ภาคที่ 3 บทที่ 26 สัมผัสแรก สัมผัสรัก ตอนที่ 90 ของสำคัญ ที่ต้องหาให้เจอ
รจนา กับคณะสำรวจ ออกไปเก็บข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง ที่ป่าบึงน้ำเจ้าพระยา. คราวนี้ ไปกันหลายวัน เนื่องจากมีอุปสรรคเรื่องอาหารและที่พัก. รจนา กับเพื่อน อาจต้องเดินทางเข้าออก ระหว่างชุมชนกับป่าบึงน้ำ บ่อยขึ้น.
สิงห์ แนะนำพวกเขาว่า
วันรุ่งขึ้น รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ พาคณะสำรวจป่าบึงน้ำ และผู้นำทาง รวม 5 ชีวิต สู่บึงน้ำเจ้าพระยา. เงาะดำ ยินดีและดีใจ ที่ได้ไปกับคณะสำรวจบึงน้ำ. นี่เป็นโอกาสอีกครั้งหนึ่ง ที่เขาจะค้นหาของสำคัญ ที่บึงน้ำ. เขาหวังว่า อาจจะเจอมัน จมอยู่ที่ไหนสักแห่ง.
เมื่อไปถึง เงาะดำ ช่วยคณะสำรวจ เก็บตัวอย่างพืชน้ำ สาหร่าย สัตว์ และภาวะความเป็นกรดด่างของดิน ในบริเวณนั้น.
เงาะดำ รู้ความจริงว่า รจนา ไม่ใช่นักศึกษาสาวทั่วไป. เธอมีฐานะสูงส่ง เป็นบุตรสาวของผู้ปกครองนครรัฐเทพนารา. และ รจนา ก็รู้เช่นกันว่า เงาะ ก็รู้ฐานะที่แท้จริงของเธอเช่นกัน.
รจนา รู้สึกสบายใจและหวังว่า ความลับระหว่างเธอกับเงาะดำ คงจะไม่รั่วไหลไปถึงท่านหญิงมณทิรา ผู้เป็นแม่ กับท่านประธานนครรัฐ. เพราะถึงอย่างไร เงาะ ก็ไม่สามารถบอกใครๆ ได้.
เงาะดำ อยู่ช่วยงานเก็บตัวอย่างพืชและสัตว์น้ำ อยู่หลายวัน. รจนา สังเกตและรับรู้ว่า เงาะ มีสิ่งพิเศษและความน่าอัศจรรย์หลายๆ เรื่อง ซ่อนอยู่ในตัว. แม้ว่าเขาจะดูขี้เหร่ ผิวดำด้าน ผมหยิก แต่เขากลับมีร่างกายสูงสง่า สัดส่วนเป็นชายชาตินักกีฬา.
รจนา นั่งอมยิ้ม อยู่ตามลำพัง ระหว่างนั่งพักผ่อนที่สะพานริมน้ำหน้าแคมป์ที่พัก, มองดู เงาะ กำลังจับปลา เอามาทำเป็นอาหารค่ำ. และเขาก็มือขึ้นเสียด้วย เหมือนมีมนต์เรียกปลา ว่ายมาให้เขาช้อนจับเอาง่ายๆ.
วันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าปกคลุมด้วยเมฆหนา อีกไม่นานฝนก็คงจะตก. รจนา และเพื่อน จำเป็นต้องพักงานชั่วคราว. ในแคมป์ที่พัก, รจนา ถือโอกาสประชุมสรุปงานไปด้วย. เงาะดำ ถือโอกาสปลีกตัว ไปออกค้นหาสิ่งของสำคัญ.
เขาพายเรือยางออกไปยังจุดหมายที่เคยไป, ไม่นาน ก็ไปถึงบริเวณ ยานยูเอฟวี II ตกลงมา. เขาเปลี่ยนจุดสำรวจ ไปที่บริเวณส่วนหัวของยาน. จุดนี้ยังไม่เคยลงไปดู เพราะน้ำลึกกว่าทุกที่ที่เคยดำลงไปดู.
