หน้าแรก - ชุมชน คนคิดดีวรรณกรรม - วิชาการ - บทความ เรื่องสั้น ร้อยกรอง เพลงภาพยนตร์ - บทภาพยนตร์ ภาพยนตร์ตัวอย่าง วิดีโอ มิวสิควิดีโอ
นิเทศศาสตร์ - วิชาเรียน บรรยาย ตำรา เอกสารการเรียน สื่อการเรียน ถาม ตอบ

 

ภาคที่ 3
รักนิรันดร์ ฝันเป็นจริง

ปัจฉิมบท

ตอนที่ 105

งานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกลา

ตอนที่แล้ว ... ตอนที่ 105/105

 

ห้วงกาลแห่งเวลา ย่อมเผาผลาญสังขาร ชาติ ชรา มรณะ ของสัตว์ทุกหมู่เหล่า ให้ตกอยู่ในกองทุกข์ วนเวียนสุขปนโศก เป็นวัฏจักรชั่วนิรันดร์. สังคมในภาวะปกติสุข ใช่ว่าจะปราศจากคนร้าย , มันยังคงหลบซ่อน และซ่องสุมกำลัง รอเวลาที่จะออกไปก่อเหตุร้าย เมื่อมันมีโอกาส. ดุจเดียวกับร่างกายของคนเรา ตราบที่ยังมีภูมิคุ้มกันโรค แบคทีเรีย หรือ ไวรัส ก็ไม่อาจคุกคามเราได้. แต่ใช่ว่า มันจะหยุดยอมแพ้ไปตลอด.

 

มีสัจธรรมข้อหนึ่ง ที่เป็นจริงตลอดกาล , ในสังคมมนุษย์ ย่อมประกอบด้วย คนดี คนชั่ว ปะปนกันไป. สังคมใดมีคนดีมาก สังคมนั้น ก็อยู่ในภาวะปกติสุข แต่ถ้า คนดีหยุดทำหน้าที่ ปล่อยให้คนเลว เล่นบทบาทอยู่ฝ่ายเดียว , ย่อมสร้างความทุกข์ เดือดร้อนไปทั่ว. เป็นหน้าที่ของผู้ปกครอง ที่จะขจัดคนเลวออกไป แล้วคืนความสุขให้แก่ประชาชน. และนั่นหมายถึงว่า สงครามระหว่าง ฝ่ายรัฐ กับแกงค์อิทธิพล จะยังไม่ยุติ เพียงแต่มันได้เปลี่ยนรูปและยุทธวิธี.

 

จากการประกาศนโยบาย เศรษฐกิจและสังคม รูปแบบใหม่ มุ่งเน้นคุณภาพชีวิต และรัฐสวัสดิการ ของผู้ปกครองนครรัฐ ทำให้สิ่งเสพติดและอบายมุขในนครรัฐ ลดลงไปเกือบหมด. ส่งผลกระทบต่อ ผู้ประกอบการธุรกิจด้านมืด สารเสพติด ธุรกิจมอมเมา. สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่ง แก่กลุ่มธุรกิจอิทธิพล ที่ยังยึดประโยชน์ จากธุรกิจมอมเมาเหล่านั้น.

 

ข้อนี้ รจนารินี ในฐานะผู้นำรัฐ ย่อมรู้ดี. ความเป็นสตรี มีข้อได้เปรียบบุรุษ ตรงที่สัญชาตญาณ แห่งการระวังภัย มักจะดีกว่าบุรุษเพศ.

ในอีกมุมหนึ่ง ของอาณาจักรอันศิวิไลซ์ , รถเก๋งหรูคันหนึ่ง กำลังวิ่งอยู่บนสะพานแขวน ข้ามแม่น้ำสุวรรณนที.

 

“หมด พังกันหมด คราวนี้” นักธุรกิจผู้หนึ่ง กระแทกอารมณ์ใส่เพื่อน ที่นั่งมาด้วยกัน “นี่มันจะตัดมือตัดตีนกันรึไงวะ ปัดโธ่เอ๊ย!”

“อีนังเมียไม่เท่าไหร่หรอก คนต้นคิดน่ะผัวของมัน”

“แล้วเราจะทำยังไงกันดี”

 

...

 

บ่ายวันหนึ่ง ที่สนามหญ้าหน้าคฤหาสน์ ของประธานนครรัฐ , บ่งบอกความสมดุล ระหว่างศิลปะจัดสรร ประโยชน์ใช้สอย และความงาม , สร้างบรรยากาศร่มรื่น ชวนมองในทุกๆ มุม. พี่เลี้ยงสาว พาเด็กชาย อายุราว 3 ขวบ หน้าตาน่าเอ็นดู วิ่งเล่นที่สนามหญ้าเขียว. บุรุษไปรษณีย์ ได้นำของมาส่ง ที่ประตูรั้ว.

