ภาคที่ 2 บทที่ 18 วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน ตอนที่ 64 แสงสีแห่งชนบทยามค่ำคืน
ปีนี้ เป็นปีมหามงคล ชาวบ้านย่านนี้รอคอยกันมาเป็นสิบปี. วัดดอนที่อยู่ใกล้ๆ จัดงานครั้งยิ่งใหญ่ 9 วัน 9 คืน ฉลองอุโบสถที่เพิ่งสร้างเสร็จ. ความอึกทึกครึกครื้น เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เพราะวันที่จัดงาน คร่อมกับเทศกาลวันสงกรานต์พอดี.
และที่ขาดไม่ได้คือ การนัดหมายของหนุ่มสาว. นอกจากจะมาร่วมทำบุญแล้ว ยังมีโอกาสนัดพบดูใจกัน ตามประสาวัยรุ่น ซึ่งผู้ใหญ่ที่เป็นพ่อแม่ ก็ไม่ได้หวงห้ามบุตรหลานของตน. บางคนถึงกับเปิดโอกาส ให้พวกลูกๆ ได้ออกไปสัมผัสกับฝูงชน และงานรื่นเริงต่างๆ ที่มีให้เสพสุขกันอย่างมากมาย.
ย่าทอง เห็นหลานสาว และ พริ้ง กำลังแต่งตัว ก็อดชื่นชมความสวยงามและน่ารัก ของพวกเธอไม่ได้. พอหันไปดูหลานชาย ก็สง่างดงามไม่แพ้กัน. ย่าทองรู้สึกเป็นสุขอย่างบอกไม่ถูก. ค่ำคืนนี้ คงต้องปล่อยให้พวกเขาเป็นอิสระ ตามประสาหนุ่มสาว.
พลายงาม ถือไฟฉาย นำพวกสาวๆ เดินไปตามทาง พร้อมๆ กับพวกชาวบ้าน ที่ทยอยกัน มุ่งไปที่วัดดอน. พวกเขารู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้กัน ที่จะได้เห็นแสงสี และความงามยามค่ำคืนอยู่ข้างหน้า, โอกาสดีๆ อย่างนี้ไม่ใช่หาได้ง่ายๆ เลย.
ฝั่งซ้ายของถนน มีเสียงประกาศ จากซุ้มของคณะกรรมการวัด ที่ตั้งยาวเหยียดติดต่อกันไป จนสุดถนน เชิญชวนให้พุทธศาสนิกชน มาร่วมบริจาคเงินทำบุญ ก่อนที่จะเข้าไปชมมหรสพต่างๆ, เช่น ซื้อกระเบื้องมุงหลังคาโบสถ์ บูชาพระเครื่องปางต่างๆ, ตลอดจนวัตถุมงคล ซึ่งมีให้เลือกเช่าบูชากัน ตามกำลังศรัทธา. ภายในบริเวณทั้ง 2 ฝั่งถนน เสียงประสานกันเซ็งแซ่ จนฟังไม่ได้ศัพท์, เสียงประกาศรายการแสดง ของนักเรียนบนเวที ที่อยู่ใกล้ๆ กัน. เสียงระนาดโหมโรงจากเวทีลิเก ๒ คณะ ประชันกัน ก็น่าสนใจไม่น้อย. นั่นเสียงปี่จากเวทีมวย ช่างเร้าใจ. คนที่ชอบกีฬาหมัดมวยเหลือเกิน จนหลายคนต้องรีบไปซื้อตั๋ว เพื่อเข้าไปชมมวยคู่เอก แต่ก็ไม่ลืมที่จะไปทำบุญก่อน พอเป็นพิธี.