สังข์ ในร่างของเงาะดำ ก็ฮึดสู้อีกครั้งหนึ่ง, สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ดำลงไปอีกครั้ง. คราวนี้ ลึกและไกลกว่าเดิม, เข้าไปใต้ท้องยานที่จมลงไปในดินโคลน พยายามใช้มือควานหา. ครั้งนี้ เทพยาดา ต้องยอมพ่ายแพ้กับความพยาม ความหวังตั้งใจ และความมุ่งมั่น ของเขา. ยอมบอกที่ซ่อนของกล่องโลหะ. ... นั่น มันอยู่นั่นเอง, อีกนิดเดียวเขาจะคว้ามันได้แล้ว. กล่องนั่น ถูกทับอยู่ใต้คานเหล็กค้ำหลังคาห้องบังคับการของยาน. เงาะดำ พยายามออกแรกผลัก แต่มันไม่เคลื่อนที่เลย. เขาจำเป็นต้องผละขึ้นจากน้ำเสียก่อน ก่อนที่จะสำลักน้ำ. เขาเจอมันแล้ว แต่ยังเอาออกมาไม่ได้ แค่นี้ ก็มีกำลังใจ และมีความหวังขึ้นมาแล้ว.
ฝนตกหนักเหลือเกิน และก็หนาวมากด้วย. เงาะดำ พาร่างที่หนาวสั่นสะท้าน กลับแคมป์ที่พัก. คนที่เป็นห่วงเขามากที่สุด คือ รจนา.
รจนา สังเกต ร่างของเงาะแต่ไกล. ... อะไรกันนี่! ภาพของชายหนุ่มรูปงาม ที่อยู่ในห้วงมโนภาพของเธอ กลับมาอีกครั้งหนึ่ง. เธอรู้สึกงุนงงกับร่างที่เปลี่ยนสลับไปมาของเขา. มันเกิดขึ้นเพียงแค่เสี้ยวนาทีเท่านั้น. ในที่สุดเงาะ ก็คือเป็นเงาะคนเดิม, เขานั่งหนาวสั่นโงนเงนอยู่บนเรือยาง. รจนา คิดว่าคงเกิดอะไรไม่ดีขึ้นกับเขา.
รจนา ร้องตะโกน. ตอนนี้ เพื่อนของเธอ ก็กำลังยุ่งอยู่กับการจัดเอกสารและเก็บตัวอย่างพืชเข้ากล่อง. เธอจึงฝ่าสายฝนออกไปรับเงาะดำ. รจนา พยุงเขาขึ้นจากเรือยาง อะไรกันนั่น! เกิดอะไรขึ้น ที่ผิวหนังบริเวณโหนกแก้ม และแขนของเขา. เหมือนมีหนอนเข้าไปวิ่งอยู่ใต้ผิวนั่น. รจนา อุทานตกใจ ขณะที่ร่างของเขาสั่นสะท้าน. เธอต้องทำอะไร สักอย่าง เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า.
รจนา ยอมมอบไออุ่น ให้กับร่างของเขา. ห้วงเวลาแห่งความอบอุ่น แม้จะเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่กลับยาวนานในความรู้สึกของเขาและเธอ. เงาะ รู้สึกตัว, อาการประหลาดที่เกิดกับเขา เมื่อสักครู่ ก็หายไป. อาจเป็นเพราะได้ไออุ่น จากอ้อมกอดของรจนา.
ตอนนี้ เขาเริ่มรู้สึกตัว, เผยอเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย มองไปที่แผ่นกระดาษ, จรดปลายปากกาลงไป ร่างภาพหนึ่งขึ้นมา. รจนา และ เอื้องทิพย์ ต่างมองหน้ากัน พยายามตีความหมายภาพปริศนา ที่เขาร่างขึ้น. ภาพบนแผ่นกระดาษ คล้ายอากาศยาน แต่มันลอยอยู่บนผิวน้ำ และมีรูปคนนั่งอยู่บนนั้น 5 คน. ไม่ใช่แค่ภาพเดียว, เขาร่างขึ้น อีก 3 ภาพ. ภาพทั้งหมด เมื่อนำมาปะติดปะต่อกัน เล่าเรื่องราวคล้ายๆ กัน ราวกับจะบอกอะไรบางอย่าง. แต่ รจนา ไม่เข้าใจ เอื้ยงทิพย์ เจ นัท ก็ไม่เข้าใจ. แต่เธอก็เก็บภาพนั้นไว้.