“คุณหนู อยู่นี่ก่อนนะคะ พี่ไปรับของก่อน ประเดี๋ยวมา”

 

พี่เลี้ยงสาว เดินไปที่ประตู ขณะเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าประตู รับกล่องบรรจุภัณฑ์ไปรษณีย์ จากบุรุษไปรษณีย์ ไว้. เขาพิจารณาดู ภายในคงบรรจุสิ่งของ ที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่มันมีน้ำหนักๆ เสียงดัง ติ๊กๆ!ๆ ๆ คล้ายเสียงนาฬิกากำลังเดิน.

 

“จะให้ผมตรวจดูก่อนไหมครับ?” เจ้าหน้าที่ ถาม.

“ไม่ต้องหรอก” เธอยื่นมือรับสิ่งของนั้นแล้ว เดินกลับไปอุ้มเด็กชาย เข้าบ้าน.

 

เจ้าหน้าที่ รู้สึกไม่สบายใจ ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ตนไม่น่ามองข้ามความปลอดภัย. ครั้นจะเรียกขอตรวจพัสดุจาก หญิงพี่เลี้ยงเด็กอีกครั้ง เธอก็ถือกล่องนั้น เข้าไปในบ้านเสียแล้ว ... ตายละ ถ้าในกล่องนั่น! ...

 

“ท่านหญิงขา มีพัสดุไปรษณีย์มาค่า” เธอตะโกน.

“คุณช่วยดูซิ ในนั่นคืออะไร?” เสียงของ รจนารินี ดังมาจากห้องน้ำ.

 

สังขวุฒิ ละจากงานบนโต๊ะทำงาน รับกล่องไปรษณีย์ จากสาวพี่เลี้ยง เขย่าดู ฟังเสียงข้างใน. ขณะที่เธอยื่นใบหน้า ออกมาจากห้องน้ำ รู้สึกตกใจ เมื่อเห็นสามี เขย่ากล่องนั้นซ้ำหลายครั้ง.

“ระวังค่ะ! คุณ”

“ตกใจอะไรกันหนักหนา” สังขวุฒิ พูด “มันก็แค่กล่องไปรษณีย์ ไหนลองแกะดูซิ”

“อย่านะคะ” รจนารินี ยังอยู่ในภาวะ ไม่ไว้วางใจ. เธอรีบก้าวออกมาจากห้องน้ำ ทันที.

“นี่รจ มันจะมีอะไร” เขา แกะกล่องนั้นออกมา “นี่เห็นไหม๊ ... ส่งมาจากนครรัฐนาร์เนีย โอ้ว! อะไรกันเนี่ย”

 

จากความตื่นกลัว กลายเป็นความตื่นเต้น. เมื่อเห็นของที่อยู่ในกล่องนั้น เป็นรถยนต์สีแดงสด คันเล็กๆ มีวิทยุบังคับ. ส่วนที่ดังติ๊กๆ นั่น เป็นเสียงสัญญาณนาฬิกา บอกตัวเลขวันเดือนปี. มันถูกตั้งโปรแกรมไว้ ให้ทำงาน เพื่อให้ทั้งผู้รับ และผู้ส่งรู้ว่า ของจะมาถึงบ้าน ไม่เกินวันเวลา ที่ตรงกับ วันเกิดของหนูน้อย โนอา.

 

“ของขวัญของลูกเรา” รจนารินี เอ่ยขึ้น.

“ใช่ ... เขียนไว้ว่ายังไงน๊า”

สังขวุฒิ หยิบการ์ดใบหนึ่ง ที่ส่งแนบมา , อ่านข้อความ.

“มอบให้เจ้าชายตัวน้อยโนอา จากหัวใจสีแดงของป้า เลดี้โบนีต้า และ เลดี้แองเจลลีน่า วงเล็บ เอื้อย โสนน้อย”

 

ทุกคนแสดงความตื่นเต้นกันยกใหญ่ รวมทั้งพ่อบ้านจรัล และแม่บ้านประไพ ที่อยู่ในบริเวณนั้นด้วย.

 

“มีจดหมายแนบมาด้วย” รจนา หยิบจดหมายนั้นมาอ่าน ... ครู่หนึ่ง.

“ข่าวดี ลูกรัก” รจนารินี พูดกับลูกชาย “เดือนหน้า ป้าโบนีต้ากับป้าเองเจลลีน่า จะมาเยี่ยมเรา ป้าเขาส่งของขวัญมาล่วงหน้าก่อน ลูกดีใจไหม๊?”

 

...

 

1 เดือนถัดมา.

 

ตอนค่ำ ในคืนพระจันทร์ทรงกรด , วันแห่งความสุข หวลกลับมาอีกครั้ง เมื่อ เอื้อย กับ โสนน้อย เดินทางมาเยี่ยมครอบครัวของ สังขวุฒิ กับ รจนารินี. เมื่อพบกันแล้ว คงไม่ต้องได้หลับได้นอนกันละ เพราะมัวชื่นชมหนูน้อย โนอา ที่ทั้งฉลาดและน่ารัก. พร้อมของฝาก อีกมากมาย.