ส่วนฝั่งขวาของถนน มีหนังกลางแปลงจอยักษ์ กำลังฉายหนังตัวอย่าง. แต่เสียงโฆษณาเชิญชวน จากซุ้มร้านขายของที่ระรึกต่างๆ ก็ดังไม่แพ้กัน. เสียงดังแหลมจนแสบแก้วหู ของรถจักรยานยนต์ไต่ถัง ก็น่าเร้าใจไม่น้อย. มีคู่แข่งสำคัญคือ ซุ้มชิงช้าสวรรค์ 2 ซุ้ม ขนาบข้าง, กำลังเปิดเพลงเพราะๆ สร้างเสน่ห์ไปอีกแบบ. หลายคนหัวเราะขบขัน หน้าเวทีละครลิง. ซุ้มร้านป้าเป้า สอยดาว โยนห่วง ล้วงไห ไล่หนูลงรู สาวน้อยตกน้ำ จะมีคนเยอะเป็นพิเศษ. บนถนนซอยทางเดินแคบๆ เต็มไปด้วย ร้านขายของจำพวก เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องใช้ต่างๆ หนาแน่นไปด้วยฝูงชนไม่แพ้กัน. ทุกคนต่างเบียดเสียดกัน มาเลือกซื้อหา ต่อรองราคากัน จนเป็นที่พอใจ.
เมื่อมีคนมากันเยอะๆ อาหาร ของกิน ของคบเคี้ยว ก็มีขาย มีบริการ ให้ฝูงชนเลือกกันบริโภคไม่ขาดระยะ. มีวางขายกันทั้ง 2 ฝั่งถนน, ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านขายข้าวต้มกุ๊ย ร้านกาแฟโบราณ แผงลอยหาบเร่ ขนมถังแตก โรตี สายไหม ข้าวหลาม ข้าวต้มมัด ข้าวเกรียบ ปลาหมึกย่าง. สิ่งที่พวกเด็กๆ ชอบกันมาก ก็คือ ตังเมหมุน อ้อยควั่น แล้วก็ ไอศกรีมหลอด.
เสียงดังเซ็งแซ่สอดประสานกันเป็นระยะ นั่นแหละคือเสน่ห์ของงานวัด ที่ทุกๆ คน จะต้องจดจำไปอีกนาน. พลายงาม และ เพื่อนสาว 3 คน เดินชมร้านต่างๆ ตามถนนคนเดินมาเรื่อยๆ, จนถึงซุ้มร้านปาเป้าลูกโป่งร้านหนึ่ง. ดูเป็นร้านใหญ่กว่าทุกร้าน และมีของรางวัลน่าสนใจกว่า ตอนนั้น ยังมีคนไม่มากนัก.
พลายงาม มีข้อเสนอ ระหว่างขอซื้อลูกดอกจากคนขาย.
พริ้ง เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ลูกที่หนึ่ง ... โพล๊ะ! โดน.
ต่อไป พลายงาม ปาบ้าง ลูกที่หนึ่ง ... ป๊อก! พลาด. เอาใหม่ ลูกที่สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ ผลการแข่งชุดแรก พลายงาม ปาถูก 3 ดอก. ส่วน พริ้ง ปาได้ 4 ดอก ได้กระจกส่องหน้า 1 บาน เป็นรางวัล.
ผลนะหรือ ก็น่าจะเดาได้ไม่ยาก. พริ้ง ปาได้ 4 ดอก เท่าเดิม ส่วน โสนน้อย ไม่พลาดเลย. พริ้ง รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย. เธอเกรงว่าพริ้งจะเสียใจ จึงเข้าไปกอดเพื่อน. ตกลง โสนน้อย ได้หม้อหุงข้าวไฟฟ้า เป็นรางวัล.
ผลการปาเป้าของ โสนน้อย ที่ไม่พลาดเลย ชาวบ้านที่เล่นอยู่ข้างๆ ประหลาดใจ ถึงกับหลีกทางให้หนุ่มสาวทั้ง 4 คน เหมาเล่นกันเพียงลำพัง. ดูการแข่งขันของพวกเขา น่าสนุกกว่าปาเอง เพราะเป็นเกมที่น่าเร้าใจ. ชาวบ้านคนอื่นๆ เห็นเข้า ก็พากันมามุงดู และเชียร์ให้กำลังใจ ราวกับมาดูการแข่งขันเกมนัดสำคัญ.