วันรุ่งขึ้น คณะสำรวจบึงน้ำ ต้องกลับกันแล้ว แต่อาการไข้ของ เงาะ ยังไม่ลด. รจนา ให้ยากินบรรเทาอาการไปก่อน. สายๆ เก็บถอนอุปกรณ์และที่พัก พากันเดินทางกลับชุมชนสันติอรุณ. สิงห์ดำ ลงไปรับ เงาะดำ เข้าบ้านพัก เตรียมยาให้กิน เพราะอาการไข้ของเขายังไม่หาย.
เธอส่งแผ่นกระดาษ ที่ถูกพับไว้อย่างดี ให้ สิงห์รับไป.
สิงห์ คลี่ภาพออกดู. พิจารณาครู่หนึ่ง, ส่ายหน้า เช่นเดียวกัน.
น้ำเสียงสุดท้ายของ รจนา แสดงความห่วงใยอย่างลึกซึ้ง ซึ่ง สิงห์ดำ สังเกตได้.
หลังจาก รจนา และเพื่อนๆ กลับไปแล้ว, โสนน้อย และ เอื้อย รู้ข่าวว่า เงาะดำ กลับมาจากแคมป์โครงการแล้ว. พวกเธอ ก็รีบมา ตรงเข้าไปดูอาการของเขาทันที. สิงห์ ยื่นแผ่นกระดาษ 3 แผ่นให้ เอื้อย ดู. เอื้อย ถือแผ่นกระดาษนั้นพิจารณาดู ด้วยอาการสั่นเล็กน้อย, มองหน้า เงาะดำ อย่างมีปริศนา ด้วยสายตาที่สับสน. เธอส่ายหน้าเหมือนไม่เชื่อว่า นี่คือความจริง ที่เธอค้นหามาแสนนาน.
โสนน้อย ขอกระดาษแผ่นนั้นมาดูบ้าง. โสนน้อย ก็รู้สึกเช่นเดียวกับเพื่อน. อดีตและเรื่องราว ที่ถูกซ่อนอยู่ในภาพ พากันรื้อฟื้นความทรงจำให้แก่เธอทั้งสองคน. เวลานี้ มีแต่ เอื้อย และ โสนน้อย เท่านั้น ที่ตีความหมายในภาพปริศนานั้นได้.
เอื้อย มีสีหน้าเศร้าสลดลงจนเห็นได้ชัด. จมูกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อๆ เหมือนคนเป็นหวัด. ที่จริง เธอกำลังจะร้องไห้, รู้สึกสับสน กับภาพในกระดาษ และร่างของเงาะ ที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง.
เอื้อย เดินออกไปสูดอากาศที่ริมระเบียง โสนน้อยตามออกไป.
เอื้อย พูดเสียงกระเส่า ยืนยันคำเดิม ทั้งๆ ที่ในหัวใจที่แสนรันทด อยากจะเชื่อในคำปลอบโยนของ โสนน้อย.
โสนน้อย รับสมุดบันทึกเล่มนั้นมา และเปิดดูข้างใน ... อะไรกันนี่! เธอ แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่า นั่นจะเป็นข้อความ ที่เขียนโดยเพื่อนรัก ที่พวกเธอคิดว่า เขาอาจสูญหายไปจากโลกนี้แล้ว. โสนน้อย รู้สึกประหลาดใจมาก เอามือน้อยๆ แตะสัมผัสที่ริมฝีปากของตัวเอง ยื่นสมุดบันทึก ให้เพื่อนดูด้วยตัวเอง.
คงถือเวลา ที่ปริศนาลึกลับเกี่ยวกับบุรุษนิรนาม ผมหยิก ผิวดำ น่าจะถูกเปิดเผยเสียที. เอื้อย ร้องไห้เบาๆ ออกมา เดินกลับเข้าไป ประคองร่างของเงาะดำ เขายังนอนด้วยพิษไข้ไม่ได้สติ และพิจารณาดูใบหน้าเขาอีกครั้ง.