วันถัดมา , หลังพระอาทิตย์ อำลาทิวากาล และพระจันทร์มาเยือน ในราตรี. สองฝั่งของแม่น้ำสุวรรณนที ยังอวดโฉมความงดงามยามค่ำ เหมือนเช่นเคย. จนอดไม่ได้ ที่พวกเขาจะพากัน ออกไปชื่ชมศิลปะยามราตรี ด้วยสายตาของตนเอง.

 

“เราจะออกไปสัมผัสความสวยงามกัน” สังข์ ชวนเพื่อนสาวทั้งสอง เพื่อรำลึกอดีต.

“รจ ไปด้วยกันนะ”

เอื้อย ออกปากชวน แต่ รจนารินี เห็นว่า อยากให้บรรยากาศวันนี้ เป็นวันของพวกเขาจริงๆ. ซึ่งคงจะหาโอกาสดีๆ แบบนี้ได้ยาก.

“ไม่ล่ะจ้ะ ฉันขออยู่ดูแลลูกก็แล้วกัน พวกคุณไปกันเถอะ เที่ยวให้สนุกนะ” เธอ บอก.

 

สังข์ ขับรถพา เอื้อย กับ โสนน้อย ออกเยี่ยมชมมหานครแห่งสวรรค์ สัมผัสภูมิทัศน์อันสวยงาม. ความงดงาม ที่ผสมผสานด้วยศิลปะ เทคโนโลยี และระเบียบวินัยของผู้คน เป็นผลมาจากการบริหารบ้านเมือง ที่ภรรยาและเขา ยึดมั่นอยู่ในคุณธรรมมาตลอด. คืนนี้ช่างเป็นคืนที่สวยงามอะไรเช่นนี้ , พระจันทร์เต็มดวง ลอยเด่นอยู่บนขอบฟ้า ท่ามกลางแสงระยิบระยับของตึกระฟ้า ที่ผุดขึ้นไปทั่วนครรัฐ สาดแสงส่องเป็นเงา ทาบบนสายน้ำ.

 

พวกเขาจอดรถ บนบริเวณที่สูงที่สุด ของสะพานแขวนข้ามแม่น้ำสุวรรณนที แล้วออกมาจากรถ สูดอากาศ สัมผัสทิวทัศน์.

“ไม่คิดเลยนะว่า พวกเราสามคน จะได้มายืนอยู่ที่นี่พร้อมกันอีกครั้ง” สังข์ เอ่ยขึ้น.

“อยากให้สมุทร กับ สาคร ได้เห็นอย่างที่เราเห็นจังเลย” โสนน้อย เอ่ยขึ้นอย่างเศร้าๆ.

“โน่น เห็นดาวสองดวงนั่นไหม๊?” สังข์ ชี้ไปบนท้องฟ้า “เค้าสองคนพี่น้อง อยู่ที่นั่นไง”

“ถ้างั้น เราสามคน ตะโกนบอกเพื่อนของเราดีไหม๊?”

 

เอื้อย เสนอความคิดแบบเด็กๆ แต่ผู้ใหญ่ทั้งสาม เอาจริง , ยกมือป้องปาก แล้วตะโกนขึ้นพร้อมๆ กัน โดยไม่ได้นัดหมาย.

 

“สมุทร สาคร พวกเราอยู่นี่ เห็นไหม๊?”

“เราลองติดต่อกับเคนดู ดีไหม๊ล่ะ? เขาจะได้กลับมาหาเราได้ในตอนนี้”

เอื้อย ออกความเห็น โสนน้อย เห็นด้วย แต่.

“นั่นสิ ... เราจะติดต่อกับเขายังไงดีล่ะ”

“เคนเขาคงไม่มาแล้วละ ... เราไปกันเถอะ” สังข์ ชวนเพื่อนไปต่อ.

 

สังข์ พาเพื่อนสาวทั้งสองคน มาดูความสวยงาม ของลำน้ำสุวรรณนที อีกฝั่งหนึ่ง ก่อนที่จะกลับเข้าคฤหาสน์. เขาขับรถช้าๆ เรียบฝั่งแม่น้ำ ก่อนถึงทางแยกตัวที ที่อยู่ริมท่าน้ำ. ...

 

เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ก็เกิดขึ้น!!

 

รถยนต์บรรทุกเล็กลึกลับ 2 คัน จอดซุ่มรออยู่ในมุมแสงสลัว. ที่คันชนหน้าของทั้ง 2 คัน ถูกดัดแปลงเป็นซี่ฟันแหลม เหมือนปลาฉลาม ยื่นออกมา. เมื่อได้จังหวะ รถของ สังข์ วิ่งมาถึงทางแยกตัวที. รถยนต์ของผู้ประสงค์ร้าย คันที่หนึ่ง พุ่งชนรถของ สังข์ ที่บริเวณด้านข้าง อีกคันหนึ่ง ชนท้ายอย่างแรง จนหมุนคว้าง. คนร้ายไม่ยอมให้รถเป้าหมาย มีโอกาสตั้งตัว. รถคันแรกพุ่งชนซ้ำอีกครั้ง และดันตกลงไปในน้ำ.

