ภาคที่ 3 บทที่ 26 สัมผัสแรก สัมผัสรัก ตอนที่ 89 ประสบการณ์ที่มีค่า ของรจนารินี
นางสาว รจนารินี วงศ์นารา นักศึกษาปีที่ 3 มหาวิทยาลัยแห่งนครรัฐเทพนารา. ปีการศึกษานี้ เธอเลือกวิชาเอกด้านนิเวศน์วิทยา โดยเข้าไปศึกษาและวิจัยร่วมกับเพื่อนๆ ที่สถาบันนิเวศน์ชีวภาพ.
กลุ่มเพื่อนของรจนารินี มีสมาชิก 5 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 3 คน. พวกเขาเลือกศึกษา วิถีชุมชน กับระบบนิเวศน์ป่าบึงน้ำเจ้าพระยา เป็นขอบเขตในการศึกษาวิจัย เพื่อหาทางออก ในการแก้ปัญหาของชุมชนเมืองขนาดใหญ่. ก่อนลงไปปฏิบัติการ ณ พื้นที่จริง, พวกเขาประชุมปรึกษากัน ที่บริเวณหน้าห้องสมุดของมหาวิทยาลัย.
เพื่อนทุกคนในทีมของ รจนา ต่างรู้ดีว่า ท่านประธานนครรัฐ สั่งห้ามไม่ให้บุตรสาวของท่าน ไปยุ่งเกี่ยวกับชุมชนสันติอรุณ ราวกับว่า ที่นี่คือดินแดนต้องห้าม สำหรับบุตรสาวของท่าน.
รจนา กระแทกคำตอบ ใส่เพื่อนชายชื่อ นพ.
เพื่อนสาวอีกคนหนึ่ง พูดแย้งขึ้น.
เมื่อถึงกำหนดนัดหมาย, รจนาและเพื่อนๆ ก็ไปยื่นหนังสือให้ ครูเพ็ญพร ในฐานะผู้ใหญ่บ้าน, รับทราบ วัตถุประสงค์ ของการมาศึกษาที่ชุมชนสันติอรุณ. ครูเพ็ญพร เห็นนามสกุล วงศ์นารา เธอก็เอ่ยปากถาม.
รจนา ตอบ และเขยิบเข้าไปใกล้ และกระซิบที่หู.
ครูเพ็ญพร ปรึกษากับ พ่อใหญ่รักพูน และท่านสมภารรัตน์ รวมทั้งกรรมการหมู่บ้านคนอื่นๆ เรื่องอนุญาตให้เป็นชุมชนกรณีศึกษา. ทุกคนยินดีต้อนรับกลุ่มนักศึกษา ที่จะมาอยู่ร่วมกิจกรรมด้วย เป็นการชั่วคราว จนกว่าโครงการของพวกเขาจะสิ้นสุดลง.
ท่านสมภารรัตน์ อนุญาตให้คณะนักศึกษา เข้าพักอาศัยร่วมกับเจ้าของบ้าน. รจนา และเพื่อนผู้หญิงอีก 2 คน อยู่รวมกับ เอื้อย และ โสนน้อย, เพื่อนผู้ชายอีก 2 คน คือ เจ กับ นัท อยู่บ้านเดียวกับ เงาะ และ สิงห์ดำ. มีข้อตกลงกันว่า นักศึกษาทั้ง 5 คน จะขออาศัยกินอยู่หลับนอน ในวันที่ไม่ได้ออกไปนอกพื้นที่.
เมื่อถึงกำหนด รจนา และเพื่อนๆ เตรียมเข้าบ้านพัก, เงาะดำ กับ สิงห์ กลับไปทำงานต่อ ที่แคมป์โครงการชีวิตใหม่ หัวใจพอเพียง ที่ริมบึงน้ำเจ้าพระยา อีก 1-2 สัปดาห์.