โสนน้อย มีสติดีกว่า จึงเขย่าไหล่ของเพื่อน ให้วางเงาะดำ ลงกับหมอน.
เอื้อย โสนน้อย เล่าเรื่องราวการผจญภัย และความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ สังข์ สินสมุทร สุดสาคร ที่พวกเธอกำลังตามหากันอยู่. หลังจากนั้น ก็พบ พลายงาม และ สิงห์ดำ ซึ่งเป็นคนล่าสุด. ทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ การกลับบ้าน และออกตาหาแม่.
อาการไข้ของสังข์ในร่างเงาะ ทุเลาลงในวันรุ่งขึ้น. แต่เขายังไม่รู้ว่า ตัวตนที่แท้จริงของเขา ถูกเปิดเผยแล้ว. ถ้าเขารู้ตอนนี้ ก็คงจะดีใจมาก.
เอื้อย โสนน้อย และ สิงห์ มานั่งล้อมวงกินข้าวพร้อมหน้ากัน. ความสับสน วิตกกังวล เกี่ยวกับสังข์ มลายหายไปหมดสิ้นแล้ว. เอื้อย มองหน้า สังข์ อย่างไม่ละสายตา คิดว่าจะบอกความจริงกับเขาตอนนี้ ดีหรือไม่. ปัญหาใหญ่ถัดไปก็คือ เพราะสาเหตุอะไร หรืออะไร ที่ทำให้ สังข์ เปลี่ยนแปลงเรือนร่างของตัวเอง ได้ถึงเพียงนี้.
การสนทนาของ สิงห์ โสนน้อย เอื้อย เกี่ยวกับตัวเขา, สังข์ ในร่างของเงาะ ได้ยินไม่ค่อยถนัดนัก. แต่เมื่อ สิงห์ เรียกชื่อเขาว่า สังข์. เขาแทบไม่เชื่อหูของตัวเอง. สังข์ ในร่างของเงาะ ดีใจสุดชีวิต ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ตามแบบฉบับของเงาะ.
เขาหัวเราะอยู่นาน น้ำตาไหลออกมาด้วยความปีติดีใจ. ลุกจากที่นอน ไปจับไม้จับมือกับทุกคน พยายามจะพูดในสิ่งที่อยากพูด แต่ทุกอย่างก็เหมือนเดิม. เขาก็ยังเป็นเงาะใบ้อยู่ดี.
เขารู้สึกสลดใจไปชั่วครู่ แต่ก็ทำใจได้ ยอมรับสภาพตัวตนที่เขาเป็นขณะนี้. โลกส่วนตัวของเขากลับมาแล้ว, แม้ว่า จะกลับมาได้เพียงครึ่งหนึ่ง ก็ตาม. ก่อนหน้านั้น เขาสิ้นหนทางมาตลอด, ตอนนี้ ความท้อแท้ สิ้นหวัง หายไปจนหมดสิ้น. เพื่อนรักยอมรับแล้วว่า เขาคือ สังขวุฒิ ตัวจริง ก็รู้สึกพอใจแล้วระดับหนึ่ง. สังข์ ลุกขึ้นเดินไปที่ระเบียง ชี้ออกไปทางทิศตะวันออก, พูดออกมาด้วยภาษาอึกๆ อักของเขา โดยไม่สนใจว่า จะมีคนรู้เรื่องหรือไม่. สิงห์ดำ ฟังจากน้ำเสียงของเขาแล้ว สังข์ มีความมั่นใจบางอย่าง ต้องการจะไปที่นั่น.
เขาพยักหน้าซ้ำ สองสามครั้งอย่างมั่นใจ และพยายามอธิบายให้เพื่อนๆ เข้าใจ.
