ภาคที่ 2 บทที่ 14 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 1) ตอนที่ 49 แผนหลบหนี
สังข์ คิดว่า พวกเขายังพอมีเวลา ที่จะปรึกษากับเพื่อนๆ เรื่องแผนหลบหนี. แต่เขาคาดการณ์ผิด นายหญิง มีบัญชาให้เขาย้าย ไปอยู่ในห้องใกล้ๆ กับนายหญิง. เขาไม่มีโอกาสที่จะไปบอกเพื่อนๆ เพราะต้องจัดการเรื่องตัวเอง ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน.
นายหญิง สั่งให้แม่บ้านพา สังข์ ไปดูห้อง เพื่อตกแต่ง โต๊ะ เตียง ตู้เสื้อผ้า และอุปกรณ์ทำงาน. เวลาผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง สังข์ ก็ย้ายมาอยู่ในห้องนอนใหม่ ที่ได้รับการตกแต่งไว้อย่างดีและทันสมัย ทั้งๆ ที่ เขาไม่รู้สึกยินดีกับสิ่งเหล่านี้เลย. เขาจำเป็นต้องเสแสร้งยินดี หลอกให้นายหญิงตายใจ ยินดีรับสถานภาพใหม่ ในฐานะลูกชายของเธอ.
สังข์ ทิ้งเพื่อนไว้ข้างหลัง สร้างสถานะใหม่ให้แก่ตัวเอง อยู่หลายวัน. แต่ละวัน แตละชั่วโมง ที่ผ่านไป เขาพยายามคิดหาวิธี ที่จะออกไปจากที่นี่ให้ได้. สิ่งที่เขาเสแสร้งทำ ขัดกับความรู้สึกของตัวเองไม่น้อย. ชั่งไม่ยุติธรรมเลย สำหรับนายหญิง แต่มันก็ไม่ยุติธรรมกับเขาเช่นกัน. นี่เท่ากับว่า เขามัวเสวยสุขเพียงคนเดียว แต่ปล่อยให้เพื่อนๆ ต้องอยู่อย่างลำบาก สิ้นหวัง ไร้อนาคต.
นายหญิงถามลูกชาย ขณะที่ช่วยจัดห้องนอนให้ด้วยตัวของเธอเอง.
สังข์ รู้ว่า เรื่องเกี่ยวกับ ธนญชัย เป็นสิ่งไม่ควรพูด. แต่สิ่งที่เขาควรรีบทำก็คือ ต้องไปพบเพื่อนๆ ให้เร็วที่สุด, ไม่อยากให้พวกเขา เข้าใจผิดมากไปกว่านี้. สังข์ ฉวยโอกาส ทำตามสิ่งที่คิด ขณะมีแขกคนสำคัญมาขอพบนายหญิง.
ช่างเป็นโอกาสเหมาะเสียเหลือเกิน. สังข์ รีบไปหาเพื่อนๆ ทันที ที่ห้องเล็บ สถานที่ที่เคยเป็นอาณาจักรน้อยๆ ของพวกเขา. สินสมุทร กับ สุดสาคร กำลังทำงานร่วมกับผู้ใหญ่คนหนึ่ง จะเข้าไปบอกตอนนี้ เห็นจะไม่เหมาะ. เขาจำเป็นต้องรอเวลาให้ปลอดผู้คนมากกว่านี้. สังข์ รู้สึกเป็นห่วงเพื่อนสาวสองคน ขึ้นมาทันที. เขาจึงหลบสายตาคนอื่นๆ แอบเข้าไปที่ห้องลับอีกห้องหนึ่ง.
ทันทีที่ย่างเท้าผ่านพ้นประตู ... เขารู้สึกรันทดและหม่นหมองไปทันที แทบทรงตัวไม่อยู่, เอื้อย กับ โสนน้อย นั่งจับเจ่าอย่างหมดอาลัย ที่มุมห้อง. ร่างของเธอทั้งสองซูบผอม ราวกับจะบอกสังข์ว่า ชีวิตนี้ ไม่มีความหวังอะไรเหลืออีกแล้ว. สายตาของ เอื้อย ที่จ้องมอง สังข์ เต็มไปด้วยความเศร้าอย่างสุดซึ้ง. โสนน้อย ก้มหน้านิ่ง ไม่รับรู้ด้วยซ้ำไปว่า โลกนี้ยังมีเพื่อนคนนี้อยู่.
เขาทำอะไรลงไปหรือนี่! น้ำตาของ สังข์ ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว. เขาขยับเข้าไปใกล้ๆ คุกเข่าลงนั่ง อย่างคนสำนึกผิด.