รจนา รับรู้เรื่องราวการผจญภัยในชีวิตวัยเด็ก ของ โสนน้อย เอื้อย และเพื่อนๆ. เธอยอมรับว่า เอื้อย โสนน้อย เป็นผู้หญิงที่ทั้งเฉลียวฉลาด กล้าหาญ ขยัน และ กตัญญู. โดยเฉพาะ เรื่องราวของ สังข์ ที่ผ่านการบอกเล่าจาก เอื้อย และ โสนน้อย. รจนา รู้สึกทึ่งและประทับใจ จนอยากจะเห็นตัวจริงของเขา.
ครบกำหนด 2 สัปดาห์ งานที่แคมป์โครงการ ก้าวหน้าไปมาก. เงาะ กับ สิงห์ดำ พากันกลับมาพักผ่อน และรายงานให้ชาวชุมชนทราบความคืบหน้า. พวกเขากลับมาถึงสันติอรุณ ในตอนใกล้ค่ำ. พร้อมแบกหิ้ว ทะลายมะพร้าวอ่อนมาฝากเพื่อนๆ. เงาะดำ ยังไม่ขึ้นไปบนบ้าน. เขาวางกระเป๋าข้าวของส่วนตัว แล้วออกไปล้างหน้าล้างแขน ที่สะพานท่าน้ำหน้าบ้าน. บังเอิญ รจนา เดินผ่านมาที่สะพานท่าน้ำพอดี.
สัมผัสแรกในสายตาของ รจนา ที่เห็น เงาะดำ บนสะพาน. รจนาถึงกับตกตะลึง, รู้สึกเคยเห็นชายในร่างเงาะป่า ผมหยิก ผิวดำ คนนี้ เป็นชายหนุ่มหล่อ คล้ายภาพในฝัน ที่ไหนสักแห่ง. มโนภาพในจิต นำพา รจนา ล่องลอยไปถึงป่าบึงน้ำเจ้าพระยา สถานที่ที่เธอพบกับชายหนุ่มผู้นี้.
รจนา ได้สติ เมื่อได้ยินเสียง เอื้อย กล่าวทักทายเขา.
เธอสบตากับเขา และส่งยิ้มน้อยๆ ให้. ขณะที่ มโนภาพชายรูปงาม ที่ปรากฏในภวังค์ มลายหายไป. ภาพที่เธอเห็น กลายเป็นร่างของเงาะดำ ผมหยิก พูดไม่ได้.
เอื้อง เจ นัท เดินตามเธอมาข้างหลัง หัวเราะชอบใจ ที่เห็นรจนา มีทีท่าประหม่าและเก้อเขิน แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน. แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า สังข์ในร่างของเงาะ รู้สึกอย่างไร เมื่อพบกับ รจนา อีกครั้งในวันนี้.
ความสัมพันธ์ทางใจของ รจนา ที่มีต่อ เงาะดำ ส่งผลต่อจิตใจส่วนลึกของเธอไม่น้อย. รจนา รู้สึกว่า เธอควรจะมีส่วนร่วม ในกิจกรรมของชุมชนให้มากกว่านี้ โดยมีนัยยะที่จะได้ใกล้ชิดกับ เงาะดำ ให้มากขึ้น.
ใช้เวลาไม่ถึง 2 เดือน งบประมาณก็ได้รับการอนุมัติ ให้จัดซื้อปั๊มพ์น้ำแรงดันสูง กำลังงาน 20 กิโลวัตต์ จำนวน 2 ตัว มอบให้ชุมชนสันติอรุณ ก่อนจะถึงวันงานเทศกาลสำคัญเพียง 1 สัปดาห์.
ชาวชุมชนสันติอรุณ จัดงานฉลองครบรอบ 10 ปี ของหมู่บ้าน. ถือเป็นการจัดงานครั้งใหญ่ที่สุด, ลำธารรอบๆ ชุมชน ถูกขุดลอกให้ลึกและกว้างขึ้น และแลดูสะอาด. มีการสร้างน้ำตกจำลองเล็กๆ ขึ้น ในบริเวณใกล้อาคารศาลาหลังคารูปโดม.