 

เหตุการณ์ฆาตกรรมแบบอุกอาจ เกิดขึ้นรวดเร็วมาก. สังข์ ไม่ทันระวังตัว และไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เลย. รถค่อยๆ จมลงในน้ำ. น้ำไหลทะลักเข้าไปในตัวรถอย่างรวดเร็ว.

 

สังข์ พยายามขยับตัวเอง ให้หลุดจากเบาะนั่ง แต่ทำไม่ได้ถนัด เหมือนมีบางสิ่งฉุดไว้. เขาถูกซี่ฟันแหลมของรถคนร้าย ทิ่มทะลุขา เริ่มรู้สึกปวด. รถก็จมดิ่งลึกลงไปทุกขณะ. ประตูรถเสียหายหนัก ถูกชนจนบิดเบี้ยว ไม่สามารถเปิดออกได้ ทั้งสองด้าน. เขารู้สึกเป็นห่วงเพื่อนสาวทั้งสองคน ที่อยู่เบาะหลัง. พวกเธอก็บาดเจ็บคนละไม่น้อย. รถจมดิ่งลึกลงไปเรื่อยๆ พวกเขาเริ่มหมดอากาศหายใจ.

สังข์ ยังรักษาสติได้อยู่. ความเย็นแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ภาพในอดีต ปรากฏขึ้นมาในภวังค์จิตสุดท้าย ... ทุกๆ เหตุการณ์ สถานที่ บุคคล ต่างซ้อนทับสลับเลื่อนไหลมารวมกัน ทั้งเลือนลางและแจ่มชัด จนยากที่จับและจดจำได้ว่า นั่นเกิดขึ้นในห้วงเวลาใด.

 

ใบหน้าของเจน ที่อยู่บนเครื่องบินอีกลำหนึ่ง โบกมือเรียก ในขณะที่เขาก็อยู่ที่เครื่องบินอีกลำหนึ่ง ...

สินสมุทร กับ สุดสาคร เรียกให้เขา รีบออกมาจากใต้ท้องเรือของโจรสลัด ...

เฒ่าทะเล โยนเชือกให้เขา ในระหว่างฝึกซ้อมการต่อสู้กับลมพายุ ...

เคน เอื้อมมือให้เขาจับ หลังจากที่เขากำจัดปีศาจเอเลี่ยนได้แล้ว ที่หมู่บ้านไร้เวลา ...

ร่างของจาอู ถูกปีศาจเอเลี่ยนไฟฟ้า ดูดหายไปต่อหน้าต่อตา ...

 

และแล้วภาพนิมิต ในห้วงกาลสุดท้าย ก็ปรากฏขึ้น. สังข์ มองเห็นร่างของตัวเอง ในขณะเป็นเด็ก ค่อยๆ จมห่างจากพื้นผิวน้ำ ของลำธาร , มองเห็นภาพอันบิดเบี้ยวของ เด็กหญิงเอื้อย กับเด็กหญิงโสนน้อย ผ่านผิวน้ำขึ้นไป. พวกเธอยืนเกาะที่ขอบสะพาน และส่งเสียงเรียกเขา.

“สังข์ ยื่นมือมา ยื่นมือมา ยื่นมือมา ”

เสียงนั้น ยังก้องอยู่ในหู. ภาพเริ่มบิดเบี้ยวมากขึ้น เขาจำได้ว่า. แม่จันทนี วิ่งมาที่ขอบสะพาน หยุดยืนอยู่ระหว่างเอื้อยกับโสนน้อย มองดูเขาด้วยสีหน้าตกตะลึง. แล้วแม่ก็ยื่นมือ มาที่เขา. มือของแม่ใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามาอีก.

“ลูกสังข์ ยื่นมือมา เกาะมือแม่ไว้ ”

ตัวเขา กลับจมลึกลงไปเรื่อยๆ. แต่ภาพของแม่ ก็ยังปรากฏชัดเจน. น้ำในลำธารดูเหมือนจะค่อยๆ ใสและสว่างขึ้น. รอยบิดเบี้ยวของคลื่นน้ำ เริ่มสงบนิ่ง และแล้ว ... ก็บังเกิดดวงไฟสว่างวาบ มาจากผิวน้ำ. ปรากฏภาพนางฟ้า ที่ใจกลางดวงไฟนั้น. นางฟ้ายื่นมือลงมา จับข้อมือของเขาไว้ แล้วดวงไฟกลมสีขาว ก็มีขนาดค่อยๆ ลดส่วนลง กลายเป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า สว่างวาบขึ้นอีกครั้ง แล้วหดตัวหายไป พร้อมกับสติความรู้สึกตัว ก็ดับวูบลง.

 

...

 

สังข์ รู้สึกตัวอีกครั้ง. ดูเหมือนว่า เขากำลังนอนอยู่บนเตียง ที่ไหนสักแห่ง อาจจะเป็นที่โรงพยาบาลหรือที่บ้าน ไม่แน่ใจ.