คำขอโทษ สั้นๆ แต่อัดแน่นด้วยความสำนึกผิด อย่างจริงใจ กลายเป็นพลังอานุภาพ ทลายกำแพงแห่งความอึดอัด ความว้าเหว่ เดียวดาย ที่สุมอยู่ในหัวใจของเธอทั้งสอง ลงในทันที. มิตรภาพกลับคืนมาเหมือนเดิม.
สังข์ เอื้อย โสนน้อย ต่างโอบกอดซึ่งกันและกัน ท่ามกลางเสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้นเบาๆ. นานเท่าไรไม่รู้ แต่ก็นานพอ ที่จะเรียกสติของ สังข์ กลับคืนมา.
รอยยิ้มของสาวน้อย กลับคืนมาอีกครั้ง. เป็นรอยยิ้ม ที่เต็มไปด้วยประกายแห่งความหวัง ความมุ่งมั่น และความรักที่บรรเจิดจ้า.
สองสาวน้อย พยักหน้ารับ. สังข์ผละจากไป. เวลาเหมาะ ปลอดคนพลุกพล่านพอดี, สังข์ ขยิบตาส่งสัญญาณให้ สินสมุทร ขยับออกมาห่างๆ จากผู้ใหญ่นั่นเสียก่อน.
สังข์ หยิบวิทยุสื่อสารขนาดเล็ก ที่สามารถซุกซ่อนได้ ยื่นให้ สินสมุทร.
สินสมุทร ชูกำปั้นขึ้นที่ตรงหน้าของตัวเอง แล้วดีดนิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง ชูขึ้น เป็นสัญลักษณ์แทนตัวเลข เป็นการทบทวนรหัสสื่อสาร. สังข์ ก็ทำตามเพื่อน รับการทวนรหัสนั้นอีกครั้ง. เป็นอันว่าพวกเขารู้กันสองคน. นี่คือการบันทึกความลับ ไว้ในหน่วยความจำ ของแต่ละคน.
คืนนี้ สังข์เข้านอนแต่หัวค่ำ. นายหญิงเปิดประตูเข้ามาดู เห็นว่าเขาหลับไปแล้ว จึงไม่รบกวน. วันนี้ ช่างเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน. ท่านประธานาธิบดีแห่งรัฐสุวรรณวดี มีข้อต่อรองเงื่อนไขเพิ่มเติม ในการส่งมอบสินค้า ตามที่ผู้แทนของท่านแจ้งมา. ดูเหมือนว่า ท่านจะไม่พอใจอะไรบางอย่าง จนเธอเองต้องคุยสายตรงกับท่าน เพื่อมิให้เกิดความเข้าใจผิดกัน.
นายหญิง รำพึงกับตัวเอง แล้วส่งสัญญาณเสียงไปบอก แทน แจ้งการเปลี่ยนแปลง เรื่องเวลาและสถานที่ ส่งมอบสินค้า.
แทน รู้สึกผิดหวังและโกรธ กับคำสั่งเปลี่ยนแปลงกะทันหัน, แต่ก็ต้องยอมทำตาม. ธนญชัย ก็อยู่ที่นั่นด้วย. ธนญชัย เห็นว่าสถานการณ์เปลี่ยนไป แผนของเขาก็จะต้องเปลี่ยนตามไปด้วย. เขายกวิทยุสื่อสารขึ้นพูด เพื่อติดต่อกับใครบางคน เป็นการด่วน.
...
ก่อนสว่าง, สังข์ รีบลุกขึ้น แง้มประตูห้องออก ดูสถานการณ์ข้างนอก. ข้างนอกปลอดคนเดินผ่าน. เขากลับมาที่หัวเตียง คว้ากระเป๋าเป้ ที่เตรียมไว้ตั้งแต่หัวค่ำ สะพายขึ้นไว้บนหลัง. ก่อนผละจากไป, สังข์มองภาพถ่ายนายหญิง และแท่งกุญแจนำโชค ที่อยู่บนหัวเตียง. เขาหยิบมันขึ้นมา ระลึกถึงเคน, ขอบคุณสำหรับโชคที่ เคน ให้มา และไม่ลืมขอบคุณนายหญิง ที่ปรารถนาดีต่อเขา พร้อมกับกล่าวอำลาภาพถ่ายนายหญิง ก่อนจะคว้ากุญแจใส่กระเป๋าไป.