กลางวัน มีการออกร้านขายของในราคาต้นทุน ทั้งเครื่องใช้ พืชผลการเกษตร และอาหาร ตลอดแนวของถนนสายหลักของชุมชน. มีคนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ภาคเช้าทำบุญตักบาตรและฟังธรรม ต่อด้วยการเสวนาบนเวที ที่จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย.
ภาคค่ำ ที่อาคารศาลาฟังธรรมรูปโดม, มีการแสดงของนักเรียน ระดับชั้นต่างๆ การละเล่นพื้นเมืองของชาวชุมชน และดนตรีเพื่อชีวิต. การแสดงทั้งหมด สื่อถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรม ของชาวชุมชนสันติอรุณ ที่สืบทอดต่อมากันมา.
รจนา และเพื่อนๆ มีความสุข กับกิจกรรมของชุมชนตลอดทั้งวัน. ช่วงสุดท้ายของรายการ ไฟฟ้าในชุมชนดับกะทันหัน. น้ำตกจำลองที่สร้างขึ้นก็หยุดไหล. เวลาผ่านไปราว 5 นาที ไฟฟ้าก็สว่างเหมือนเดิม. มีคนมาแจ้งว่าเกิดไฟฟ้าลัดวงจรที่ปั๊มพ์น้ำแรงดันสูง, ตอนนี้ปลั๊กไฟฟ้าใช้ไม่ได้แล้ว แต่ไฟฟ้าในชุมชนยังใช้ได้ตามปกติ.
ที่จริง ปั๊มพ์น้ำที่กินกำลังไฟสูงขนาดนั้น น่าจะทำปลั๊กไฟฟ้าให้เรียบร้อยเสียก่อน ก่อนจะเริ่มใช้งาน. แต่ผู้ติดตั้งอุปกรณ์ อ้างว่าเกรงจะไม่ทันการจัดงานฉลองชุมชน จึงต่อไฟเข้าปั๊มพ์น้ำ เป็นการชั่วคราวไปก่อน.
งานฉลองครบรอบ 10 ปี ของชุมชน จบลงด้วยดี.
ตอนดึกของคืนวันถัดมา, สิงห์ ล้มตัวลงนอน. เขาสังเกตเห็นเงาของคน ที่บริเวณซุ้มปั๊มพ์น้ำไฟฟ้า. ทีแรก คิดว่าอาจเป็นใครสักคน ในหมู่บ้าน มาซ่อมปลั๊กไฟให้ปั๊มพ์น้ำทำงาน.
สิงห์ รำพึงในใจด้วยความอ่อนเพลีย. แต่ความสำนึกรับผิดชอบ ในฐานะผู้ดูแลระบบน้ำของชุมชน ปลุกให้เขาลุกขึ้น, คว้าไฟฉายเดินออกไป หวังจะไปช่วยเขาซ่อมปลั๊กไฟ. แต่พอเดินเข้าไปใกล้ เงาของคนพวกนั้นก็หายไป.
เขารู้สึกว่า เหตุการณ์ผิดปกติ. สิงห์ ปิดไฟฉาย ค่อยๆ แฝงตัวไปในความมืด, เข้าไปจนได้ระยะ. เห็นคน 3 คน กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่บริเวณนั้น.
คนหนึ่ง ฉายไฟส่องตรงไป กระทบใบหน้าของ สิงห์ จนเขาผงะหลบแสงไฟ. สิงห์ รู้สึกทันทีว่า 3 คนนี้ น่าจะเป็นคนร้าย. แต่ยังไม่ทันคิดจะทำอะไรต่อ, เขาก็ถูกตีด้วยท่อนไม้ ที่บริเวณไหล่ซ้าย ล้มลงไป, ไฟฉายกระเด็นหลุดมือ หล่นไปที่พื้น.
คนร้ายอีกคน เอาเศษสายไฟรัดที่คอของเขา. สิงห์ กระทุ้งข้อศอกเข้าที่ใบหน้า, จนคนร้ายผงะถอยไป. เขาฉวยโอกาส ขณะที่พวกคนร้ายยังเจ็บอยู่ รีบลุกขึ้น.