รู้สึกแสบที่จมูก และมึนที่หัว. ภาพที่เห็น ก็ยังดูมัวๆ เหมือนมองผ่านกระจกใส ที่มีละอองน้ำพ่นใส่. แต่ไม่นาน ภาพที่เห็นก็ค่อยๆ ปรากฏชัดขึ้น ชัดขึ้น ทีละน้อย. คนแรกที่เขาเห็น คือแม่จันทนี. สังข์ จำแม่ได้เสมอ แม้ว่าแม่จะแก่ชรามากแล้ว. แม่พยุงตัวเอง ยืนอยู่ข้างๆ และลูบคลำใบหน้าของเขา อย่างแผ่วเบาและนุ่มนวล. เขารู้สึกได้ว่า มือของแม่ไม่หยาบกร้าน เหมือนเมื่อก่อน และดูอบอุ่นยิ่งกว่าเก่าเสียอีก. ภาพปรากฏชัดขึ้น ด้านหลังถัดไป คือ เอื้อย กับ โสนน้อย ยืนอยู่ข้างแม่จันทนี.

 

อะไรกันนี่! ... เธอสองคนไม่เป็นอะไรเลย. อีกฝั่งหนึ่งของเตียง , รจนา ส่งยิ้ม มองเขาอย่างตื่นเต้น ที่เห็นเขาปลอดภัย ...

 

แต่แล้ว! ?!

 

“เกิดอะไรขึ้นอีกล่ะนี่! ” สังข์ อุทานในใจ กับปรากฏการณ์ ที่แสนสุดประหลาด.

 

ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าทั้งหมด เริ่มเปลี่ยนไป ... ใบหน้าของแม่จันทนี จากหญิงวัยหง่อมชรา ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นใบหน้าของแม่จันทนี ในวัยสาว. และนั่น! เด็กเอื้อย กับ เด็กโสนน้อย ยังยืนอยู่ที่เดิม , แล้วก็ เด็กหญิงหน้าตาน่ารักนั่นเป็นใครกัน. รจนา หายไปไหนแล้ว.

 

สังข์ ยังอยู่ในภาวะตกตลึง. รีบพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง ทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด , รู้สึกสับสน. นี่คือความฝัน หรือความจริงกันแน่.

 

“สังข์ ลุกขึ้นได้แล้ว” โสนน้อย บอก.

“สังข์ไม่เป็นอะไรแล้ว ไชโย๊!” เอื้อย ตะโกน.

“โถ ลูกแม่!” จันทนี โอบกอดลูกไว้ “ลูกได้สติแล้ว”

 

เสียงปลอบประโลมของแม่ ทำให้ความรู้สึกสับสน ค่อยๆ สลายจางหายไป.

“นี่เรา หลับไปนานเท่าไหร่แล้วนี่ วันหนึ่ง เดือนหนึ่ง หรือว่าปีหนึ่ง แต่น่าจะมากกว่านั้น ... นี่เราเป็นอะไรไปเนี่ยะ! แต่ชั่งมันเถอะ แม่ก็อยู่ที่นี่แล้ว ”

 

“แม่ครับ นั่นใคร?”

สังข์ ชี้ไปที่เด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ยืนเกาะอยู่ข้างๆ เตียง ยิ้มมองเขาด้วยแววตาใสซื่อ. เขาก็ยิ่งเพิ่มความประหลาดใจหนักขึ้น เมื่อแม่บอก.

“หนูรจนาจ้ะ เป็นลูกสาวของเพื่อนแม่ เค้าอยู่รอ จะเล่นกับลูกยังไงล่ะจ้ะ”

 

ตอนนี้ สังข์ หายมึนงงสนิทแล้ว. ทอดสายตาออกไปที่หน้าต่าง เห็นเด็กผู้ชาย 2 คน คุยหยอกล้อเล่นกัน ที่สนามหญ้าข้างห้อง. มองจากด้านหลัง พวกเขาดูดี ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย สะอาดดี น่าจะเป็นลูกของคนมีเงิน. และเมื่อเด็กสองคนนั่น หันหน้ามา-

“นี่มันอะไรกันอีกล่ะเนี่ยะ! สมุทร สาคร ยังไม่ตาย พวกเขามาทำอะไรที่นี่ ต้องใช่พวกเขาแน่ๆ ”

 

สังข์ คิดในใจ. แต่เมื่อสบตากับพวกเขาสองคนแล้ว กลับไร้วี่แววของความเป็นเพื่อน. จันทนี เห็นลูกชาย เหม่อมองดูเด็กสองคนข้างนอกอยู่นาน จึงบอกกับลูกว่า

“เด็กสองคนนั่น เป็นนักเรียนเข้าใหม่ และนั่นคือ พ่อกับแม่ของเขา พรุ่งนี้ลูกก็จะมีเพื่อนใหม่เพิ่มอีกสองสามคนแน่ะ”

 

“เอื้อย มาทำอะไรอยู่ที่นี่ ไปกินข้าวได้แล้วลูก จะเย็นแล้วนะ” เสียงเรียก ดังมาจากนอกห้อง.