สังข์ แอบเข้าไปในห้องแล็บเคมี จากประตูลับอีกบานหนึ่ง. ขณะนั้น ดร.วีรพล กับเจ้าหน้าที่แล็บอีก 2 คน กำลังสำรวจความเรียบร้อยในห้อง. เขายกเอากล่องโลหะสีเงินใบหนึ่ง ออกมาจากตู้เก็บรักษาอุณหภูมิ แล้วเปิดออก ดูความเรียบร้อย ของสิ่งที่อยู่ข้างใน. เขายิ้มแสดงความพอใจ จากนั้น ก็นำกระเป๋าอีก 2 ใบ ที่มีรูปร่างและขนาดเท่ากัน ส่งให้เจ้าหน้าที่ 2 คนนั้น แล้วพากันหิ้วออกไปจากห้อง.
สังข์ ไปที่ตู้เก็บรักษาอุณหภูมิ มองผ่านกระจกเข้าไป. ยังมีกล่องโลหะสีเงิน อยู่อีก 3 ใบ. ในกล่องนั้น อาจมีสิ่งของที่เขาต้องการ. โชคดี เขาเห็นตู้ใสๆ อีกตู้หนึ่ง, ใช่แล้ว มันคือกระบอกฉีดแคปซูลเคมีเปลี่ยนร่าง. นี่แหละ คือสิ่งที่เขาต้องการ. การเปิดตู้ ต้องใช้รหัสผ่าน. แต่ไม่มีเวลาให้เขาคิดนานไปกว่านี้. สังข์ ต้องตัดสินใจ ทำในสิ่งที่นักจารกรรมเขาทำกัน, ตู้นี้คงไม่ต้องใช้รหัสผ่านก็ได้.
สังข์ คว้าฆ้อนเหล็กที่วางอยู่ใกล้ๆ ทุบกระจก
แล้วคว้ากระบอกฉีด ขึ้นมาพิจารณาดู. มันมีขนาดเล็กกระทัดรัด สามารถเก็บซ่อนได้ไม่ยาก ในนั้น บรรจุเจลสีเขียวๆ อยู่ครึ่งกระบอก. เท่านี้ก็คงพอน่า เขาคิดในใจ พร้อมกับคว้าฆ้อนเหล็กนั่น ติดมือไปด้วย. เขาต้องมีจุดประสงค์อย่างอื่นอีกแน่ๆ.
สังข์ รีบผละออกจากที่นั่นโดยเร็ว, ข้ามประตูกล ไปยังห้องแล็บโถงใหญ่. อากาศยานล่องหน ยังนอนสงบนิ่งไม่ไหวติงอยู่ที่เดิม เหมือนกับกำลังรอใครบางคน ที่จะมาพามันไป. เขาเดินไปที่ผนังห้องอีกด้านหนึ่ง ที่มีตู้กระจก วางอยู่หน้าทางเข้า ซึ่งเป็นซอกสี่เหลี่ยมเล็กๆ. ถังสเปรย์โลหะสีเงิน ยังนอนนิ่งอยู่ในตู้นั้น.
หมดเวลาแล้ว สำหรับการรีรอ. สังข์ ใช้ฆ้อนในมือ ทุบกระจกแตกกระจาย รีบคว้าถังสเปรย์มาได้ถังหนึ่ง. แน่ละ! เสียงกระจกนั่น เป็นสัญญาณเรียกแขกเป็นอย่างดี. เจ้าหน้าที่ รปภ. เดินผ่านห้องแล็บนั้นมา เพื่อมาตรวจดูว่าเสียงอะไร ที่ดังเมื่อครู่. สังข์ ย่อตัวหลบ ทั้งๆ ที่ไม่มีที่กำบัง. ถึงคราวต้องเสี่ยงแล้ว, จังหวะที่เจ้าหน้าที่ รปภ. เดินผ่านเสาอาคาร ในจุดที่เขามองไม่เห็นผู้บุกรุก. สังข์ ลุกขึ้น คว้าถังสเปรย์ได้มาอีกหนึ่งถัง ไม่มีเวลาที่จะคว้าถังที่สาม. รปภ.ใกล้มาถึงตัว สองถังก็คงพอน่า เขาคำนวณอย่างหยาบๆ ก่อนที่จะรีบออกไปจากที่นั่น. รอดพ้นสายตาของ รปภ. ได้อย่างหวุดหวิด.
ก่อนไปยังจุดนัดหมาย สังข์ ไม่ลืมแวะเข้าไปในห้องแล็บ สถานที่ที่เคยทำงาน และเป็นอาณาจักรน้อยๆ ของเขาและเพื่อนๆ, คว้ากระเป๋าใบใหญ่ ข้างในมีอุปกรณ์หลายอย่าง ที่เตรียมเอาไว้ สำหรับภารกิจการหลบหนีโดยเฉพาะ แล้วรีบออกไปจากที่นั่น ทันที.