คนร้ายอีกคนออกคำสั่ง ระหว่างใช้ประแจคลายน้อตที่ยึดปั๊มพ์.
ความมืดสลัว คงมีแต่แสงจากไฟฉายที่ตกอยู่บนพื้น ส่องพอให้เห็นร่างของคนในบริเวณนั้น. บรรยากาศแบบนี้ ทำให้ สิงห์ เป็นฝ่ายได้เปรียบ.
เขาต่อสู้กับคนร้าย 2 คน จนได้รับบาดเจ็บและลุกไม่ไหว. คนร้ายที่มีประแจอยู่ในมือ ผละจากปั๊มพ์น้ำ ตรงเข้าหาสิงห์ดำ. แต่เขาไวกว่า, กระโดดถีบคนร้าย กระเด็นตกลงไปในลำธารน้ำ. สิงห์ พุ่งตามไปในลำธารอย่างกระชั้นชิด. คนร้ายเห็นจวนตัว ชักปืนออกมา เล็งไปที่เขาในระยะ 2 เมตร. สิงห์ จำเป็นต้องหยุด ยกมือและถอยห่างออก จนหลังชิดกับเสาไม้ที่มีปลั๊กไฟและสายไฟพันอยู่.
คนร้ายที่มีปืนอยู่ในมือ ออกคำสั่ง.
คนร้ายอีก 2 คน รีบประคองตัวเอง ลุกเดินมาที่เสาปลั๊กไฟฟ้า ใกล้จะถึงตัวเขา. สิงห์ ขยับตัวคว้าสายไฟฟ้าที่มีปลายทั้งสองข้าง มีสายไฟฟ้าเปลือยเป่าโผล่ออกมา, แล้วชูให้คนที่ถือปืนเห็น.
คนร้ายที่ถือปืน ก็ไม่ประมาทเหมือนกัน รีบถอยหลังขึ้นจากลำธาร. แต่อีก 2 คน ที่อยู่บนบกกำลังเดินใกล้เข้ามา.
สิงห์ ยิ้มเยาะใส่หน้าพวกคนร้าย, คนพวกนี้ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเขา. สิงห์จุ่มสายไฟลงน้ำ ... ทันใดนั้น! คนร้ายที่ถือปืน ถูกไฟฟ้าแรงสูงช็อต ก่อนจะถอยขึ้นไปถึงบนฝั่งได้ทัน. คนร้ายอีก 2 คน ตกใจ ชะงักเท้าไว้ทันไม่ให้ถูกน้ำ. เขารู้สึกประหลาดใจ ที่คนสองคนอยู่ในน้ำเหมือนกัน อีกคนถูกไฟฟ้าช็อต แต่อีกคนไม่เป็นไร. คนร้าย 2 คน จึงวิ่งหนีเอาตัวรอดไป ปล่อยให้เพื่อนของมัน ถูกไฟฟ้าช็อตจนสลบ.
เสียงเอะอะของการต่อสู้ ปลุกให้ชาวชุมชน พากันวิ่งมาดูเหตุการณ์. ช่วยกันลากคนร้ายขึ้นจากลำธาร, ทำการปฐมพยาบาลจนฟื้น แล้วควบคุมตัวไว้ให้ตำรวจ.
วีรกรรมของสิงห์ ถูกเล่าลือไปทั่วทั้งชุมชน ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า คำเล่าลือเรื่องเขา ว่าเป็นมนุษย์ประหลาด สามารถต้านแรงไฟฟ้าดูดได้.
ครูเพ็ญพร เสนอให้ตั้งหน่วยรักษาความปลอดภัยขึ้น ในการปกป้องทรัพย์สินทั้งของตัวเอง และของชุมชน. สิงห์ดำ ก็เลยรับหน้าที่ เป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยไปโดยปริยาย.
...
