนาง, ชายทหาร จึงจับลากผู้หญิงขึ้นรถไปพร้อมด้วย.

 

สุดสาครขยับตัว เท้าไปเหยียบก้อนหินก้อนหนึ่ง เขยื้อน ขลุก! ๆ ๆ ๆ กลิ้งหล่นลงไปในน้ำ ต๋อม! ชายชุดทหารคนที่ 2 กำลังเตรียมตัวจะขึ้นรถ รู้สึกผิดสังเกต จึงขยับปืน หันปลายกระบอกปืน มาทางเสียงก้อนหินหล่น พร้อมกับเดินเข้ามา ใกล้บริเวณที่ สังข์ และเพื่อนๆ หลบซ่อนตัว. สินสมุทร เอ่ยปากขอความเห็นเพื่อน.

 

“เราจะหนี หรือจะสู้?”

“พวกเขามีปืน แต่เรามีแค่ลูกดอกและมีด สู้เขาไม่ได้หรอก”

“งั้นเราก็หนีซิ!” สุดสาคร ทำท่าคลานหนีออกไปก่อน.

 

สังข์ สินสมุทร กำลังจะขยับตาม สุดสาคร เสียงปืนก็ดังขึ้น 1 นัด. เกิดประกายไฟแลบขึ้น ที่ก้อนหินก้อนหนึ่งข้าง สุดสาคร. นับว่าโชคดี ที่ลูกกระสุนปืนกระดอนไปทางอื่น. ชายชุดทหารนั่น คงเห็นเด็กทั้งสามคนแล้ว. ขืินซ่อนต่อไป ก็ไม่มีประโยชน์, หนีไป ก็ไม่รอด. สินสมุทร ค่อยๆ ยกมือ แล้วยืนขึ้น สังข์ กับ สุดสาคร ก็ลุกขึ้นยืนตาม.

 

“เฮ้ย เด็กนี่หว่า”

 

ชายชุดทหารคนหนึ่ง ที่อยู่บนรถ ตะโกนบอกเพื่อนทหารที่เจอเด็ก พร้อมกับโบกมือ ทำสัญลักษณ์ ให้ไปพาเด็กมาขึ้นรถ. สินสมุทร สังข์ และ สุดสาคร ตกอยู่ในภาวะคับขัน ไม่สามารถโต้ตอบ หรือขัดขืนอะไรได้เลย. ชายชุึดทหารที่เจอเด็ก เอาปลายกระบอกปืน ดุนหลังของสังข์.

“ไป … ไปขึ้นรถ” เขาออกคำสั่ง.

 

สังข์ ยังคงยืนนิ่ง สบตากับเพื่อน ราวกับจะถามว่า พวกเขาสามคน จะแก้ไขสถานการณ์นี้อย่างไร. คนพวกนี้มีปืนยิงเร็ว และเอาจริงเสียด้วย. สินสมุทร รู้สึกเป็นกังวล, ส่ายหน้า เหมือนกับจะบอกว่า ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว, คิดจะสู้หรือคิดจะหนี ดูมืดมนไปหมด. สังข์ ชำเรืองสายตาไปที่ทะเล รู้สึกเป็นห่วงเพื่อนสาวสองคนขึ้นมาทันที.

พวกเขาไม่เคยอยู่ห่างกันเลย แต่คราวนี้ โชคร้ายเหลือเกิน หากถูกจับไปได้ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะได้เจอกันอีกหรือไม่. ไม่มีโอกาสได้ลา ไม่มีโอกาสกลับไปบอกพวกเธอ และที่สำคัญ จะแสดงท่าทีพิรุธ ให้คนพวกนี้รู้ไม่ได้ว่า เอื้อย กับ โสนน้อย ซ่อนอยู่ในเรือ. ได้แต่ภาวนาว่า ให้เธอสองคน หนีเอาตัวรอดไปให้ได้. ส่วนพวกเขาสามคน คงต้องปล่อยไปตามยถากรรม แบบนี้ไปก่อน, ค่อยหาโอกาส หนีกลับไปตามหาเพื่อนทีหลัง. วิธีนี้น่าจะดีที่สุด.

 

สุดสาคร มองหน้าพี่ชายกับ สังข์ ราวกับจะถามว่า จะเสี่ยงสู้แย่งปืน หรือจะไปกับพวกมัน.

 

“ยัง ยังยืนเฉยอยู่อีก” ชายชุดทหารถือปืน พูดย้ำ พร้อมกับขู่ด้วยปลายกระบอกปืน.