รอบนี้ เหมือนกับแชมป์ชิงแชมป์. พริ้ง ไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็น ฝีมือของ เอื้อย กับ โสนน้อย มาก่อน. จึงไม่แน่ใจ และไม่เชื่อว่าจะปาได้เหมือนครั้งก่อน, อาจเป็นเพราะโชคมากกว่าฝีมือก็ได้. แต่ พลายงามไม่คิดอย่างนั้น เพราะเขารู้ดีว่า สาวน้อย 2 คนนี่ มีฝีมือความแม่นยำพอๆ กัน.
ระหว่างแข่งขัน ชาวบ้านที่มามุงดู ก็เพิ่มจำนวนขึ้น จนเต็มหน้าร้านปาเป้า, ก็ยิ่งเรียกความสนใจ ให้กับคนที่เดินผ่านไปมามากขึ้น. เจ้าของร้านรู้สึกพอใจ ที่เด็กหนุ่มสาวกลุ่มนี้ เรียกลูกค้าให้. แม้ว่าลูกดอกจะยังขายไม่ได้มากนัก แต่แค่พวกเขา 4 คนนี้ ก็ขายได้จำนวนมากพอแล้ว. ที่ผ่านมา ไม่เคยมีลูกค้าคนไหน ซื้อลูกดอกเยอะขนาดนี้. อาจเป็นเพราะราคาของลูกดอก แพงกว่าซุ้มร้านอื่นนั่นเอง.
คนดูเอาจริงเอาจัง กับการแข่งของคู่นี้. แต่ เอื้อย กับ โสนน้อย กลับเห็นเป็นเรื่องสนุก. เธอทั้งสอง ผลัดกันปา. เอื้อย ปาพลาดก่อนเป็นคนแรก, กองเชียร์ต่างร้องอู้ รู้สึกเสียดายที่พลาดเฉียดไปนิดเดียว. ผลสรุปคือ โสนน้อย ก็ปาพลาดไปเหมือนกัน ในลูกสุดท้าย.
กลุ่มคนดูที่ยืนอยู่ข้างหลัง ก็เห็นด้วย พากันเขยิบถอยห่างออกไป ตามคำขอร้องของ พลายงาม. พลายงาม ขอซื้อลูกดอกเพิ่มอีก 20 อัน, แล้วใช้กิ่งไม้แห้ง ขีดแนวเส้นแสดงตำแหน่งที่ยืนปา. โสนน้อย เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ชำเรืองดู เอื้อย ที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วขยิบตาส่งยิ้มให้. ขอบใจที่ให้โอกาสก่อน, เธอทั้งสองคน รวบรวมสมาธิ, คราวนี้ยืนห่างเป้าไกลกว่าเดิม.
ชายชราผู้หนึ่ง พูดกับเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆ.
ปาไป 9 ลูก ยังไม่มีใครพลาดเลย, สร้างความฮือฮาตื่นเต้น ให้กับคนดูมากขึ้น. ตอนนี้ คนที่ผ่านไปมาไม่สนใจอย่างอื่นแล้ว นอกจากมาคอยลุ้นว่า ลูกสุดท้ายใครจะพลาด หรือใครจะได้แต้ม. เอื้อย กับ โสนน้อย คิดตรงกันว่า นี่ไม่ใช่การแข่งขันเพื่อเอาชนะ หรือเอาเป็นเอาตาย. มันก็แค่เกม และมาเล่นกันเพื่อทดสอบฝีมือเท่านั้น. แต่คนดูนั่นสิ รู้สึกจะมีคนวางพนันกันแล้ว. แต่ก็ช่างเถอะ นั่นเป็นเรื่องของพวกเขา.