มองจากรั้วลวดตะแกรงเหล็ก สูงราว 5 เมตร ลึกเข้าไปข้างใน เป็นอาคารโรงงานเก่าๆ. ภายในเต็มไปด้วยเศษซากเครื่องยนต์, พื้นเขรอะด้วยน้ำมัน ผนังเต็มไปด้วยสัญลักษณ์และข้อความ ที่บ่งบอกว่า ที่นี่คือ บ่อนซ้องสุมของแกงค์อันธพาล.
ก่อนถึงห้องพักของผู้เป็นหัวหน้าแกงค์ ต้องผ่านทางเดินแคบๆ ของห้องโถง ห้องบิลเลียด ห้องดนตรี ห้องอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเต็มไปด้วยสมาชิกแกงค์ ทั้งเดิน ทั้งเล่น ทั้งร้อง และทั้งดื่ม, สุดแล้วแต่ว่า ใครต้องการจะเสพอะไร. แน่นอนว่าสิ่งเสพติดที่นี่ หาซื้อได้ง่ายในย่านนี้. สถานที่แห่งนี้ บ่งบอกว่า แขกภายนอก ไม่อาจย่างเหยียบเข้าไปในนั้น ได้ง่ายนัก และคนดีๆ ก็ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเข้าไป.
ที่วงไพ ในห้องส่วนตัวของผู้เป็นหัวหน้าแกงค์.
เขาถามสมุนคนหนึ่ง ที่เดินเข้ามารายงาน ขณะนั่งกุมไพ่อยู่ในมือ ร่วมกับเพื่อนๆ.
สมุนอีกคน ที่เคยปะทะกับ สิงห์ มาแล้วในคืนวันนั้น เอ่ยขึ้น.
ผู้เป็นหัวหน้า พูดสรุป. ที่แท้คนพวกนี้ ก็คือกลุ่มอิทธิพล กลุ่มเดียวกันกับที่ สิงห์ เอื้อย และ โสนน้อย เคยปะทะมาแล้ว. พวกแกงค์คนร้าย เก็บความเจ็บแค้นไว้ รอโอกาสตอบโต้คืน.
สารบัญ / ตอนที่ ปฐมบท -
บทที่ 2 สังข์ เอื้อย โสนน้อย
บทที่ 3 วันสังหาร
บทที่ 4 ชีวิตใหม่กลางภูผา
บทที่ 5 ภูติร้ายในป่ามรณะ
บทที่ 6 ประตูเวลาที่เรือนปีศาจ
บทที่ 7 หนอนทะเลทราย
บทที่ 8 หลุมดำดูดเวลา และการตามล่าของมนุษย์นอกจักรวาล
บทที่ 9 พบเพื่อนใหม่
บทที่ 10 ผจญภัยกลางมหาสมุทร
บทที่ 11 ปาฏิหาริย์ของเทพแห่งลิง
ภาคที่ 2: ฝ่าอุปสรรค เพื่อรักและอิสรภาพ
บทที่ 13 เทคโนโลยีล่องหน
บทที่ 14 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 1)
บทที่ 15 เส้นทางที่พลัดพราก
บทที่ 16 เมืองกาญจนา
บทที่ 17 บ้านของย่าทอง
บทที่ 18 วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน
บทที่ 19 ความรัก ความหวัง ยังไม่สิ้น
บทที่ 20 ตามหาเพื่อน
บทที่ 21 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 2)
ภาคที่ 3: รักนิรันดร์ ฝันเป็นจริง
บทที่ 23 นครรัฐเทพนารา
บทที่ 24 ชีวิตใหม่ ใจกลางมหานคร
บทที่ 25 ชีวิตจัดสรร ณ สันติอรุณ
บทที่ 26 สัมผัสแรก สัมผัสรัก
บทที่ 27 สังข์ทอง รจนา
บทที่ 28 วิกฤตของนครรัฐ
บทที่ 29 กู้วิกฤต
บทที่ 30 ฝันที่เป็นจริง
ปัจฉิมบท -
เพลง ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
|
|
|