“นั่น … เสียงแม่ของเอื้อยนี่”

สังข์ รู้สึกแปลกใจหนักขึ้นอีก ที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด.

“โสนน้อย ลูกก็เหมือนกัน”

พ่อของโสนน้อย ยื่นหน้าเข้ามาที่ประตู

“กลับบ้านได้แล้ว สังข์ เขาไม่เป็นอะไรแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาเล่นกันใหม่”

 

หนูรจนา ก็ไปกับแม่ของเธอ คงเหลือ สังข์ กับแม่ตามลำพัง. สังข์ รู้สึกตื่นเต้นดีใจ ที่จะได้พบเพื่อนใหม่ , เพื่อนใหม่ ที่เขาคิดว่าเคยรู้จักกันมาก่อน ในอีกโลกใบหนึ่ง ซึ่งเพิ่งผ่านมาไม่นานมานี้. สังข์ เริ่มรู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น สลัดความสับสนทิ้งไป เพื่อให้ห้วงกาลแห่งเวลา ที่ผ่านมาอย่างยาวนาน ได้รับการบันทึกไว้ในสมอง เป็นนิทานเรื่องยาว ที่เขาไม่มีวันลืมอีกนานแสนนาน. ตอนนี้ สังข์ มั่นใจตัวเองมากขึ้น ที่จะไม่เป็นเด็กงอแง หรือหวาดกลัว ในสิ่งไร้เหตุผล. เขาไม่ต้องตามหาแม่อีกแล้ว ภารกิจสิ้นสุดลงแล้วอย่างแท้จริง ...

 

“แม่คิดว่า จะไม่ได้เห็นหน้าลูกอีกแล้ว โชคดีที่ลูกตกลงไปในน้ำ แล้วมีคนช่วยไว้ได้ทัน ต่อไป อย่าไปเล่นน้ำคนเดียวอีกนะลูก”

 

สังข์โอบกอดแม่ไว้แน่น รู้สึกว่าอ้อมกอดของแม่วันนี้ อบอุ่นมากกว่าทุกครั้ง.

“แม่ครับ ผมรักแม่”

 

จบอย่างสมบูรณ์.

นวนิยายเรื่องนี้ อุทิศให้แก่แม่ทุกคน ในพิภพนี้ – ดิน หิน ฟ้า.

ขอบคุณ ที่กรุณา ติดตามอ่าน จนจบเรื่อง

 

สารบัญ / ตอนที่

ปฐมบท -

แสงแรกของเรื่องราว


ภาคที่ 1: ตามหารัก อุปสรรคไม่ท้อ


บทที่ 1   ต้นเหตุของเรื่องราว

(1) ละครชีวิตแห่งนครวิชัยยศ (ตอนที่ 1/105)
(2) รัก ริษยา อาฆาต อำนาจมัวเมา (ตอนที่ 2/105)
(3) อำลาที่ขมขื่น (ตอนที่ 3/105)

บทที่ 2   สังข์ เอื้อย โสนน้อย

(1) อดีตที่เติบโต (ตอนที่ 4/105)
(2) เพื่อนใหม่ผู้น่าสงสาร (ตอนที่ 5/105)
(3) จินตนาการ นิทาน ความฝัน (ตอนที่ 6/105)

บทที่ 3   วันสังหาร

(1) ชีวิตที่โหยหา (ตอนที่ 7/105)
(2) พินัยกรรมริษยา (ตอนที่ 8/105)
(3) คำสั่งลับ (ตอนที่ 9/105)

บทที่ 4   ชีวิตใหม่กลางภูผา

(1) ภาระใหม่ของนาเคนทร์ (ตอนที่ 10/105)
(2) ความลี้ลับของป่า (ตอนที่ 11/105)
(3) บทเรียนชีวิต (ตอนที่ 12/105)
(4) เวทกล มนตร์สู้ปีศาจ (ตอนที่ 13/105)
(5) ส่งเด็กกลับบ้าน (ตอนที่ 14/105)

บทที่ 5   ภูติร้ายในป่ามรณะ

(1) ประตูมายาแห่งป่า (ตอนที่ 15/105)
(2) ภาพลวงตา (ตอนที่ 16/105)
(3) กลลวงปีศาจ (ตอนที่ 17/105)
(4) หุบผาหมอก (ตอนที่ 18/105)

บทที่ 6   ประตูเวลาที่เรือนปีศาจ

(1) การมาเยือน ของมนุษย์นอกจักรวาล (ตอนที่ 19/105)
(2) ประตูเวลา ของพวกเอเลี่ยน (ตอนที่ 20/105)

บทที่ 7   หนอนทะเลทราย

(1) สู่ทะเลทราย (ตอนที่ 21/105)
(2) หนอนยักษ์ มฤตยูใต้ดิน (ตอนที่ 22/105)