“ปล่อยพวกเราไปเถอะน้า พวกเราเป็นห่วงเพื่อน –” สุดสาคร เผลอพลั้งปาก ขอร้องชายชุดทหาร.

 

ซวยแล้วซี! พี่ชาย มองหน้าน้องชาย ขยิบตา ส่งสัญญาณไม่ให้พูดอะไร.

 

“ไอ้หนู แกยังมีเพื่อนอีกเหรอ อยู่ไหนล่ะ?” เขามองซ้าย มองขวา “อย่ามาหาเรื่องน่า คิดจะหนีเรอะ ก็มีแกสามคนนี่แหละ ไป ไป”

 

สังข์ เป่าปาก โล่งอก, โชคดีที่เขาไม่เชื่อ. สังข์ ตัดสินใจยอมเดินตามชายชุดทหารไป อย่างช้าๆ เพื่อหน่วงเวลา ให้พอมีเวลาส่งสายตาอำลาเพื่อน. ขออย่าให้ เอื้อย โสนน้อย ตามพวกเขามาเลย. ถ้าส่งกระแสจิตออกไปได้ อยากจะบอกว่า ให้หนีเอาตัวรอดไป.

 

 

อ่านต่อ ... ตอนที่ 41/105

 

สารบัญ / ตอนที่

ปฐมบท -

แสงแรกของเรื่องราว


ภาคที่ 1: ตามหารัก อุปสรรคไม่ท้อ


บทที่ 1   ต้นเหตุของเรื่องราว

(1) ละครชีวิตแห่งนครวิชัยยศ (ตอนที่ 1/105)
(2) รัก ริษยา อาฆาต อำนาจมัวเมา (ตอนที่ 2/105)
(3) อำลาที่ขมขื่น (ตอนที่ 3/105)

บทที่ 2   สังข์ เอื้อย โสนน้อย

(1) อดีตที่เติบโต (ตอนที่ 4/105)
(2) เพื่อนใหม่ผู้น่าสงสาร (ตอนที่ 5/105)
(3) จินตนาการ นิทาน ความฝัน (ตอนที่ 6/105)

บทที่ 3   วันสังหาร

(1) ชีวิตที่โหยหา (ตอนที่ 7/105)
(2) พินัยกรรมริษยา (ตอนที่ 8/105)
(3) คำสั่งลับ (ตอนที่ 9/105)

บทที่ 4   ชีวิตใหม่กลางภูผา

(1) ภาระใหม่ของนาเคนทร์ (ตอนที่ 10/105)
(2) ความลี้ลับของป่า (ตอนที่ 11/105)
(3) บทเรียนชีวิต (ตอนที่ 12/105)
(4) เวทกล มนตร์สู้ปีศาจ (ตอนที่ 13/105)
(5) ส่งเด็กกลับบ้าน (ตอนที่ 14/105)

บทที่ 5   ภูติร้ายในป่ามรณะ

(1) ประตูมายาแห่งป่า (ตอนที่ 15/105)
(2) ภาพลวงตา (ตอนที่ 16/105)
(3) กลลวงปีศาจ (ตอนที่ 17/105)
(4) หุบผาหมอก (ตอนที่ 18/105)

บทที่ 6   ประตูเวลาที่เรือนปีศาจ

(1) การมาเยือน ของมนุษย์นอกจักรวาล (ตอนที่ 19/105)
(2) ประตูเวลา ของพวกเอเลี่ยน (ตอนที่ 20/105)

บทที่ 7   หนอนทะเลทราย

(1) สู่ทะเลทราย (ตอนที่ 21/105)
(2) หนอนยักษ์ มฤตยูใต้ดิน (ตอนที่ 22/105)

บทที่ 8   หลุมดำดูดเวลา และการตามล่าของมนุษย์นอกจักรวาล

(1) หมู่บ้านไร้เวลา (ตอนที่ 23/105)
(2) จุดจบของพวกเอเลี่ยน (ตอนที่ 24/105)

บทที่ 9   พบเพื่อนใหม่

(1) สองพี่น้องชาวเล (ตอนที่ 25/105)
(2) ปริศนาเฒ่าทะเล (ตอนที่ 26/105)
(3) ความลับ (ตอนที่ 27/105)
(4) แผนเดินทาง (ตอนที่ 28/105)
(5) บทเรียนบนเรือรบ (ตอนที่ 29/105)