สังข์ สังเกตเงาตะคุ่มที่อยู่ไม่ไกล จึงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น. ทั้งที่ยังเหนื่อยกระหืดกระหอบอยู่. เมื่อไปถึง พวกเพื่อนๆ รู้สึกดีใจ, ที่แผนของพวกเขาใกล้จะสำเร็จแล้ว. สินสมุทร จัดลำดับตำแหน่งของเพื่อนๆ ก่อนออกไป. สังข์ กับ สุดสาคร นำหน้า ตามด้วย เอื้อย โสนน้อย และให้ สินสมุทร เป็นคนระวังหลัง.
พวกเขาพากันวิ่งออกไป มองเห็นประตูตะวันตกอยู่ไม่ไกล. สังข์ ส่งสัญญาณให้ ธนญชัย รู้ โดยกระพริบไฟฉาย. สักครู่ ประตูด้านตะวันตก ก็ค่อยๆ เปิดออก. เด็กทั้ง 5 คน วิ่งผ่านใจกลางถนน ตรงไปที่ประตูใหญ่ สำหรับออกนอกเมือง ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 50 เมตร. แต่ทันใดนั้น! ดวงไฟดวงใหญ่ก็สว่างพรึ่บ! ส่องมาจากหอคอย บนประตูด้านตะวันตก. ลำแสงพุ่งตรงไปที่เด็กทั้ง 5 คน, ที่ยืนตะลึงอยู่กลางถนนพอดี, พร้อมกับเสียงไซเรนดังขึ้น. พวกเขาหยุดอยู่กับที่ เหมือนถูกมนต์สะกด.
สังข์ ตกใจ สะดุ้งตื่น!
เหงื่อไหลทั่วใบหน้า. มองดูนาฬิกาที่หัวเตียง 04.30 นาฬิกา. ไม่มีเวลาให้ไตร่ตรองอะไรอีกแล้ว. เขารีบลุกขึ้น เปลี่ยนเครื่องแต่งตัว คว้ากระเป๋าเป้ ที่เตรียมไว้ตั้งแต่หัวค่ำ สะพายขึ้นไว้บนหลัง. ก่อนผละจากไป, สังข์ มองภาพถ่ายนายหญิง และแท่งกุญแจนำโชค ที่อยู่บนหัวเตียง. เขาหยิบมันขึ้นมา ระลึกถึงมันเป็นครั้งสุดท้าย. มันได้ทำหน้าที่จนถึงที่สุดแล้ว ขอบคุณ เคน ขอบคุณนายหญิง ที่เมตตากรุณาให้ที่พักพิง ให้ความรักความหวังดีตลอดมา. เขาไม่สามารถทำหน้าที่ อย่างที่นายหญิงต้องการได้ เขาขอโทษ.
สังข์ วางกุญแจ ไว้ใกล้ๆ กับรูปถ่ายของนายหญิง ที่อยู่บนหัวเตียง ก่อนผละจากไป.
สารบัญ / ตอนที่ ปฐมบท -
บทที่ 2 สังข์ เอื้อย โสนน้อย
บทที่ 3 วันสังหาร
บทที่ 4 ชีวิตใหม่กลางภูผา
บทที่ 5 ภูติร้ายในป่ามรณะ
บทที่ 6 ประตูเวลาที่เรือนปีศาจ
บทที่ 7 หนอนทะเลทราย
บทที่ 8 หลุมดำดูดเวลา และการตามล่าของมนุษย์นอกจักรวาล
บทที่ 9 พบเพื่อนใหม่
บทที่ 10 ผจญภัยกลางมหาสมุทร
บทที่ 11 ปาฏิหาริย์ของเทพแห่งลิง
ภาคที่ 2: ฝ่าอุปสรรค เพื่อรักและอิสรภาพ
บทที่ 13 เทคโนโลยีล่องหน
บทที่ 14 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 1)
บทที่ 15 เส้นทางที่พลัดพราก
บทที่ 16 เมืองกาญจนา
บทที่ 17 บ้านของย่าทอง
บทที่ 18 วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน
บทที่ 19 ความรัก ความหวัง ยังไม่สิ้น
บทที่ 20 ตามหาเพื่อน
บทที่ 21 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 2)
ภาคที่ 3: รักนิรันดร์ ฝันเป็นจริง
บทที่ 23 นครรัฐเทพนารา
บทที่ 24 ชีวิตใหม่ ใจกลางมหานคร
บทที่ 25 ชีวิตจัดสรร ณ สันติอรุณ
บทที่ 26 สัมผัสแรก สัมผัสรัก
บทที่ 27 สังข์ทอง รจนา
บทที่ 28 วิกฤตของนครรัฐ
บทที่ 29 กู้วิกฤต
บทที่ 30 ฝันที่เป็นจริง
ปัจฉิมบท -
เพลง ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
|
|
|