บทที่ 8   หลุมดำดูดเวลา และการตามล่าของมนุษย์นอกจักรวาล

(1) หมู่บ้านไร้เวลา (ตอนที่ 23/105)
(2) จุดจบของพวกเอเลี่ยน (ตอนที่ 24/105)

บทที่ 9   พบเพื่อนใหม่

(1) สองพี่น้องชาวเล (ตอนที่ 25/105)
(2) ปริศนาเฒ่าทะเล (ตอนที่ 26/105)
(3) ความลับ (ตอนที่ 27/105)
(4) แผนเดินทาง (ตอนที่ 28/105)
(5) บทเรียนบนเรือรบ (ตอนที่ 29/105)

บทที่ 10    ผจญภัยกลางมหาสมุทร

(1) เขตย้อนเวลา (ตอนที่ 30/105)
(2) บนเรือโจรสลัด (ตอนที่ 31/105)
(3) ผีเสื้อสมุทร และหมึกยักษ์ (ตอนที่ 32/105)
(4) เกาะร้าง (ตอนที่ 33/105)
(5) นิมิตแห่งตำนานสายฟ้าอสูร (ตอนที่ 34/105)

บทที่ 11   ปาฏิหาริย์ของเทพแห่งลิง

(1) อาวุธมีเจ้าของ (ตอนที่ 35/105)
(2) ปาฏิหาริย์ลิงเผือก (ตอนที่ 36/105)
(3) ปริศนาคำทำนาย (ตอนที่ 37/105)
(4) อากาศยานช่วยชีพ (ตอนที่ 38/105)
(5) อวสานเกาะร้าง (ตอนที่ 39/105)

 

ภาคที่ 2: ฝ่าอุปสรรค เพื่อรักและอิสรภาพ


บทที่ 12   นครพันธุรัฐ เมืองคนทาส

(1) เชลย (ตอนที่ 40/105)
(2) ทาสใหม่ (ตอนที่ 41/105)
(3) นายหญิง เจ้าแห่งนครพันธุรัฐ (ตอนที่ 42/105)
(4) สถานภาพใหม่ของสังข์ (ตอนที่ 43/105)
(5) ความลับของนาเคนทร์ (ตอนที่ 44/105)

บทที่ 13   เทคโนโลยีล่องหน

(1) ห้องลับของนายหญิง (ตอนที่ 45/105)
(2) นวัตกรรมการอำพราง (ตอนที่ 46/105)
(3) เสน่ห์แห่งอำนาจ (ตอนที่ 47/105)
(4) ความลับที่ต่อรองกันได้ (ตอนที่ 48/105)

บทที่ 14   แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 1)

(1) แผนหลบหนี (ตอนที่ 49/105)
(2) ประตูแห่งอิสรภาพ (ตอนที่ 50/105)
(3) หนี (ตอนที่ 51/105)

บทที่ 15   เส้นทางที่พลัดพราก

(1) หมู่บ้านมนุษย์กินคน (ตอนที่ 52/105)
(2) พลายงาม เพื่อนร่วมทางคนใหม่ (ตอนที่ 53/105)
(3) นางพิม (ตอนที่ 54/105)
(4) เปลี่ยนร่างอำพรางหนี (ตอนที่ 55/105)

บทที่ 16   เมืองกาญจนา

(1) วัดส้ม เมืองกาญจนา (ตอนที่ 56/105)
(2) ธัมมะกับชีวิต (ตอนที่ 57/105)
(3) ไปพบย่าทอง (ตอนที่ 58/105)

บทที่ 17   บ้านของย่าทอง

(1) สายสัมพันธ์ย่าหลาน (ตอนที่ 59/105)
(2) ความสุขในเรือนทอง (ตอนที่ 60/105)
(3) ความสุข ความพอเพียง (ตอนที่ 61/105)

บทที่ 18   วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน

(1) วัยรัก วัยเรียน (ตอนที่ 62/105)
(2) ความรักที่ก่อตัว (ตอนที่ 63/105)
(3) แสงสีแห่งชนบทยามค่ำคืน (ตอนที่ 64/105)
(4) เรื่องวุ่นวาย ของวัยรุ่น (ตอนที่ 65/105)

บทที่ 19   ความรัก ความหวัง ยังไม่สิ้น

(1) เส้นทางรัก โสนน้อย สร้อยมณี (ตอนที่ 66/105)
(2) บวชพลายงาม (ตอนที่ 67/105)
(3) ลางบอกเหตุ (ตอนที่ 68/105)
(4) ทางรัก ทางธรรม (ตอนที่ 69/105)

บทที่ 20   ตามหาเพื่อน

(1) ก้าวใหม่ของ นครพันธุรัฐ (ตอนที่ 70/105)
(2) รหัสสื่อสาร 213 ที่ยังจำกันได้ (ตอนที่ 71/105)
(3) นักบินฝึกหัด (ตอนที่ 72/105)