บทที่ 10    ผจญภัยกลางมหาสมุทร

(1) เขตย้อนเวลา (ตอนที่ 30/105)
(2) บนเรือโจรสลัด (ตอนที่ 31/105)
(3) ผีเสื้อสมุทร และหมึกยักษ์ (ตอนที่ 32/105)
(4) เกาะร้าง (ตอนที่ 33/105)
(5) นิมิตแห่งตำนานสายฟ้าอสูร (ตอนที่ 34/105)

บทที่ 11   ปาฏิหาริย์ของเทพแห่งลิง

(1) อาวุธมีเจ้าของ (ตอนที่ 35/105)
(2) ปาฏิหาริย์ลิงเผือก (ตอนที่ 36/105)
(3) ปริศนาคำทำนาย (ตอนที่ 37/105)
(4) อากาศยานช่วยชีพ (ตอนที่ 38/105)
(5) อวสานเกาะร้าง (ตอนที่ 39/105)

 

ภาคที่ 2: ฝ่าอุปสรรค เพื่อรักและอิสรภาพ


บทที่ 12   นครพันธุรัฐ เมืองคนทาส

(1) เชลย (ตอนที่ 40/105)
(2) ทาสใหม่ (ตอนที่ 41/105)
(3) นายหญิง เจ้าแห่งนครพันธุรัฐ (ตอนที่ 42/105)
(4) สถานภาพใหม่ของสังข์ (ตอนที่ 43/105)
(5) ความลับของนาเคนทร์ (ตอนที่ 44/105)

บทที่ 13   เทคโนโลยีล่องหน

(1) ห้องลับของนายหญิง (ตอนที่ 45/105)
(2) นวัตกรรมการอำพราง (ตอนที่ 46/105)
(3) เสน่ห์แห่งอำนาจ (ตอนที่ 47/105)
(4) ความลับที่ต่อรองกันได้ (ตอนที่ 48/105)

บทที่ 14   แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 1)

(1) แผนหลบหนี (ตอนที่ 49/105)
(2) ประตูแห่งอิสรภาพ (ตอนที่ 50/105)
(3) หนี (ตอนที่ 51/105)

บทที่ 15   เส้นทางที่พลัดพราก

(1) หมู่บ้านมนุษย์กินคน (ตอนที่ 52/105)
(2) พลายงาม เพื่อนร่วมทางคนใหม่ (ตอนที่ 53/105)
(3) นางพิม (ตอนที่ 54/105)
(4) เปลี่ยนร่างอำพรางหนี (ตอนที่ 55/105)

บทที่ 16   เมืองกาญจนา

(1) วัดส้ม เมืองกาญจนา (ตอนที่ 56/105)
(2) ธัมมะกับชีวิต (ตอนที่ 57/105)
(3) ไปพบย่าทอง (ตอนที่ 58/105)

บทที่ 17   บ้านของย่าทอง

(1) สายสัมพันธ์ย่าหลาน (ตอนที่ 59/105)
(2) ความสุขในเรือนทอง (ตอนที่ 60/105)
(3) ความสุข ความพอเพียง (ตอนที่ 61/105)

บทที่ 18   วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน

(1) วัยรัก วัยเรียน (ตอนที่ 62/105)
(2) ความรักที่ก่อตัว (ตอนที่ 63/105)
(3) แสงสีแห่งชนบทยามค่ำคืน (ตอนที่ 64/105)
(4) เรื่องวุ่นวาย ของวัยรุ่น (ตอนที่ 65/105)

บทที่ 19   ความรัก ความหวัง ยังไม่สิ้น

(1) เส้นทางรัก โสนน้อย สร้อยมณี (ตอนที่ 66/105)
(2) บวชพลายงาม (ตอนที่ 67/105)
(3) ลางบอกเหตุ (ตอนที่ 68/105)
(4) ทางรัก ทางธรรม (ตอนที่ 69/105)

บทที่ 20   ตามหาเพื่อน

(1) ก้าวใหม่ของ นครพันธุรัฐ (ตอนที่ 70/105)
(2) รหัสสื่อสาร 213 ที่ยังจำกันได้ (ตอนที่ 71/105)
(3) นักบินฝึกหัด (ตอนที่ 72/105)

บทที่ 21   แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 2)

(1) เปิดฉากหนี (ตอนที่ 73/105)
(2) ปิดฉากทาสนรก (ตอนที่ 74/105)

 

ภาคที่ 3:   รักนิรันดร์ ฝันเป็นจริง


บทที่ 22   เดินทางไกล ไปตามฝัน

(1) สิงห์ดำ (ตอนที่ 75/105)
(2) เมืองแห่งความฝัน (ตอนที่ 76/105)