เขาลังเลและอึดอัด หันซ้ายหันขวา เหมือนจะบอก ขอร้องให้เพื่อนช่วยทำบางสิ่ง อย่างรีบด่วน. ปฏิกิริยาของเขาตอนนี้ ทุกคนรู้ดีว่า นี่ต้องเป็นเรื่องสำคัญมากๆ. พวกเขาจะต้องรู้ให้ได้ว่า สังข์ ต้องการให้ช่วยทำอะไรกันแน่.
สังข์ เดินเข้าไปในห้อง กลับออกมา พร้อมด้วยแผ่นกระดาษเปล่าและปากกา, วาดรูปอากาศยานลำหนึ่งขึ้นมา เขาใส่รายละเอียดลงไปในภาพ.
สังข์ ระบายรูปเปลวไฟ ทับรูปอากาศยานลำนั้น และก็วาดรูปกล่องเล็กๆ ที่อยู่ในยาน. แล้วก็ขยำรูปที่วาด ชูขึ้นหนือหัว ปล่อยให้มันร่วงหล่นลงพื้น. ชี้ไปที่ป่าบึงน้ำเจ้าพระยา. จากนั้น เขาก็ก้มลงหยิบกระดาษที่ถูกขยำขึ้นมา คลี่มันออกมา จนเห็นรูปกล่องเล็กๆ แล้วก็เอานิ้วจิ้มไปที่รูปกล่องเล็กๆ นั่น.
สังข์ เขียนข้อความ สรุปความต้องการของเขา ให้เพื่อนๆ อ่าน. สิงห์ เข้าใจทุกอย่างกระจ่างชัด, อ้าแขนโอบกอดเพื่อนรัก เป็นการส่งกำลังใจให้เพื่อน.
นักเผชิญโชคทั้งสี่ชีวิต ต่างปลดปล่อยพลังแห่งมิตรภาพ ให้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว พร้อมที่จะร่วมกัน ฟันฝ่าอุปสรรคต่อไป ... เพื่อนแท้ ย่อมไม่ทิ้งกัน. ปฏิบัติการค้นหาของสำคัญ เริ่มขึ้นในบ่ายวันนั้น. เพื่อเพื่อน เพื่อแม่ เพื่อรัก เพื่อความภักดี.
พวกเขาพากันกลับบ้าน ด้วยความปีติยินดี อย่างที่ไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน.
สารบัญ / ตอนที่ ปฐมบท -
บทที่ 2 สังข์ เอื้อย โสนน้อย
บทที่ 3 วันสังหาร
บทที่ 4 ชีวิตใหม่กลางภูผา
บทที่ 5 ภูติร้ายในป่ามรณะ
บทที่ 6 ประตูเวลาที่เรือนปีศาจ
บทที่ 7 หนอนทะเลทราย
บทที่ 8 หลุมดำดูดเวลา และการตามล่าของมนุษย์นอกจักรวาล
บทที่ 9 พบเพื่อนใหม่
บทที่ 10 ผจญภัยกลางมหาสมุทร
บทที่ 11 ปาฏิหาริย์ของเทพแห่งลิง
ภาคที่ 2: ฝ่าอุปสรรค เพื่อรักและอิสรภาพ
บทที่ 13 เทคโนโลยีล่องหน
บทที่ 14 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 1)
บทที่ 15 เส้นทางที่พลัดพราก
บทที่ 16 เมืองกาญจนา
บทที่ 17 บ้านของย่าทอง
บทที่ 18 วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน
บทที่ 19 ความรัก ความหวัง ยังไม่สิ้น
บทที่ 20 ตามหาเพื่อน
บทที่ 21 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 2)
ภาคที่ 3: รักนิรันดร์ ฝันเป็นจริง
บทที่ 23 นครรัฐเทพนารา
บทที่ 24 ชีวิตใหม่ ใจกลางมหานคร
บทที่ 25 ชีวิตจัดสรร ณ สันติอรุณ
บทที่ 26 สัมผัสแรก สัมผัสรัก
บทที่ 27 สังข์ทอง รจนา
บทที่ 28 วิกฤตของนครรัฐ
บทที่ 29 กู้วิกฤต
บทที่ 30 ฝันที่เป็นจริง
ปัจฉิมบท -
เพลง ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
|
|
|