บทที่ 21   แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 2)

(1) เปิดฉากหนี (ตอนที่ 73/105)
(2) ปิดฉากทาสนรก (ตอนที่ 74/105)

 

ภาคที่ 3:   รักนิรันดร์ ฝันเป็นจริง


บทที่ 22   เดินทางไกล ไปตามฝัน

(1) สิงห์ดำ (ตอนที่ 75/105)
(2) เมืองแห่งความฝัน (ตอนที่ 76/105)

บทที่ 23   นครรัฐเทพนารา

(1) นรกบนเมืองสวรรค์ (ตอนที่ 77/105)
(2) สวรรค์ในเมืองนรก (ตอนที่ 78/105)
(3) บทเรียนของแพรวา (ตอนที่ 79/105)
(4) งานเลี้ยงที่มีวันเลิกลา (ตอนที่ 80/105)

บทที่ 24   ชีวิตใหม่ ใจกลางมหานคร

(1) แดนคนเถื่อน (ตอนที่ 81/105)
(2) เพื่อนรัก (ตอนที่ 82/105)
(3) แดนคนดี (ตอนที่ 83/105)

บทที่ 25   ชีวิตจัดสรร ณ สันติอรุณ

(1) สวรรค์ลิขิต (ตอนที่ 84/105)
(2) ชีวิตจัดสรร (ตอนที่ 85/105)
(3) วิถีชีวิต วิถีชุมชน (ตอนที่ 86/105)
(4) คุณครูมือใหม่ (ตอนที่ 87/105)

บทที่ 26   สัมผัสแรก สัมผัสรัก

(1) เบื้องหลังของหญิงสาว (ตอนที่ 88/105)
(2) ประสบการณ์ที่มีค่า ของรจนารินี (ตอนที่ 89/105)
(3) ของสำคัญ ที่ต้องหาให้เจอ (ตอนที่ 90/105)

บทที่ 27   สังข์ทอง รจนา

(1) คืนร่างเดิม (ตอนที่ 91/105)
(2) ชีวิตใหม่ (ตอนที่ 92/105)
(3) ความหลัง ความรัก (ตอนที่ 93/105)

บทที่ 28   วิกฤตของนครรัฐ

(1) ปัญหาที่ยังตีบตัน (ตอนที่ 94/105)
(2) ตามหาคำตอบ (ตอนที่ 95/105)
(3) นักเล่านิทาน (ตอนที่ 96/105)

บทที่ 29   กู้วิกฤต

(1) สันติอรุณโมเดล (ตอนที่ 97/105)
(2) แผนกู้วิกฤต (ตอนที่ 98/105)
(3) วิกฤตรัก (ตอนที่ 99/105)

บทที่ 30   ฝันที่เป็นจริง

(1) แต่งกับงาน (ตอนที่ 100/105)
(2) การสังหารท่านผู้นำ (ตอนที่ 101/105)
(3) อำนาจใหม่ (ตอนที่ 102/105)
(4) พ่อแม่บุญธรรม (ตอนที่ 103/105)
(5) ฝันเป็นจริง (ตอนที่ 104/105)

 

ปัจฉิมบท -
งานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกลา (ตอนที่ 105/105 ปัจฉิมบท)

 

เพลง ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์

ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
เฝ้าใฝ่ฝัน ขอให้เป็นจริง
ความรัก ความกตัญญู เหนือกว่าทุกสิ่ง
แนบอกแม่อิง อุ่น ไอ รัก

ฝ่าอันตราย สิ่งเลวร้ายนานา
สู้อาสา แม้ยากยิ่งนัก
ความโหดร้าย ริษยา อ่อนล้าเหนื่อยหนัก
ต้องกล้าหาญหัก อุปสรรค สู้ทน

ภูติป่า อสูรร้าย เหตุการณ์ท้าทายให้สู้
ต้องยืนหยัดอยู่ กอบกู้ หมู่ประชาชน
เพื่อแม่ เพื่อรัก เพื่อความภักดี ต้องทน
ข้าขอผจญ มารร้าย พ่ายแพ้ไป

ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
คืนฝันวันหวัง ยังอยู่ในใจ
ความรัก ความหวัง คือพลังยิ่งใหญ่
โอ้แม่จ๋า แม่อยู่ไหน ลูกเหนื่อยเหลือเกิน.


 

focused thinking

หน้าแรก - ชุมชน คนคิดดีวรรณกรรม - วิชาการ - บทความ เรื่องสั้น ร้อยกรอง เพลงภาพยนตร์ - บทภาพยนตร์ ภาพยนตร์ตัวอย่าง วิดีโอ มิวสิควิดีโอ
นิเทศศาสตร์ - วิชาเรียน บรรยาย ตำรา เอกสารการเรียน สื่อการเรียน ถาม ตอบ

 


igood media copyright
 SUDIN CHAOHINFA, igoodmedia.net : Administration and Producer
Copyright © 2010-2021 intelligence good media homeschool.
All rights reserved. me@igoodmedia.net