บทที่ 23   นครรัฐเทพนารา

(1) นรกบนเมืองสวรรค์ (ตอนที่ 77/105)
(2) สวรรค์ในเมืองนรก (ตอนที่ 78/105)
(3) บทเรียนของแพรวา (ตอนที่ 79/105)
(4) งานเลี้ยงที่มีวันเลิกลา (ตอนที่ 80/105)

บทที่ 24   ชีวิตใหม่ ใจกลางมหานคร

(1) แดนคนเถื่อน (ตอนที่ 81/105)
(2) เพื่อนรัก (ตอนที่ 82/105)
(3) แดนคนดี (ตอนที่ 83/105)

บทที่ 25   ชีวิตจัดสรร ณ สันติอรุณ

(1) สวรรค์ลิขิต (ตอนที่ 84/105)
(2) ชีวิตจัดสรร (ตอนที่ 85/105)
(3) วิถีชีวิต วิถีชุมชน (ตอนที่ 86/105)
(4) คุณครูมือใหม่ (ตอนที่ 87/105)

บทที่ 26   สัมผัสแรก สัมผัสรัก

(1) เบื้องหลังของหญิงสาว (ตอนที่ 88/105)
(2) ประสบการณ์ที่มีค่า ของรจนารินี (ตอนที่ 89/105)
(3) ของสำคัญ ที่ต้องหาให้เจอ (ตอนที่ 90/105)

บทที่ 27   สังข์ทอง รจนา

(1) คืนร่างเดิม (ตอนที่ 91/105)
(2) ชีวิตใหม่ (ตอนที่ 92/105)
(3) ความหลัง ความรัก (ตอนที่ 93/105)

บทที่ 28   วิกฤตของนครรัฐ

(1) ปัญหาที่ยังตีบตัน (ตอนที่ 94/105)
(2) ตามหาคำตอบ (ตอนที่ 95/105)
(3) นักเล่านิทาน (ตอนที่ 96/105)

บทที่ 29   กู้วิกฤต

(1) สันติอรุณโมเดล (ตอนที่ 97/105)
(2) แผนกู้วิกฤต (ตอนที่ 98/105)
(3) วิกฤตรัก (ตอนที่ 99/105)

บทที่ 30   ฝันที่เป็นจริง

(1) แต่งกับงาน (ตอนที่ 100/105)
(2) การสังหารท่านผู้นำ (ตอนที่ 101/105)
(3) อำนาจใหม่ (ตอนที่ 102/105)
(4) พ่อแม่บุญธรรม (ตอนที่ 103/105)
(5) ฝันเป็นจริง (ตอนที่ 104/105)

 

ปัจฉิมบท -
งานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกลา (ตอนที่ 105/105 ปัจฉิมบท)

 

เพลง ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์

ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
เฝ้าใฝ่ฝัน ขอให้เป็นจริง
ความรัก ความกตัญญู เหนือกว่าทุกสิ่ง
แนบอกแม่อิง อุ่น ไอ รัก

ฝ่าอันตราย สิ่งเลวร้ายนานา
สู้อาสา แม้ยากยิ่งนัก
ความโหดร้าย ริษยา อ่อนล้าเหนื่อยหนัก
ต้องกล้าหาญหัก อุปสรรค สู้ทน

ภูติป่า อสูรร้าย เหตุการณ์ท้าทายให้สู้
ต้องยืนหยัดอยู่ กอบกู้ หมู่ประชาชน
เพื่อแม่ เพื่อรัก เพื่อความภักดี ต้องทน
ข้าขอผจญ มารร้าย พ่ายแพ้ไป

ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
คืนฝันวันหวัง ยังอยู่ในใจ
ความรัก ความหวัง คือพลังยิ่งใหญ่
โอ้แม่จ๋า แม่อยู่ไหน ลูกเหนื่อยเหลือเกิน.


 

focused thinking

หน้าแรก - ชุมชน คนคิดดีวรรณกรรม - วิชาการ - บทความ เรื่องสั้น ร้อยกรอง เพลงภาพยนตร์ - บทภาพยนตร์ ภาพยนตร์ตัวอย่าง วิดีโอ มิวสิควิดีโอ
นิเทศศาสตร์ - วิชาเรียน บรรยาย ตำรา เอกสารการเรียน สื่อการเรียน ถาม ตอบ

 


igood media copyright
 SUDIN CHAOHINFA, igoodmedia.net : Administration and Producer
Copyright © 2010-2021 intelligence good media homeschool.
All rights reserved. me@igoodmedia.net