ลูกสุดท้ายแล้ว โสนน้อย หลับตารวบรวมสมาธิ นึกถึงภาพ พลายงาม กำลังถูกพ่อเลี้ยงจะฆ่า. เธอเป็นคนคว้าก้อนหินใส่หนังสะติ๊ก แล้วค่อยๆ เล็งไปที่หัวล้าน นั่นระยะมันไกลมาก. ไม่รู้ว่า วันนั้น ยิงไปตรงเป้าได้ยังไง, แต่ก็ยิงไปโดนหัวล้านถึง 2 ครั้ง. คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่. แต่คราวนี้ ระยะใกล้กว่า ไม่มีหนังสะติก แต่เป็นมือเปล่าๆ, สรุปแล้ว ก็ยากพอๆ กัน.
นี่ก็เป็นลูกสุดท้ายแล้วเช่นกัน, เอื้อย รวบรวมสมาธิอีกครั้ง. นานแล้ว ที่เธอไม่เคยทดสอบความแม่นยำ ดูมันยากอะไรอย่างนี้.
เอื้อย คิดในใจ, นึกถึงเหตุการณ์ช่วงเป็นเด็ก กลางหมู่บ้านป่า ขณะจะข้ามลำธารน้ำ. ภาพก็ปรากฏขึ้นมาในหัว วันที่เธอกำลังจะถูกงูพิษฉก. แต่สังข์ เล็งลูกธนูไปที่หัวของงูยักษ์ ช่วยชีวิตของเธอไว้ได้. สังข์ คงมีสายตาคมเป็นพิเศษแน่ๆ ที่ระยะไกลขนาดนั้น แต่เล็งลูกธนูได้ตรงเป้า. เธอรู้สึกร้อนๆ ขึ้นที่ปลายนิ้วมือ เหมือนมีคนคอยจับมือไว้ แล้วเหวี่ยงมือออกไปข้างหน้า. สวบ!
สารบัญ / ตอนที่ ปฐมบท -
บทที่ 2 สังข์ เอื้อย โสนน้อย
บทที่ 3 วันสังหาร
บทที่ 4 ชีวิตใหม่กลางภูผา
บทที่ 5 ภูติร้ายในป่ามรณะ
บทที่ 6 ประตูเวลาที่เรือนปีศาจ
บทที่ 7 หนอนทะเลทราย
บทที่ 8 หลุมดำดูดเวลา และการตามล่าของมนุษย์นอกจักรวาล
บทที่ 9 พบเพื่อนใหม่
บทที่ 10 ผจญภัยกลางมหาสมุทร
บทที่ 11 ปาฏิหาริย์ของเทพแห่งลิง
ภาคที่ 2: ฝ่าอุปสรรค เพื่อรักและอิสรภาพ
บทที่ 13 เทคโนโลยีล่องหน
บทที่ 14 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 1)
บทที่ 15 เส้นทางที่พลัดพราก
บทที่ 16 เมืองกาญจนา
บทที่ 17 บ้านของย่าทอง
บทที่ 18 วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน
บทที่ 19 ความรัก ความหวัง ยังไม่สิ้น
บทที่ 20 ตามหาเพื่อน
บทที่ 21 แหกคุกนรก นครพันธุรัฐ (ครั้งที่ 2)
ภาคที่ 3: รักนิรันดร์ ฝันเป็นจริง
บทที่ 23 นครรัฐเทพนารา
บทที่ 24 ชีวิตใหม่ ใจกลางมหานคร
บทที่ 25 ชีวิตจัดสรร ณ สันติอรุณ
บทที่ 26 สัมผัสแรก สัมผัสรัก
บทที่ 27 สังข์ทอง รจนา
บทที่ 28 วิกฤตของนครรัฐ
บทที่ 29 กู้วิกฤต
บทที่ 30 ฝันที่เป็นจริง
ปัจฉิมบท -
เพลง ฝ่าอุปสรรค ตามหารักนิรันดร์
|
|
|